การดูแลตัวเองด้วยโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ (Filler Program) เพิ่มเติมเต็มใบหน้า ซึ่งหลายคนคงสงสัยว่าควรทำที่ไหนดี หรือถ้าเจอราคาถูกจะทำดีไหม โดยทางคุณหมอเมฆ แพทย์ผู้ร่วมแชร์ประสบการณ์เทคนิคโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ แห่ง Doctor Mek Clinic ได้รวบรวมคำถามและหัวข้อที่น่าสนใจเกี่ยวกับโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์มาไว้ในบทความนี้แล้วค่ะ ซึ่งปัจจุบันเรื่องของการดูแลตัวเองด้วยสารเติมเต็มได้รับความนิยม เพราะช่วยปรับลุค เติมเต็มใบหน้า แก้ไขร่องลึกต่าง ๆ ให้ตื้นขึ้น ช่วยยกกระชับผิวหน้า ลดเลือนริ้วรอย เติมความมั่นใจ เสริมบุคลิกภาพ โดยในปัจจุบันมีตัวช่วยทางด้านความงามมากมายที่จะเข้ามาช่วยตอบโจทย์การดูแลตัวเองและแก้ไขปัญหาใบหน้า รวมถึงผิวพรรณโดยรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รู้จักกับโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ คืออะไร และข้อควรรู้ก่อนทำ
สารเติมเต็มหรือฟิลเลอร์ คือ สารจำพวก Hyaluronic Acid ซึ่งถูกนำมาใช้เพื่อเติมเต็มใบหน้า โดยเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายของเราตามธรรมชาติ เมื่อนำมาฉีดเติมเข้าสู่ร่างกาย โดยปกติแล้วจะเข้าไปเติมเต็มใต้ชั้นผิวในบริเวณนั้นให้แน่นขึ้น ส่งผลทำให้ผิวกระชับ เต่งตึง อิ่มฟู เต็มขึ้น หน้าดูสดใส ไม่โทรม และเมื่อเวลาผ่านไปจะค่อย ๆ สลายไปได้เอง เพราะร่างกายของเรามีเอ็นไซม์ที่สามารถย่อยสลายสารประเภทนี้ได้ ทำให้ไม่เกิดการตกค้างในร่างกาย
เนื่องจากใบหน้าคือส่วนที่มองเห็นได้เป็นอันดับแรก และเป็นจุดที่คนมักจะโฟกัสก่อนจุดอื่น ๆ เรียกว่าเป็นการสร้างความประทับใจเมื่อแรกเห็นก็ว่าได้ การดูแลให้ใบหน้าดูดีขึ้น มีความโดดเด่น จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ การฉีดสารเติมเต็มจึงเข้ามาตอบโจทย์ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ซึ่งใบหน้าของคนเราแต่ละคนมีความแตกต่างกันไปทั้งโครงสร้างใบหน้า โครงสร้างกระดูก สภาพผิว โดยสารเติมเต็มในปัจจุบันนี้ มีอยู่หลากหลายยี่ห้อ ซึ่งถูกพัฒนาต่อยอดออกมามากมายเพื่อให้ตอบโจทย์กับปัญหาแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้น จึงเป็นการเติมเต็มที่เหมาะกับการดูแลแก้ไขปัญหาที่มีความหลากหลาย ช่วยให้เห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ช่วยเติมใบหน้าให้มีมิติ เติมส่วนที่หาย เพิ่มส่วนที่ขาดให้ใบหน้าได้สัดส่วน ผิวกระชับเต่งตึง ไม่หย่อนคล้อย และยังช่วยให้หน้าดูอ่อนวัยได้อีกด้วย
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ช่วยอะไร
การทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ช่วยอะไร หลัก ๆ แล้วจะช่วยในเรื่องของการเติมเต็มผิวบนใบหน้า ปรับโครงหน้าให้ดูละมุน มีมิติมากยิ่งขึ้น ทำให้ร่องลึกตามจุดต่าง ๆ บนใบหน้าดูตื้นขึ้น เช่น ร่องแก้ม ร่องขมับ พร้อมทั้งแก้ไขในจุดที่ต้องการความละเอียดสูงได้ดี เช่น การทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตาซึ่งเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ซึ่งนอกจากนี้แล้ว ยังสามารถช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิว พร้อมยกกระชับปรับรูปหน้าให้มีมิติ ให้ผิวหน้ากลับมาดูสวยละมุนแลดูเป็นธรรมชาติ
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์บริเวณใดได้บ้าง
การทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์สามารถทำได้ในหลายจุดทั่วหน้า แต่ก็ยังมีจุดอื่น ๆ ที่ คุณหมอเมฆ แนะนำฉีดฟิลเลอร์ได้ด้วยค่ะ เพื่อเป็นการเติมเต็มผิวในบริเวณนั้นให้เต่งตึง อิ่มฟูเต็มขึ้น รวมถึงปรับแต่งรูปทรง ยกกระชับปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนมากยิ่งขึ้น มาดูกันค่ะว่ามีจุดไหนที่สามารถฉีดได้บ้าง
โปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตา
อีกหนึ่งจุดที่นิยมทำเพื่อแก้ปัญหาหมองคล้ำใต้ตา เติมเต็มให้เรียบเนียน กระจ่างใสขึ้น ใบหน้าสดใสขึ้น
โปรแกรมฟิลเลอร์ปาก
ปากทรงสวยอวบอิ่ม มีน้ำมีนวล โดดเด่นมีเสน่ห์ ช่วยให้ใบหน้าดูละมุน เสริมความมั่นใจ ยิ้มได้เต็มที่
โปรแกรมฟิลเลอร์คาง
ช่วยแก้ปัญหาหน้าสั้น คางทู่ ปรับรูปหน้าให้ดูยาวขึ้นมีวีเชพ หน้าละมุนได้สัดส่วนมากยิ่งขึ้น
โปรแกรมฟิลเลอร์ร่องแก้ม
เติมเต็มร่องแก้มให้ตื้นขึ้น ยิ้มได้อย่างมั่นใจ ผิวหน้าไม่ดูหย่อนคล้อยเพราะร่องลึก ใบหน้าดูสดใสแลดูอ่อนเยาว์
โปรแกรมฟิลเลอร์หน้าผาก
เติมเต็มหน้าผาก ช่วยให้หน้าดูมีมิติ ไม่แบน เพิ่มความโค้งนูน เพิ่มความมั่นใจ
โปรแกรมฟิลเลอร์ขมับ
เติมเต็มส่วนที่ขาดหาย เสริมใบหน้าให้แลดูละมุนยิ่งขึ้น ช่วยให้หน้าดูอ่อนวัยแลดูเป็นธรรมชาติ
โปรแกรมฟิลเลอร์แก้มตอบ
ลดความเด่นของโหนกแก้ม ปรับให้หน้าไม่ดูดุ แก้อิ่มเต็มขึ้น ช่วยให้หน้าดูสดใสขึ้น
โปรแกรมฟิลเลอร์กรอบหน้า
แก้ปัญหาหน้ากลม ช่วยเพิ่มมิติให้กรอบหน้าแลดูชัด ดูมีวีเชพ ใบหน้าได้สัดส่วนมากขึ้น
โปรแกรมฟิลเลอร์มือ
แก้ปัญหาผิวมือแห้งกร้าน เหี่ยวย่น คืนผิวสัมผัสที่นุ่มนวลให้กลับมา ผิวมือเต่งตึง เติมความชุ่มชื้น
โปรแกรมฟิลเลอร์คอ
จัดการผิวคอให้เรียบลื่น เติมเต็มรอยพับรอยร่องลึกให้ตื้นขึ้น แก้ผิวเหี่ยวย่นให้กลับมาเต่งตึง สดใสกว่าที่เคย
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว
ปรับผิวกระจ่างใส เรียบเนียนสม่ำเสมอมากขึ้น ผิวอ่อนเยาว์และเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว
โปรแกรมดอลลี่อาย
หนึ่งในบริเวณที่นิยมทำเพื่อให้ใบหน้าแลดูเด็กลง เติมความคิ้วท์ ปรับลุคหน้าละมุนหวานขึ้น
โปรแกรมฟิลเลอร์เปลือกตา
แก้ดวงตาโหล ลึก เนื้อเปลือกตาน้อยที่ทำให้หน้าไม่สดใส ช่วยให้เปลือกตาเรียบเนียน ใบหน้าดูสวยละมุน
โปรแกรมฟิลเลอร์แก้มส้ม
เติมแก้มส้มให้ใบหน้าดูละมุนสวย หน้าไม่แบน ดูมีมิติ ช่วยยกกระชับทำให้หน้าแลดูอ่อนวัย
โปรแกรมฟิลเลอร์ร่องน้ำหมาก
ช่วยลดริ้วรอยร่องลึกให้แลดูตื้น ทำให้ใบหน้าดูสดใส หน้าไม่ดูดุและแลดูอ่อนเยาว์
โปรแกรมฟิลเลอร์จมูก
แก้ไขทรงจมูกให้ได้รูป ปรับจุดศูนย์กลางของใบหน้าให้เข้าที่ ดูโด่ง เสริมความมั่นใจให้ดูดีขึ้น
โปรแกรมฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว
ปรับสภาพผิวให้ฉ่ำโกลว์ เรียบเนียน แต่งหน้าติดทนนานมากยิ่งขึ้น
โปรแกรมฟิลเลอร์น้องชาย
โดยไม่ต้องผ่าตัด เพิ่มความมั่นใจให้คุณผู้ชาย
โปรแกรมฟิลเลอร์น้องสาว
ปรับรูปลักษณ์ให้ดูสวยงาม แก้ไขริ้วรอยหรือรอยย่นให้กลับมาอวบอิ่มตึงกระชับ
สารเติมเต็มหรือ Filler มีกี่ประเภท
