หน้าแก่เพราะไขมันยุบตัว หน้าซูบ แก้มตอบ แก้ไขได้ไหม

ตื่นเช้ามาส่องกระจกทีไร ไม่ค่อยสดใส หน้าตาไม่สดชื่น ดูโทรมจนหน้าแก่ไม่ไหวแล้ว ไม่ว่าจะบำรุงแค่ไหนก็ไม่ดีขึ้นอย่างที่ต้องการ เพราะเรื่องของใบหน้าไม่ได้มีเพียงแต่เรื่องของผิวเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องของชั้นกระดูก ชั้นไขมัน ชั้นกล้ามเนื้อ นอกจากนั้