โดยหลัก ๆ ทั่วไป สารเติมเต็มหรือ Filler มีด้วยกัน 3 ประเภท แบ่งไปตามลักษณะความคงทนของผลลัพธ์ ไปดูข้อมูลเบื้องต้นกันดีกว่าค่ะว่ามีลักษณะแบบไหนกันบ้าง
แบบไม่ถาวร
(Temporary Filler)
เป็นสารเติมเต็มชนิดชั่วคราวซึ่งจะสลายไปได้เองตามธรรมชาติ หรือที่รู้จักกันดีคือ สารประเภท HA-Filler หรือ ไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) เมื่อฉีดเข้าไปในร่างกายจะเข้าไปเติมเต็มและช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวให้เส้นใยแน่นขึ้น ผลลัพธ์คงอยู่ได้ไม่นาน ตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป จนถึง 2 ปี ซึ่งหลังจากนี้ก็จะค่อยสลายไปได้เอง ไม่ทำให้เกิดการตกค้างในร่างกาย เป็นประเภทที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน
แบบกึ่งถาวร
(Semi-Permanent Filler)
เป็นกลุ่มสารเติมเต็มที่คงอยู่ได้นานกว่าและปลอดภัยน้อยกว่าแบบไม่ถาวร เมื่อฉีดเข้าร่างกายสามารถคงอยู่ได้นานถึง 5 ปี และสลายไปได้ไม่หมด เกิดการตกค้างบางส่วนในร่างกาย หากต้องการแก้ไขก็จะทำได้ยาก
แบบถาวร
(Permanent Filler)
เป็นสารเติมเต็มประเภทที่จะไม่สลายไป และจะคงอยู่ร่างกายไปตลอด เป็นสารในกลุ่มซิลิโคนเหลว หรือกลุ่มสารจำพวกพาราฟิน เมื่อฉีดเข้าสู่ร่างกายจะเกิดการตกค้างไม่สลายตัว ทำให้เกิดผลกระทบในระยะยาว เช่น ไหลย้อย เกิดการผิดรูปของผิวหนัง หรือเกิดอาการอักเสบรุนแรงขึ้นได้ โดยวิธีการแก้ไขทำได้เพียงการผ่าตัดหรือขูดออกเท่านั้น
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์เหมาะกับใครบ้าง
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับปรับรูปหน้าให้สมส่วนมากยิ่งขึ้น
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเติมเต็มร่องลึกต่าง ๆ บนใบหน้าให้ดูเต็ม อิ่มฟู
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเติมเต็มเฉพาะจุดเพื่อเพิ่มวอลลุ่ม เช่น การฉีดบริเวณปาก
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับแต่งรูปทรงให้ใบหน้ามีมิติขึ้น เช่น เติมหน้าผากให้โค้งนูน, เติมคางให้ใบหน้าดูเรียวยาวขึ้น เป็นต้น
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผิวที่ดูเรียบเนียน ลดริ้วรอย
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ผิวหน้ากลับมาดูดอ่อนเยาว์
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
ยี่ห้อฟิลเลอร์หรือสารเติมเต็มที่ได้มาตรฐาน
การเลือกยี่ห้อ ควรเลือกสารเติมเต็มหรือฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี คงเป็นข้อสงสัยในใจของใครหลายคน หากจะพูดกันจริง ๆ แล้ว ไม่มียี่ห้อไหนดีที่สุด มีเพียงแต่ยี่ห้อไหนเหมาะกับปัญหาและสภาพผิวของเรามากกว่า เพราะสารเติมเต็มที่ได้มาตรฐานนั้น มีด้วยกันหลายรุ่น หลากหลายคุณสมบัติให้เลือกใช้ตามความต้องการ ปัญหา และความเหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละรายบุคคล ซึ่งโมเลกุลของสารเติมเต็มก็จะมีความแตกต่างกันไปด้วย ทำให้ต้องอาศัยทักษะของทีมแพทย์ในการเลือกยี่ห้อที่มีโมเลกุลให้เหมาะสมกับปัญหาและตำแหน่งชั้นผิว ที่จะทำการวางสารเติมเต็มลงไปได้อย่างถูกต้อง โดยมียี่ห้อที่ได้มาตรฐานและถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในบ้านเรา ซึ่งมีความโดดเด่นแตกต่างกันไปให้เลือกใช้กันอย่างหลากหลาย ดังนี้
Restylane
ยี่ห้อ restylane filler ดีไหม โดยเป็นผลิตภัณฑ์จากสวีเดน ซึ่งเป็นสารเติมเต็มที่คนมักจะได้ยินชื่อกันบ่อย ๆ มีหลากหลายรุ่น ตอบโจทย์ความต้องการทั้งยกกระชับปรับรูปหน้า เติมเต็มส่วนที่ขาดหาย เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่น เป็นธรรมชาติ
- Restylane Lidocaine เป็นรุ่นที่มีโมเลกุลเล็ก เนื้อสัมผัสจึงบางเบา เหมาะสำหรับเติมเต็มในส่วนของร่องน้ำหมาก เติมเต็มในส่วนที่ไม่ใช่ผิวชั้นลึกมาก
- Restylane Refyne เป็นรุ่นที่มีความเข้ากันได้ดีกับคนที่มีผิวบาง เหมาะกับการเติมเต็มบริเวณ ร่องแก้ม และร่องน้ำหมาก
- Restylane Defyne เป็นสารเติมเต็มรุ่นที่มีความเหมาะกับการเน้นยกกระชับ เติมกรอบหน้า สามารถวางในตำแหน่งของชั้นผิวในระดับกลาง หรือชั้นไขมันได้ดี
- Restylane Lyft เหมาะกับการใช้เติมเต็มขึ้นทรงปรับแต่งรูปหน้า ให้มีมิติ หน้าดคมชัด ยังสามารถช่วยยกกระชับกรอบหน้าได้อีกด้วย หรือเติมเต็มบริเวณคาง ปรับรูปทรงให้ได้สัดส่วนมากยิ่งขึ้น
- Restylane Volyme ช่วยเพิ่มมิติให้กับบริเวณขมับยุบได้ดี ทั้งยังสามารถนำไปใช้ยกกระชับในส่วนของใบหน้า รวมไปถึงแก้ปัญหาแก้มตอบได้อีกด้วย
- Restylane Vital เป็นรุ่นที่มีโมเลกุลบางเบา สามารถทำไปใช้เติมเต็มได้กับทุกส่วน เหมาะกับเติมเต็มไปยังผิวชั้นตื้น เพื่อเน้นช่วยให้ผิวมีความกระจ่างใสขึ้น สามารถฉีดได้ทั้งตำแหน่งมือหรือตำแหน่งคอได้อีกด้วย
- Restylane Vital Light มีเนื้อสัมผัสที่นิ่ม จึงเหมาะกับการใช้ในบริเวณกว้างที่มีปัญหาไม่หนัก ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น ช่วยให้ร่องเล็ก ๆ บนผิวดูตื้นขึ้น ฉีดได้ทั้งบริเวณคอ และหลังมือ
Juvéderm
ผลิตภัณฑ์สารเติมเต็ม juvederm filler จากสหรัฐอเมริกา เหมาะใช้ขึ้นรูปใบหน้าให้แลดูสวยกลมกลืน ไม่เป็นก้อน ดูเป็นธรรมชาติ ที่มีความหลากหลายของคุณสมบัติ มีทั้งรุ่นที่สามารถคงผลลัพธ์ 2 ปี สารเติมเต็มหรือฟิลเลอร์ juvederm ช่วยให้ใบหน้าดูมีมิติ เพิ่มความชัดของรูปหน้ามากขึ้น เติมเต็มร่องริ้วรอยต่าง ๆ คงตัวได้ดี จึงเป็นอีกผลิตภัณฑ์ที่สามารถเลือกใช้ให้เหมาะกับปัญหา และสภาพผิวได้เป็นอย่างดี
- Juvéderm Ultra เหมาะกับการเติมเต็มร่องแก้ม แก้ปัญหาขมับยุบ ผิวดูอิ่มน้ำชุ่มชื้น เต่งตึง
- Juvéderm Ultra Plus นอกจากจะสามารถเติมเต็มร่องลึกต่าง ๆ บนใบหน้าได้แล้ว ยังเหมาะกับการเติมขมับ หรือแก้ปัญหาแก้มตอบได้อีกด้วย
- Juvéderm Volbella คุณสมบัติของโมเลกุลมีขนาดเล็ก เหมาะกับการเติมเต็มบริเวณใต้ตา ริมฝีปาก ช่วยให้แลดูเป็นธรรมชาติ
- Juvéderm Volift เหมาะกับการเติมเต็มร่องลึกต่าง ๆ บนใบหน้า สามารถกระจายตัวได้ดี ใช้เติมเต็มเพื่อแก้ไขบริเวณจุดต่าง ๆ ได้ดี ฉีดแล้วไม่เป็นก้อน แลดูเป็นธรรมชาติ
- Juvéderm Voluma มีคุณสมบัติที่ใช้งานได้หลากหลาย เป็นสารเติมเต็มที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ ใช้แก้ไขปัญหา บริเวณแก้ม ยกกระชับใบหน้า เติมเต็มขมับ ฉีดบริเวณคาง รวมถึงใช้ในการปรับรูปหน้าให้มี V-Shape กรอบหน้าชัดขึ้น ช่วยให้หน้าดูมีมิติได้อีกด้วย
- Juvéderm Volite เป็นรุ่นที่เหมาะกับการใช้ลดเลือนริ้วรอย ปรับสภาพผิวให้ดูเรียบเนียนขึ้น กระจ่างใสมากขึ้น สามารถใช้เติมเต็มได้ทั้งบริเวณใต้ตา บริเวณหลังมือ บริเวณคอ และผิวบริเวณอกได้อีกด้วย
- Juvéderm Volux เป็นรุ่นที่มีขนาดโมเลกุลที่ใหญ่ เนื้อหนัก สามารถคงตัวและขึ้นรูปทรงได้ดี จึงเหมาะที่จะใช้เติมเต็มบริเวณกรอบหน้า คาง บริเวณกราม หรือในชั้นผิวใกล้กระดูก ช่วยในการยกกระชับปรับรูปหน้า ขึ้นทรงได้ง่าย เพิ่มความคมชัด เติมมิติให้กับรูปหน้าได้ดี
Belotero
ผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มฟิลเลอร์ belotero ดีไหม โดยเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการพัฒนาและผลิตจากสวิตเซอร์แลนด์ ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั้งในยุโรปและประเทศไทย สำหรับ ผลิตภัณฑ์สารเติมเต็ม belotero filler มีทั้งรุ่นที่เติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิว เติมเต็มร่องลึก รวมถึงปรับรูปหน้าพร้อมยกกระชับไปในตัว
- Belotero Soft มีคุณสมบัติเติมเต็มให้ผิวชุ่มชื้น ปรับผิวกระจ่างใสด้วยเทคนิค Skin Booster สามารถใช้เติมเต็มบริเวณใต้ตาได้
- Belotero Balance สามารถใช้แก้ปัญหาหลุมสิว ลดเลือนริ้วรอย รวมไปถึงเติมเต็มริมฝีปากได้
- Belotero Intense มีคุณสมบัติที่เหมาะกับการเลือกใช้เพื่อเติมเต็มร่องแก้ม หรือร่องน้ำหมากได้ดี
- Belotero Volume เป็นรุ่นที่มีโมเลกุลที่เกมาะกับการปรับรูปหน้า เติมเต็มบริเวณคาง ขมับ แก้ม รวมไปถึงยกกระชับผิวหน้าได้อีกด้วย
Neuramis
สารเติมเต็มหรือฟิลเลอร์ neuramis ดีไหม ผลิตภัณฑ์จากเกาหลีใต้ ผลิตด้วยเทคโนโลยีของนิวรามิส SHAPE Technology ที่ช่วยให้ตัวเนื้อเจลมีคงตัว และให้ผลลัพธ์ที่แลดูเป็นธรรมชาติและยังสามารถเติมเต็มได้หลายจุดบนใบหน้า
- Neuramis Deep เป็นผลิตภัณฑ์ที่เนื้อเจลมีความแข็งระดับปานกลาง เนื้อของสารเติมเต็มมีความฟู สามารถใช้เติมเต็มร่องลึกต่าง ๆ บนใบหน้าได้ดี แต่เป็นรุ่นที่ไม่มีส่วนผสมของยาชา
- Neuramis Deep Lidocaine มีคุณสมบัติเหมือนกับรุ่น Deep ที่แตกต่างคือมีส่วนผสมของยาชา โดยตัวเนื้อสัมผัสมีความแข็งปานกลาง มีความอิ่มฟู สามารถเติมเต็มส่วนต่าง ๆ บนใบหน้าได้
- Neuramis Volume Lidocaine เป็นสารเติมเต็มรุ่นที่มีเนื้อเจลแข็ง แต่มีคุณสมบัติที่สามารถกลืนเข้ากับผิวได้เป็นอย่างดี เนื้อเจลยืดหยุ่น สามารถปั้นขึ้นทรงได้ มีความคงตัวดี
Yvoire
สารเติมเต็ม yvoire filler ดีไหม ผลิตภัณฑ์จากเกาหลีใต้ มีอยู่ด้วยกัน 3 รุ่น ซึ่งมีขนาดโมเลกุลที่แตกต่างกันเหมาะกับทั้งเติมเต็มร่องลึก ยกกระชับ ปรับรูปหน้า ขึ้นรูปปั้นทรงได้ดี สารเติมเต็มหรือฟิลเลอร์เกาหลี yvoire ช่วยให้หน้ามีมิติมากขึ้น มีทั้งรุ่นที่สามารถฉีดในผิวชั้นลึกและผิวชั้นตื้นได้
- Yvoire Classic Plus เป็นสารเติมเต็มที่มีโมเลกุลเล็ก ฉีดง่าย ไม่ไหลย้อย ไม่ย้วย เรียบเนียน เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา ฉีดบริเวณที่ตื้น หรือในสภาพผิวที่บาง จะช่วยทำให้ไม่ดูเป็นก้อน เป็นธรรมชาติ
- Yvoire Volume Plus เป็นสารเติมเต็มที่มีโมเลกุลขนาดกลาง ขึ้นรูปได้ดี เรียบเนียน สามารถฉีดได้หลายตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นบริเวณปาก ร่องแก้ม เป็นต้น ช่วยเพิ่มโวลุ่มให้กับชั้นผิว ซึ่งสามารถที่จะฉีดผสมกับสารเติมเต็มโมเลกุลขนาดเล็กได้ด้วย โดยขึ้นอยู่กับเทคนิคและการวิเคราะห์ของคุณหมอผู้ทำการรักษา
- Yvoire Contour เป็นสารเติมเต็มที่มี Duo Particle เป็นการผสมโมเลกุลขนาดใหญ่และเล็กเข้าด้วยกัน ช่วยให้ขึ้นรูปทรง ยึดเกาะ และเซ็ตตัวได้ดี ผลลัพธ์ที่ออกมาคมชัด ดูมีมิติ เป็นรุ่นที่ไม่ผสมยาชา เหมาะกับการใช้ฉีดยกกระชับผิว รวมถึงใช้เติมเต็มกรอบหน้าได้อีกด้วย
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ที่ Doctor Mek Clinic
เพราะทุกการเติมเต็มใบหน้า แพทย์จะใช้ทั้งศาสตร์ทางการแพทย์ รวมไปถึงศิลปะในการตกแต่งใบหน้าแบบรายบุคคลให้ออกมาแลดูเป็นธรรมชาติ โดยยึดหลักความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะบุคคลเอาไว้อยู่ ร่วมกับการใช้เทคนิค “Triple Layer Lift” ซึ่งเป็นเทคนิคโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ทั้งหมด 3 ระดับ ได้แก่ ชั้นกระดูก ชั้นไขมัน และชั้นผิวหนัง โดยแต่ละชั้นก็จะมีการแก้ไขที่แตกต่างกันออกไป ตามสภาพปัญหาผิวของคนไข้แต่ละคน ในทุก ๆ เคสจะให้การดูแลโดยแพทย์ และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มที่มีประสิทธิภาพและได้มาตรฐาน โดยสามารถตรวจสอบได้ทุกกล่อง รวมถึงมีการแกะกล่องให้คนไข้ดูต่อหน้า และมีการตรวจวิเคราะห์ปัญหาผิวและรูปทรงใบหน้าก่อนทำการรักษา
หมอเมฆ โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ราคาเท่าไหร่
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ ราคาจะขึ้นอยู่กับแต่ละยี่ห้อ และโปรโมชั่นที่ต่างกันออกไปในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งราคาก็ยังไม่ใช่เหตุผลหลักที่จะทำให้เราได้ผลลัพธ์ออกมาดี ดังนั้น สิ่งสำคัญที่ต้องทำ คือ การหาข้อมูลอย่างถี่ด้วน ทั้งข้อมูลของแพทย์และคลินิกหรือสถานพยาบาล รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้ด้วย โดยแนะนำให้เข้าไปพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาโดยตรง จะช่วยให้เราได้รับข้อมูลที่ละเอียด ครบถ้วน และสามารถซักถามข้อมูลเชิงลึก รวมถึงข้อสงสัยต่าง ๆ มากมายได้อย่างถูกต้อง เพราะข้อมูลจากในแหล่งอื่น ๆ ที่ไม่ใช่จากแพทย์โดยตรง เราไม่สามารถที่จะมั่นใจได้ว่าถูกต้องทั้งหมด ดังนั้น การเข้าพบแพทย์จึงเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนั้นยังจะช่วยให้เราได้เห็นถึงบรรยากาศของคลินิก และการดูแลของพนักงานในคลินิกได้อีกด้วย เพื่อที่เราจะได้นำมาประกอบการตัดสินใจได้อย่างดี เพราะสิ่งที่ดีและมีคุณภาพไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคาที่ถูกหรือแพง แต่ขึ้นอยู่กับทักษะของแพทย์และผลลัพธ์ที่ออกมาดี ตอบโจทย์กับความต้องการเรา รวมถึงเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดูดีขึ้น โดยหากต้องการทราบราคาและโปรโมชั่นในช่วงเวลานั้น ๆ จะเป็นอย่างไร คนไข้สามารถทักเข้ามาสอบถามแอดมินเพื่อขอรับข้อมูลได้โดยตรงค่ะ
ข้อควรพิจารณาในการเลือกฉีดที่ไหนดี
เลือกโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี คงเป็นอีกหนึ่งคำถามอันดับต้น ๆ ที่ทุกคนอยากจะรู้ เพื่อให้ตัวเองตัดสินใจเลือกฉีดได้ไม่ผิดพลาด ทำแล้วได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ไม่เกิดปัญหาตามมา ไปเช็คลิสต์กันตามนี้ได้เลยค่ะ
- ต้องเลือกคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน สะอาด ได้รับรองอย่างถูกต้อง
- แพทย์ต้องมีทักษะที่สามารถประเมินปัญหา สภาพผิว และสามารถวางตำแหน่งสารเติมเต็มใต้ชั้นผิวได้อย่างถูกต้อง ทำให้ได้ผลลัพธ์ออกมาดี
- ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ต้องเป็นสารเติมเต็มที่ได้มาตรฐาน และสามารถตรวจสอบข้อมูลผลิตภัณฑ์ทุกตัวที่ใช้ได้
- พนักงานให้บริการอย่างใกล้ชิด สามารถให้คำปรึกษาและข้อมูลเบื้องต้นได้อย่างละเอียด พร้อมทั้งติดตามเคสคนไข้หลังการรักษาอย่างต่อเนื่อง
- รีวิวคนไข้จริงเยอะ การดูรีวิวคนไข้จริงเป็นส่วนประกอบหนึ่งที่สำคัญ เพราะจะทำให้ได้เห็นถึงทักษะของแพทย์ได้อย่างชัดเจน
เลือกที่ราคาถูก มีความเสี่ยงอะไรบ้าง
เลือกทำที่ไหนดีที่ราคาถูกเพราะใคร ๆ ก็อยากได้ของถูก หากเราจะเลือกแต่ของราคาถูกเท่านั้น คงเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ บอกได้เลยว่าผลลัพธ์ที่ได้มาไม่คุ้มค่ะ เพราะบริการที่มีราคาถูกมักจะมีความเสี่ยงที่จะใช้สารเติมเต็มเป็นของปลอมสูงมาก หรือเป็นสารเติมเต็มที่ไม่ได้มาตรฐาน เมื่อฉีดเข้าไปแล้วอาจส่งผลร้ายแรงตามมา ไม่ว่าจะเป็นอาการบวมแดงอักเสบติดเชื้อรุนแรง เกิดการไหลย้อย รวมถึงเกิดการผิดรูปของใบหน้าขึ้นได้ เมื่อเกิดปัญหาขึ้นการแก้ไขมีเพียงการผ่าตัดหรือขูดออกเท่านั้น ดังนั้น ไม่ควรเลือกที่ราคาถูกหรือราคาแพง แต่เราควรเลือกสิ่งที่ดีให้กับตัวเรา ต้องเช็คข้อมูลตรวจสอบผลิตภัณฑ์ให้ละเอียดถี่ถ้วนว่าเป็นของที่ได้มาตรฐานเท่านั้น เพื่อป้องกันผลลัพธ์อันตรายร้ายแรงที่จะเกิดขึ้นภายหลัง
เปรียบเทียบก่อนและหลังทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์
รีวิวจากดาราและเซเลบริตี้
รีวิวโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์จากคนไข้จริง เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญที่จะช่วยให้การตัดสินใจนั้นง่ายขึ้น เพราะเราจะได้เห็นทักษะของคุณหมอและผลลัพธ์ที่ออกมาได้อย่างชัดเจน ซึ่งแพทย์แต่ละคนจะมีผลงานที่ไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับทักษะจึงจะทำให้ผลลัพธ์ออกมาดี ได้เห็นถึงความประทับใจของคนไข้ที่เข้ามารับบริการจากคลินิก โดยทางเราได้รวบรวมรีวิวจากคนไข้จริงบางส่วนที่เข้ามาใช้บริการกับทาง Doctor Mek Clinic นอกจากนี้ ยังมีเหล่าดาราและเซเลบริตี้เลือกใช้บริการและยังเป็นการแนะนำบอกต่อของคนในวงการบันเทิงจนทำให้โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ หมอเมฆ กลายเป็นที่พูดถึงเป็นจำนวนมาก
ไปดูรวมรีวิวจากดาราและเซเลบริตี้กันได้เลยค่ะ
ผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน ดูยังไง
เนื่องจากความนิยมของการใช้สารเติมเต็มที่มากขึ้นในปัจจุบัน ทำให้เกิดการผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกมาหลากหลายยี่ห้อ หลากหลายรุ่นและคุณสมบัติ จึงทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ปลอมแพร่หลายในท้องตลาดจำนวนมาก โดยของปลอมเหล่านี้จะเป็นสารจำพวกซิลิโคนเหลวหรือสารอื่น ๆ ทำให้เมื่อฉีดเข้าไปในร่างกายจะเกิดอาการแพ้ ร่างกายต่อต้านรุนแรง เกิดก้อนปูดบวม แดง อักเสบ รวมไปถึงการไหลย้อย เกิดการผิดรูปขึ้นได้ โดยสารเติมเต็มที่เป็นของปลอมเหล่านี้จะไม่สามารถสลายได้เองและต้องทำการผ่าตัดหรือขูดออก ดังนั้น ก่อนที่จะทำการฉีดต้องขอให้แพทย์แกะกล่องใหม่ต่อหน้า และขอตรวจสอบผลิตภัณฑ์ทุกครั้ง มาดูกันดีกว่าค่ะว่าจะสามารถตรวจสอบ หรือมีวิธีเช็คเบื้องต้นได้อย่างไรบ้าง
- ข้างกล่องต้องมีหมายเลขอ้างอิง Lot และวันหมดอายุ
- สภาพกล่องต้องอยู่ในสภาพที่ใหม่ไม่มีการเปิดมาแล้ว ไม่มีรอยฉีกขาด
- ภายในเป็นหลอดสารเติมเต็มมาในรูปแบบของแพ็คเกจ Sterile Set พร้อมใช้งาน มีฝาหรือจุกปิดที่ปลายหลอดยา สามารถยืนยันได้ว่านั่นคือ ยาหลอดใหม่
- ที่ตัวหลอดยามีการระบุรุ่นที่ผลิต Lot และวันหมดอายุไว้อย่างชัดเจน ซึ่งต้องตรงกับที่ระบุไว้ที่ข้างกล่องด้วย
- มีเอกสารสำคัญกำกับยาและข้อมูลของสารเติมเต็มชนิดนั้น ๆ เพื่อเป็นข้อมูลรายละเอียดไว้สำหรับศึกษา
- สามารถตรวจสอบกลับไปที่บริษัทผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายได้ เพื่อเช็กความถูกต้องว่าเป็นของที่ได้มาตรฐาน
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม
เรื่องของความอันตรายจากทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ มักเกิดขึ้นจากแพทย์ขาดทักษะ ทำให้การคำนวนปริมาณและการวางตำแหน่งสารเติมเต็มไม่ถูกตำแหน่ง อาจเกิดการพลาดไปถูกเส้นเลือดจนเกิดการอุดตันที่เส้นเลือดได้ หรือการแทงเข็มถี่ ๆ ย้ำหลายรอบมากเกินไป ทำให้เส้นเลือดฝอยแตกเกิดเป็นรอยสีม่วงขึ้นได้หลังทำ ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ขึ้นตามมา ดังนั้น การทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม หากฉีดกับแพทย์ที่มีทักษะรวมถึงใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานก็จะทำให้ลดความเสี่ยงที่จะไม่เกิดปัญหาหรืออันตรายหลังทำตามมาค่ะ
ข้อดีของการฉีดสารเติมเต็มที่ได้มาตรฐาน
สารเติมเต็มที่ได้มาตรฐาน อย่างที่ได้ทราบกันข้างต้นแล้วว่า เป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายของเราตามธรรมชาติอยู่แล้ว จึงทำให้แทบไม่เกิดอาการแพ้ขึ้นเลย โดยข้อดีของการฉีดสารเติมเต็มเหล่านี้เข้าไป ถือเป็นการไปช่วยเสริมจุดที่ขาด เพิ่มจุดที่หาย เห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรก ไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ ดูเป็นธรรมชาติ เหมือนเป็นการเติมน้ำให้กับผิว ทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวให้แน่นขึ้นได้อีกด้วย จึงทำให้หลังจากที่สารเติมเต็มสลายไปจนหมดแล้ว ผลลัพธ์จะยังคงดูดีไม่กลับไปโทรมเหมือนตอนก่อนฉีดค่ะ
อันตรายจากการฉีดสารเติมเต็มที่ไม่ได้มาตรฐาน
เป็นการใช้สารเติมเต็มจำพวกซิลิโคนเหลวหรือพาราฟิน หลังฉีดเข้าไปในร่างกายจะไม่เกิดการสลายตัว เกิดการตกค้างในร่างกาย ทำให้เกิดการอักเสบ บวมแดง มีผื่นคัน เกิดการติดเชื้อ เกิดการไหลย้อย ผิดรูปไม่เป็นทรง หากปล่อยไว้นาน ๆ อาจถึงขั้นเนื้อตาย การแก้ไขทำได้ยากมีเพียงผ่าตัดหรือขูดออกเท่านั้น หรือแม้กระทั่งการใช้ยาหิ้วซึ่งขบวนการจัดเก็บและขนส่งไม่มีมาตรฐาน ทำให้ตัวยาเสื่อมคุณภาพ รวมถึงหมอกระเป๋าที่ทำการฉีดซึ่งไม่ใช่แพทย์ สถานที่ไม่สะอาด เมื่อนำมาฉีดเข้าร่างกายจึงเกิดผลเสียขึ้นได้ทั้งการติดเชื้อ ใบหน้าผิดรูป รวมไปถึงอาจอันตรายร้ายแรงตามมา
จำนวน CC ที่ใช้ในโปรแกรมฉีด Filler พิจารณาจากอะไรบ้าง
ปริมาณของสารเติมเต็มซึ่งเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผลลัพธ์ออกมาดี และเห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจน เพื่อให้ออกมาเข้ากับใบหน้าของคนไข้ ดูดีขึ้น แลดูเป็นธรรมชาติ ไปดูข้อมูลกันค่ะว่าจำนวน CC ที่ใช้ขึ้นกับอะไรบ้าง
- แพทย์ผู้ทำหัตถการ ต้องเป็นผู้มีทักษะจึงจะสามารถคำนวนปริมาณ CC ที่ใช้ และสามารถวางตำแหน่งของสารเติมเต็มได้อย่างถูกต้อง ผลลัพธ์จึงจะออกมาดูดีแลดูเป็นธรรมชาติ
- บริเวณที่ฉีดแต่ละตำแหน่งบนใบหน้าก็มีผลกับปริมาณ CC ที่จะใช้ด้วยเช่นกัน เนื่องจากความตื้น ความลึกของชั้นผิวแต่ละจุดบนใบหน้าก็ต่างกันออกไป หากใช้ในปริมาณที่มากกับการฉีดในชั้นผิวที่ตื้นก็อาจจะทำให้ดูเป็นก้อนขึ้นได้ หรือหากใช้ปริมาณที่น้อยกับชั้นผิวที่ลึกก็อาจจะไม่เห็นผลเลย
- ชนิดของสารเติมเต็มที่ใช้ โดยสารเติมเต็มแต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละรุ่น มีทั้งโมเลกุลเล็กไปจนถึงโมเลกุลใหญ่ ซึ่งมีผลกับการคำนวนปริมาณการใช้ด้วยค่ะ เช่น หากใช้รุ่นที่มีโมเลกุลใหญ่ในปริมาณที่มากเกินไปก็อาจจะทำให้บริเวณนั้นดูเยอะ ดูเกินความพอดี ทำให้หน้าอาจดูแข็งได้
- โครงสร้างของใบหน้า รูปหน้าของแต่ละคนก็มีความแตกต่างกันออกไป ทั้งความหนาของกระดูก ความหนาชั้นกล้ามเนื้อและชั้นไขมัน ส่งผลกับการคำนวนปริมาณในการฉีดด้วยเช่นกัน
- ความพึงพอใจของคนไข้ เบื้องต้นก่อนจะทำการฉีดจะต้องมีการพูดคุยปรึกษากับแพทย์ทุกครั้งอย่างละเอียดว่าคนไข้ต้องการความหนา ความบางมากแค่ไหน แพทย์จะได้คำนวนปริมาณ CC ที่ใช้อย่างเหมาะสม ตอบโจทย์ความต้องการและรูปหน้าของคนไข้ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาแลดูเป็นธรรมชาติ
ฉีดด้วยปลายเข็มแหลมหรือทู่ดีกว่า
ในปัจจุบันแพทย์จะเลือกใช้เป็นเข็มทู่มากกว่าเข็มแหลม เนื่องจากการฉีดเข็มทู่จะช่วยลดโอกาสการบวม เขียวช้ำได้ และยังเหมาะสำหรับนำมาฉีดในตำแหน่งที่ต้องการความละเอียดสูง มีจุดสอดเข็มน้อยแค่1-2 จุด ก็สามารถฉีดได้ทั่วทั้งใบหน้า และยังสามารถฉีดในบริเวณใกล้เคียงกระดูกได้ นอกจากนี้ ยังช่วยให้เกิดการยกกระชับใบหน้าได้ดีกว่าด้วย ซึ่งที่คลินิกเราให้บริการฉีดด้วยเข็มปลายทู่ผสานเข้ากับเทคนิคของแพทย์ ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี เห็นผลชัดเจน
การเตรียมตัวก่อนทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์
นอกจากจะหาข้อมูลรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับหัตถการแล้ว การเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนฉีดก็มีความสำคัญด้วยเช่นกันค่ะ ไปดูกันดีกว่าว่าก่อนเข้ารับบริการต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง หรือมีข้อควรรู้อะไรบ้าง
- ภายใน 24 ชั่วโมงก่อนฉีด ควรงดอาหารเสริม วิตามิน หรือยา ที่มีผลกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และทำให้เลือดแข็งตัวช้า รวมไปถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจส่งผลทำให้เกิดเลือดไหลระหว่างการรักษามากกว่าปกติ และยังเสี่ยงต่อการเกิดรอยช้ำหลังฉีดได้
- ควรแจ้งและปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง หากมียาที่ต้องรับประทาน หรือมีโรคประจำตัว
ขั้นตอนการทำโปรแกรมฉีด Filler
ที่ Doctor Mek Clinic ดูแลทุกเคสโดยทีมแพทย์ ร่วมกับการใช้เทคนิค Triple Layer Lift เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี สวยแลดูเป็นธรรมชาติ เห็นการเปลี่ยนแปลงของผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
- แพทย์เป็นผู้ประเมินปัญหา วิเคราะห์กายวิภาคใบหน้าของคนไข้ คำนวนปริมาณที่ใช้ และการวางตำแหน่งของสารเติมเต็มในชั้นผิวที่ให้ผลลัพธ์แตกต่างกันออกไป รวมไปถึงการเลือกโมเลกุลของสารเติมเต็มให้ตอบโจทย์เหมาะสมกับคนไข้แต่ละรายบุคคลที่มีความแตกต่างกันออกไป
- ขั้นตอนการแปะยาชาที่ผิวทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง เพื่อป้องกันอาการช้ำหลังการฉีด
- ฉีดยาชาใช้เวลาประมาณ 10 – 15 นาที เป็นการช่วยบล็อกเส้นประสาทรับรู้ความรู้สึกบนใบหน้า เพื่อช่วยคลายกังวลให้กับคนไข้ที่ห่วงเรื่องของความเจ็บให้รู้สึกสบาย
- ขั้นตอนของการฉีด เมื่อยาชาออกฤทธิ์ดีแล้ว แพทย์จะเริ่มทำหัตถการตามจุดต่าง ๆ ที่ได้วิเคราะห์และกำหนดจุดไว้ตั้งแต่ต้น เป็นช่วงเวลาของการวางตำแหน่งสารเติมเต็มที่ได้เลือกไว้ลงไปใต้ชั้นผิวที่แตกต่างกัน ระยะเวลาขึ้นอยู่กับตำแหน่งและปริมาณที่ใช้ เริ่มตั้งแต่ 15 นาที ไปจนถึง 1 ชั่วโมง ในระหว่างนั้นแพทย์จะปั้นทรงให้เข้าที่และดูดีเป็นธรรมชาติ เหมาะกับใบหน้าองค์รวมของคนไข้แต่ละคน
ข้อควรระวังและข้อควรปฏิบัติหลังทำโปรแกรมฉีด Filler
หลายคนคงยังสงสัยหรือยังไม่แน่ใจว่าหลังฉีด ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร การดูแลตัวเองหลังฉีดก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ง่ายและสามารถทำได้ด้วยตัวเอง ไปดูกันค่ะว่ามีข้อควรปฏิบัติหลังทำโปรแกรมฉีด Filler อย่างไรบ้าง
- ควรดื่มน้ำตามมาก ๆ หลังฉีด เพราะสารจำพวกนี้เป็นสารอิ่มน้ำ เมื่อได้รับน้ำเข้าไปในปริมาณที่มากเพียงพอจะทำให้เกิดการเซ็ตตัวได้ไว จึงส่งผลให้ผลลัพธ์หลังทำดีมากยิ่งขึ้น
- หลีกเลี่ยงการปะทะกับความร้อนโดยตรงในลักษณะต่าง ๆ เช่น การเข้าใกล้กับความร้อนจากเตาอาหาร หรือหม้อต้ม หรือการใช้ไดร์เป่าผมด้วยลมร้อน รวมไปถึงการอาบน้ำร้อนและการอบไอหรือซาวน่าด้วย เพราะความร้อนจะทำให้สารเติมเต็มเกิดการสลายตัวได้ไวขึ้น
- หลีกเลี่ยงการนวด สัมผัส หรือกดแรง ๆ บริเวณที่ฉีดสารเติมเต็มมา เพราะจะทำให้เกิดการผิดรูปทรงขึ้นได้ อย่างน้อยหลังฉีด 2 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่ต้องเคลื่อนไหวหนัก ๆ เพราะจะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ เสียความชุ่มชื่นในผิวไปมาก รวมถึงอาจเกิดการกระทบกระเทือนกับบริเวณที่ฉีดสารเติมเต็มมา ทำให้เกิดการผิดรูปได้
ผลข้างเคียงหลังฉีด
การเกิดผลข้างเคียงหลังจากทำโปรแกรมฉีดสารเติมเต็มที่ได้มาตรฐาน แทบจะไม่เกิดผลข้างเคียงอะไรเลย อาจเกิดเพียงความรู้สึกตึงเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด และมีรอยเข็มเป็นจุดเล็ก ๆ ซึ่งจะหายไปได้เองภายใน 3 – 4 วัน ซึ่งหากเป็นมากกว่านั้นมักจะไม่ได้เกิดขึ้นเพราะตัวสารเติมเต็ม แต่เกิดขึ้นจากเทคนิคการฉีดและแพทย์ขาดทักษะมากกว่า จึงทำให้การฉีดมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นมาได้ เช่น รอยเขียว รอยช้ำ เกิดขึ้นได้จากแพทย์ผู้ฉีดที่มีความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการฉีด ทำให้ระหว่างฉีดไปถูกเส้นเลือดฝอยเกิดเป็นรอยเขียวช้ำขึ้นมาได้
อาการแพ้เป็นอย่างไร
อาการแพ้เป็นอาการที่ร่างกายเกิดการต่อต้านสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย ซึ่งจะทำให้เกิดอาการบวมแดง อักเสบ เกิดการติดเชื้อขึ้นได้ มักเกิดขึ้นกับผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีคุณภาพ ฉีดสารแปลกปลอมที่มีส่วนประกอบของซิลิโคนเหลว รวมไปถึงสารแปลกปลอมอื่น ๆ จึงทำให้เกิดเอฟเฟ็กต์รุนแรงกับร่างกาย เป็นเหตุของอาการแพ้สารเติมเต็มที่เกิดขึ้นได้
การฉีดต้องรอให้สารเติมเต็มฟิลเลอร์สลายหมดก่อนไหม
ไม่ว่าจะฉีดในตำแหน่งใดก็ตาม คนไข้สามารถกลับมาฉีดเติมได้เรื่อย ๆ ตามความเหมาะสมของจุดที่จะฉีด โดยไม่ต้องรอให้สารเติมเต็มที่เคยฉีดไปก่อนหน้านี้ สลายหมดก่อนค่ะ ในส่วนของปริมาณที่เหมาะสม ก็จะขึ้นอยู่กับว่าคนไข้เลือกฉีดตำแหน่งไหน ต้องการเติมเต็มมากเท่าไหร่ โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินปริมาณในการฉีดให้แบบรายบุคคล ซึ่งจุดที่ไม่ได้ต้องการเติมเต็มมากนัก ก็จะอยู่ที่ 1 cc ค่ะ
หลังสารเติมเต็มฟิลเลอร์สลายหมด เปลี่ยนยี่ห้อฉีดได้ไหม
หลังสารเติมเต็มฟิลเลอร์สลายไปแล้ว หากคนไข้ต้องการเติมเพิ่มอีก ก็สามารถเปลี่ยนยี่ห้อได้เลยค่ะ ไม่จำเป็นต้องใช้ยี่ห้อเดิม เพราะการเปลี่ยนยี่ห้อไม่ได้ก่อให้เกิดผลกระทบ หรือเป็นอันตรายต่อผิวแต่อย่างใด ถ้าใช้ยี่ห้อที่ได้มาตรฐาน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปยี่ห้อใดก็ตาม แพทย์จะเป็นผู้แนะนำรุ่นให้เหมาะสมกับตำแหน่งที่ฉีดให้อีกครั้งค่ะ
ทำโปรแกรมฉีด Filler แล้วทำหัตถการอย่างอื่นได้ไหม
การดูแลตัวเองเพื่อเพิ่มความมั่นใจ ยังมีอีกหลายวิธีที่สามารถทำร่วมกันได้ เป็นการช่วยส่งเสริมผลลัพธ์ แก้ไขเก็บตามจุดต่าง ๆ ที่สารเติมเต็มอาจจะไม่เหมาะกับปัญหานั้น ๆ แต่ก็ยังมีหัตถการบางอย่างที่ไม่สามารถทำร่วมกันได้ด้วยเช่นกัน โดยต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ จึงจะวิเคราะห์ปัญหากายวิภาคของใบหน้า รวมถึงประเมินเลือกวิธีการที่เหมาะสมกับคนไข้ รวมถึงผลิตภัณฑ์หรือนวัตกรรมที่ใช้ต้องมีคุณภาพและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีและแลดูเป็นธรรมชาติ ไปดูกันค่ะว่าจะมีหัตถการอะไรที่สามารถทำคู่กันได้ หรือทำด้วยกันไม่ได้บ้างค่ะ
ฉีดแล้วทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ได้ไหม
เนื่องจากโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์และโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ เป็นหัตถการที่ช่วยแก้ปัญหาในคนละส่วนและให้ผลลัพธ์ที่ต่างกัน จึงสามารถที่จะทำพร้อมกันได้ เพราะโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์เป็นการเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายไป ผิวกระจ่างใส เรียบเนียนขึ้น เติมเต็มร่องลึกต่าง ๆ บนใบหน้าให้อิ่มฟูเต็มขึ้น ยกกระชับปรับรูปหน้าให้ดูละมุน มีมิติมากขึ้น แต่ในส่วนของโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์นั้นจะเป็นการเข้าไปปรับลดการทำงานของกล้ามเนื้อให้น้อยลง กล้ามเนื้อจึงเล็กลงไปด้วย เพื่อเข้าไปแก้ปัญหาริ้วร้อย ช่วยให้ผิวตึงขึ้น เวลาขยับใบหน้าริ้วรอยจึงไม่แสดงออกมาชัดเจน
ฉีดแล้วทำโปรแกรมเลเซอร์ได้ไหม
เนื่องจากเป็นสารเติมเต็มจำพวก Hyaluronic Acid (ไฮยาลูรอนิก แอซิด) ซึ่งสามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ และจะสลายได้เร็วมากยิ่งขึ้นหากถูกความร้อน นอกจากนั้นความร้อนยังทำให้ผิวหดตัวมากกว่าปกติ อาจส่งผลทำให้ประสิทธิภาพการเซตตัวของสารเติมเต็มลดลง ดังนั้น จึงควรงดทำโปรแกรมเลเซอร์อย่างน้อย 4 สัปดาห์หลังการฉีด เพื่อให้เนื้อสารเติมเต็มเกิดการเซ็ตตัวเต็มที่ก่อน
ฉีดแล้วทำโปรแกรมร้อยไหมได้ไหม
หากหลังฉีดแล้วใบหน้ากระจ่างใส ร่องลึกตื้นขึ้น ผิวเรียบเนียนแล้ว แต่อยากยกกระชับปรับรูปหน้าให้เรียวสวย เก็บกรอบหน้า ช่วยให้ผิวไม่หย่อนคล้อย ดึงหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัดด้วยการทำโปรแกรมร้อยไหม บอกเลยว่าสามารถทำควบคู่กันได้ค่ะ เพราะทั้ง 2 วิธีนี้ จะเข้าไปช่วยเสริมให้ใบหน้าดูดี โดดเด่นมากยิ่งขึ้น
ฉีดแล้วทำโปรแกรมไฮฟู่ได้ไหม
หากต้องการทำโปรแกรมไฮฟู่ก็สามารถทำได้ค่ะ แต่แนะนำว่าควรทำโปรแกรมไฮฟู่ก่อนโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ เพราะโปรแกรมไฮฟู่เป็นลักษณะของการเปลี่ยนคลื่นเสียงเป็นพลังงานความร้อน และส่งพลังงานลงไปถึงชั้นกล้ามเนื้อส่วนบน จึงอาจทำให้สารเติมเต็มสลายตัวได้เร็วขึ้นค่ะ
ฉีดแล้วทำโปรแกรมทรีทเมนท์หน้าได้ไหม
หลังฉีดควรงดการทำโปรแกรมทรีทเมนต์อื่น ๆ หรือการนวดหน้าอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพราะการสัมผัส กด หรือคลึงแรง ๆ จะส่งผลกระทบทำให้สารเติมเต็มผิดรูป ควรรอให้เซตตัวเต็มที่เสียก่อน
ความแตกต่างจากการฉีดซิลิโคนเหลว
ในปัจจุบันการใช้สารเติมเต็มชนิดที่เป็นของที่ได้มาตรฐานเป็นที่นิยมมาก เพราะเมื่อฉีดแล้วเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้น เหมือนเป็นการเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิวกระจ่างใสแลดูเป็นธรรมชาติ หากไม่พอใจอยากเติมก็ทำได้ง่าย หรือถ้าอยากแก้ไขทรงก็สามารถแก้ไขได้ โดยไม่ต้องผ่าตัดเอาออก เมื่อฉีดเข้าไปในร่างงกายจะเข้าไปช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ทำให้เส้นใยคอลลาเจนแน่นขึ้น ผิวหลังจากสารเติมเต็มสลายไปแล้ว จึงทิ้งผลลัพธ์ที่ยังคงดูดี ไม่กลับไปโทรมเหมือนก่อนที่จะฉีดค่ะ
ซิลิโคนเหลวหรือสารแปลกปลอม เมื่อนำมาฉีดเข้าร่างกายจะส่งผลกระทบที่อันตรายร้ายแรงกับคนไข้ มีทั้งอาการบวม แดง คัน อักเสบติดเชื้อ ลามไปจนถึงผิวหนังเกิดการผิดรูปทรง ซิลิโคนไหลย้อย หน้าเบี้ยวผิดรูป และการรักษานั้นต้องผ่าตัดหรือขูดเอาซิลิโคนเหลวออกเท่านั้น โดยหากทิ้งไว้นานก็จะเกิดการตกค้างกระจายไปทั่วบริเวณ ทำให้เกิดพังผืดจับตัวเป็นก้อนกับซิลิโคนเหล่านั้นขึ้นได้ ยิ่งทำให้แก้ไขได้ยากมากยิ่งขึ้น ซึ่งสภาพผิวและใบหน้าหลังการรักษาจะไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิม
ความแตกต่างจากโปรแกรมฉีดไขมันหน้า
โปรแกรมฉีดไขมันหน้าเป็นการนำเอาไขมันของคนไข้เองมาฉีดเติมเต็มใบหน้า จึงไม่เกิดการแพ้หรือการต่อต้านของร่างกาย ทำให้จุดที่ดูดไขมันออกมาอาจเกิดรอยช้ำ เกิดอาการเจ็บปวด หรือต้องพักฟื้นรักษาแผล และใช้เวลาในการฉีดนานเพราะต้องรอดูดเอาไขมันออกมาด้วย โดยในแต่ละคนความไวและปริมาณที่ไขมันจะสลายตัวหลังทำก็แตกต่างกันออกไปด้วย จึงทำให้ต้องทำโปรแกรมฉีดไขมันเข้าไปในปริมาณที่มากไว้เผื่อสำหรับการสลายตัว จึงทำให้เกิดอาการหน้าบวม หรือดูหน้าแน่นกว่าปกติได้ และเมื่อไขมันสลายไปจึงจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ แต่ปริมาณที่คงเหลืออยู่ก็ไม่เท่ากันในแต่ละรายบุคคล ทำให้เป็นอีกวิธีที่ต้องคอยลุ้นผลลัพธ์ด้วยเช่นกัน
ในส่วนของสารเติมเต็มที่ได้มาตรฐาน ถึงแม้จะไม่ใช่สิ่งที่ดูดออกมจากร่างกายเหมือนไขมัน แต่เป็นสารสกัดที่เหมือนกับไฮยาลูรอนิก แอซิด ที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ จึงทำให้แทบไม่เกิดอาการแพ้หรือต่อต้านของร่างกายเลย ทั้งยังสามารถคำนวนปริมาณที่จะใช้ได้อย่างถูกต้อง ไม่ต้องฉีดเผื่อการสลายแบบไขมัน ทำให้คาดคะเนผลลัพธ์ที่จะออกมาได้แม่นยำ ทั้งยังเข้าไปช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวให้เส้นใยแน่นกระชับขึ้นได้อีกด้วย ใช้เวลาในการรักษาไม่นาน ไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีรอยแผล มีเพียงรอยแดงเป็นจุดเล็ก ๆ จากเข็มเท่านั้น ทำแล้วเห็นผลความปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นทันทีหลังทำ ขึ้นอยู่กับแต่ละรายบุคคล
หากฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนบวมจะแก้ไขได้ไหม
ภาวะที่ทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์เป็นก้อนหลังทำ หากเป็นสารเติมเต็มที่ได้มาตรฐานจะสามารถทำได้ค่ะ โดยการใช้วิธีการที่เรียกว่าโปรแกรมการฉีดแก้ไขฟิลเลอร์
ฉีดแล้วเป็นก้อนบวม คืออะไร
หลังทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ เป็นก้อน คือ ลักษณะของผิวที่ปูดเป็นก้อนบวม นูนขึ้น ทำให้ผิวบริเวณนั้นไม่เรียบเนียน ทำให้เสียความมั่นใจ เสียบุคลิกภาพ หรือในบางรายอาจจะเห็นลักษณะเป็นก้อนเด่นชัดเวลาขยับใบหน้า แสดงสีหน้าอารมณ์ นอกจากจะคลำแล้วพบลักษณะเป็นก้อน รวมถึงเกิดอาการบวมแดงขึ้นด้วย อาจเกิดขึ้นได้จากการติดเชื้อ ต้องรีบเข้าพบแพทย์โดยด่วนเพื่อหาสาเหตุและทำการรักษาได้ทันเวลา
ฉีดแล้วเป็นก้อนบวมเกิดจากอะไรได้บ้าง
ฉีดแล้วเป็นก้อน อาจเกิดขึ้นได้จากทั้งเทคนิคของแพทย์ผู้ทำการรักษา รวมถึงกล้ามเนื้อในบริเวณที่ฉีด ซึ่งแพทย์ที่ทำการรักษาอาจจะขาดทักษะเทคนิคการฉีด ทำให้เมื่อฉีดลงไปแล้วเกิดการดันชั้นผิวให้นูนขึ้นมาได้ค่ะ มาดูสาเหตุของการฉีดแล้วเป็นก้อนบวมกันดีกว่าค่ะ ว่าเกิดขึ้นจากอะไรบ้าง
- การเลือกโมเลกุลที่ไม่เหมาะสม สารเติมเต็มแต่ละยี่ห้อก็มีรุ่นและคุณสมบัติที่แตกต่างแยกกันออกไป เพื่อสำหรับใช้ตอบโจทย์แก้ปัญหาในแต่ละคนที่แตกต่างกัน เช่น หากใช้สารเติมเต็มที่มีโมเลกุลใหญ่ ฉีดลงไปที่ชั้นผิวที่ตื้นและบาง ก็จะทำให้เกิดเป็นลักษณะอาการของผิวที่นูนปูด หรือเป็นก้อน ผิวไม่เรียบเนียนขึ้นมาได้ค่ะ
- ปริมาณที่ใช้ไม่เหมาะสม การคำนวนใช้ปริมาณของสารเติมเต็มก็เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ผลลัพธ์เกิดเป็นก้อนขึ้นมาได้ เช่น หากฉีดสารเติมเต็มเข้าไปในชั้นผิวด้วยปริมาณที่มากเกินพอดี ก็จะทำให้เกิดอาการเป็นก้อนขึ้นมาได้ค่ะ
- ลักษณะของตำแหน่งที่ฉีด แต่ละจุดบนใบหน้ามีความแตกต่างกันออกไปทั้งสภาพผิวและกายวิภาค หากเลือกสารเติมเต็มที่ไม่เหมาะสมก็จะทำให้เกิดปัญหาขึ้นได้เช่นกันค่ะ
- แพทย์ขาดทักษะ แพทย์ผู้ทำการรักษาต้องมีองค์ความรู้เกี่ยวกับโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ จึงจะสามารถคำนวนปริมาณที่ใช้ และวางตำแหน่งของสารเติมเต็มในชั้นผิวได้อย่างถูกต้อง เพราะหากไม่เป็นเช่นนั้น อาจเกิดความเสี่ยงตามมาทำให้ผลลัพธ์ไม่ดีเท่าที่ควร เกิดอาการผิวไม่เรียบเนียน เป็นก้อนขึ้นมาได้
- ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ไม่ได้มาตรฐาน การใช้สารเติมเต็มที่ไม่ผ่านการรับรองคุณภาพ หรืออาจเป็นของปลอม ซึ่งเมื่อฉีดเข้าไปแล้วจะไม่สลายไป และเกิดการจับตัวกันเป็นก้อน อักเสบ บวม ติดเชื้อขึ้นได้
วิธีการแก้ไข เมื่อฉีดแล้วเป็นก้อนบวม
หากฉีดมาแล้วเกิดลักษณะเป็นก้อนบวมขึ้นมา สามารถทำการแก้ไขได้ง่าย ๆ ค่ะ โดยการฉีดแก้ไขฟิลเลอร์ ทำให้ผิวกลับคืนมาเหมือนเดิม หรือใกล้เคียงของเดิมมากที่สุด แต่ทั้งนี้ต้องทำโดยแพทย์ที่มีทักษะในการคำนวนและวิเคราะห์ เพื่อวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับปริมาณของสารเติมเต็มที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนังค่ะ
คำถามที่พบบ่อย
ยังมีคนไข้อีกหลายท่านที่กังวลหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ (Filler Program) โดยมักจะถามเข้ามาหลังบ้าน Doctor Mek Clinic กันบ่อยมาก ๆ เราจึงรวบรวมคำถามที่ถูกถามเข้ามากันบ่อย ๆ มาไว้ให้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจและช่วยตอบข้อข้องใจเบื้องต้นให้แล้วค่ะ
หลังการฉีดไปแล้ว บางรายอาจจะรู้สึกว่ามีอาการตึง ๆ หรือรู้สึกว่าฉีดแล้วหน้าบวมขึ้นเล็กน้อยในบริเวณที่ฉีดเท่านั้นค่ะ เป็นเรื่องปกติที่จะเกิดขึ้นได้
อาการที่รู้สึกว่าตึงหรือบวมเล็กน้อยบริเวณที่ฉีดจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2 – 3 วัน แต่ถ้ารู้สึกปวดหรือบวมแดงมาก ๆ ต้องพิจารณาว่าอาการนี้เกิดจากการติดเชื้อหรือไม่ หากไม่มั่นใจต้องรีบขอคำปรึกษาหรือเข้าพบคุณหมอโดยทันที
คำถามยอดฮิตหลังทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์กี่วันเห็นผล หลังฉีดจะสามารถเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรก โดยผลลัพธ์ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละรายบุคคลด้วย หลังจากฉีดไปแล้วจะยิ่งดีขึ้นเรื่อย ๆ จนเห็นผลเต็มที่ในระยะเวลา 1 เดือนค่ะ
สำหรับการทำโปรแกรมฉีดสารเติมเต็มจะอยู่ได้นานไหม โดยระยะเวลาความคงทนของผลลัพธ์หลังฉีดนั้น จะขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีดและคุณสมบัติของแต่ละรุ่นที่แตกต่างกันออกไป มีตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 2 ปี และจะสลายไปได้เองตามธรรมชาติ ไม่เกิดการตกค้างในร่างกาย
ความเจ็บที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นตอนที่ฉีดยาชาเท่านั้นค่ะ จะเจ็บเพียงเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นระหว่างทำก็จะไม่รู้สึกเจ็บ เพราะยาชาเข้าไปบล็อกเส้นประสาทบนใบหน้า ทำให้รู้สึกสบาย คลายกังวลใจได้ค่ะ
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงภายหลังจากทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรในช่วงของ 3 – 7 วัน อาหารเสริมที่มีผลต่อการสูบฉีดของเลือด รวมไปถึงกลุ่มยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดช้าลง อาจส่งผลทำให้รอยเข็มหายช้าลง
ในช่วงสัปดาห์แรกหลังฉีด ควรงดอาหารประเภทหมักดอง รวมถึงสาวกปลาร้าก็ควรงดก่อนก็จะดีนะคะ เพราะอาจจะส่งผลทำให้เกิดอาการอักเสบหรือแผลจากเข็มหายช้าได้เช่นกัน
ก่อนเข้ารับบริการต้องงดแอลกอฮอกี่วัน ควรงดอย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพราะแอลกอฮอล์มีผลทำให้เลือดเกิดการสูบฉีดมากขึ้นกว่าปกติ อาจมีผลทำให้ระหว่างฉีดเกิดอาการเลือดออกมากขึ้นกว่าปกติได้ค่ะ ส่งผลทำให้เกิดอาการช้ำ หรือรอยเขียวขึ้นได้ง่าย
สำหรับคำถามที่ว่าหลังฉีดแล้วกินเหล้าได้ไหม อย่างที่ทราบกันอยู่แล้วว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีผลทำให้หลอดเลือดขยายตัวเกิดการสูบฉีดเลือดมากขึ้น จึงควรงดก่อนในช่วงสัปดาห์แรก เพราะอาจส่งผลให้เกิดอาการแดงได้ง่าย รวมถึงการรักษาตัวของรอบเข็มหายช้าลง ควรเน้นดื่มน้ำเปล่าตามไปมาก ๆ และทานอาหารที่มีประโยชน์ที่สามารถช่วยเสริมสร้างให้ร่างกายรักษาตัวเองได้เร็วขึ้นจะดีกว่าค่ะ
หลังการรักษาสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่งหน้า ทำงาน ได้เลยค่ะ เพราะไม่ใช่การผ่าตัด จึงไม่ต้องพักฟื้น ทำให้สะดวกกับการใช้ชีวิต ระยะเวลาในการฉีดก็รวดเร็ว เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นหลังทำ (ขึ้นอยู่กับรายบุคคล)
หลังฉีดแล้วไม่เห็นผล เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ โดยมากเกิดขึ้นจากแพทย์ผู้ทำการรักษาไม่มีทักษะเกี่ยวกับเทคนิคการฉีดที่มากพอ จึงทำให้เลือกโมเลกุลของผลิตภัณฑ์ไม่ถูกต้องเหมาะสม รวมถึงวางตำแหน่งของสารเติมเต็มใต้ชั้นผิวไม่แม่นยำ จึงทำให้ปัญหาไม่หายไปหรือเกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมาแทนค่ะ
หลังฉีดแล้วภายใน 2 – 3 วันแรก อาจจะต้องขอให้งดการกินปิ้งย่าง หรือชาบูไปก่อนนะคะ เป็นการหลีกเลี่ยงการปะทะกับความร้อนโดยตรงเพื่อให้สารเติมเต็มเกิดการเซ็ตตัวเต็มที่เสียก่อน แต่ถ้าต้องกินจริง ๆ แนะนำว่าพยายามอย่าให้บริเวณที่ฉีดถูกความร้อนก็แล้วกัน แต่ถ้าหากเป็นการฉีดที่ปากอาจจะต้องขอให้งดก่อนอย่างจริงจัง เพราะเป็นจุดที่ต้องสัมผัสกับอาหารร้อนหรือน้ำซุปที่ร้อนโดยตรง เดี๋ยวจะเกิดการสลายตัวเร็ว เซ็ตตัวได้ไม่เต็มที่จะแย่เอาค่ะ
หลังฉีดภายในสัปดาห์แรก ขอให้งดทานของแสลงพวกหมักดองก่อนนะคะ เพราะอาจทำให้เกิดอาการอักเสบ ติดเชื้อหรือแผลหายช้ากว่าที่จะเป็นได้ค่ะ
ในการฉีดสารเติมเต็มที่ได้มาตรฐาน มีความเป็นไปได้ค่ะที่จะเกิดการไหลย้อยขึ้น แต่ไม่ได้เป็นเพราะตัวยานะคะ แต่มักจะเกิดขึ้นจากเทคนิคของแพทย์ผู้ทำการฉีดค่ะ จาการที่แพทย์ยังไม่มีทักษะทำให้คำนวนปริมาณและตำแหน่งคลาดเคลื่อน เมื่อวางสารเติมเต็มนี้ผิดตำแหน่งของชั้นผิว ก็สามารถทำให้เกิดการไหลย้อยหรือเคลื่อนที่ได้ โดยสามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดแก้ไขฟิลเลอร์ค่ะ
ในส่วนของสารเติมเต็มที่เป็นสารจำพวกซิลิโคนเหลว ซึ่งไม่สลายตัว มีโอกาสอย่างยิ่งที่จะไหลย้อยทำให้เกิดการผิดรูปทรงของหน้าขึ้นได้ ลุกลามไปจนเกิดอาการรุนแรง อันตรายขึ้น และการแก้ไขจะต้องทำการผ่าตัดหรือขูดเอาออกเท่านั้น
ฉีดแล้วสามารถนอนตะแคงได้ค่ะ แต่ถ้าหากว่าท่านอนตะแคงของเรานั้นมีผลไปกดทับในจุดที่เราเติมสารเติมเต็มมา จะต้องของดก่อนในช่วง 1 – 2 สัปดาห์แรก เพื่อให้เกิดการเข้าที่ก่อน
หลังจากฉีดในช่วง 2 สัปดาห์แรก อาจจะต้องของดการนอนคว่ำนะคะ เพราะว่าทำให้เกิดแรงกดทับบริเวณที่ฉีดสารเติมเต็มเข้าไป ส่งผลให้เกิดการผิดรูปทรงขึ้นมาได้ค่ะ
หลังจากที่สารเติมเต็มสลายตัวไป หน้าจะไม่เหี่ยวกว่าเดิมค่ะ เพราะไม่ใช่การทำลายเนื้อเยื่อหรือเส้นใยคอลลาเจน แต่เป็นการสลายสารเติมเต็มที่มีอยู่เพื่อให้ผิวกลับคืนสภาพเดิมหรือใกล้เคียง
ควรงดการออกกำลังกายหนัก ๆ หลังทำการฉีดมาอย่างน้อย 2 – 3 วัน เพื่อให้สารเติมเต็มฟิลเลอร์เริ่มอยู่ตัว และไม่ทำให้เกิดการกระทบกระเทือนกับจุดที่ฉีดมากเกินไป รวมถึงเพื่อไม่ให้ร่างกายเสียน้ำเยอะเกินไป เพราะการเซตตัวของสารเติมเต็มนี้ จะต้องอาศัยน้ำเป็นตัวช่วย หากดื่มน้ำตามมาก ๆ ก็จะยิ่งอิ่มฟู เซ็ตตัวดีมากยิ่งขึ้น
เนื่องจากบุหรี่มีสารบางชนิดที่ส่งผลต่อการขยายตัวของหลอดเลือด อาจส่งผลให้แผลและรอยบวมช้ำยุบตัวช้าลง จึงควรงดสูบบุหรี่ไปก่อนในหลัง 2 – 3 วันแรกหลังการรักษา
หากถามว่าอย่างไหนดีกว่ากัน อาจจะเปรียบเทียบกันยากซักหน่อย เพราะทั้ง 2 วิธี เป็นการแก้ปัญหาที่ต่างกัน โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ คือ การเติมเต็มในส่วนที่ขาดหาย เติมเต็มร่องลึก ยกกระชับปรับรูปหน้า ให้ผิวอิ่มฟูดูเต็มขึ้น เป็นการช่วยกระตุ้นการสร้างเส้นใยคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ทั้งยังเป็นอีกวิธีหนึ่งในการเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อีกด้วย ส่วนโปรแกรมร้อยไหมจะเป็นการใช้เทคนิคของคุณหมอในการช่วยดึงหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด ยกกระชับปรับรูปหน้าให้ดูเรียวสวยเข้ารูป มี V-Shape หน้าไม่ห้อยย้อย เก็บกรอบหน้า ช่วยยกหน้าให้ตึงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
การผ่าตัดศัลยกรรมเสริมคางเป็นการใส่ซิลิโคนแข็งเข้าไป ซึ่งมีโอกาสเกิดรอยแผลเป็นขึ้นได้ โดยผลลัพธ์ที่ได้จะอยู่ถาวร และหากต้องการเปลี่ยนทรงหรือแก้ไข ต้องทำการผ่าตัดเอาออกเท่านั้น ใช้ระยะเวลาผ่าตัดรวมถึงต้องมีเวลาในพักฟื้นที่นาน จึงอาจจะต้องเคลียร์ตารางวันว่างให้ดี แต่หากเป็นการทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์คางนั้น ผลลัพธ์จะไม่ได้อยู่ถาวร ซึ่งอาจจะอยู่ได้ 2 ปี ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์แต่ละรุ่น แต่จะสามารถปรับแก้ทรงได้ตามต้องการ ฉีดเติมหรือฉีดแก้ไขฟิลเลอร์ได้ง่ายโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่เกิดรอยแผลเป็น มีเพียงรอยเข็มเล็ก ๆ เท่านั้น ซึ่งจะหายไปได้เองภายใน 3 – 5 วัน หลังทำไม่ต้องพักฟื้น กลับไปทำงานหรือทำกิจกรรมได้ตามปกติ ผลลัพธ์ยังดูสวยละมุนแลดูเป็นธรรมชาติมากอีกด้วย
สรุป
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ (Filler Program) เป็นเทคนิคการเติมเต็มใบหน้าที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เพราะช่วยเสริมให้โครงหน้าดูละมุนขึ้น และได้สัดส่วนที่ชัดเจน และที่สำคัญคือเราสามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรก ไม่ต้องใช้เวลานาน อีกทั้งยังใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้น แต่การที่จะได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมเข้ากับใบหน้า ก็ควรเลือกชนิดของสารเติมเต็มที่เข้ากับปัญหาและสภาพผิวของเราด้วยค่ะ ซึ่งที่ Doctor Mek Clinic เราพร้อมให้บริการยกกระชับปรับรูปหน้าและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับหัตถการโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์โดยทีมแพทย์ สามารถทักเข้ามาสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือให้แพทย์ช่วยประเมินใบหน้าเบื้องต้นก่อนได้ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย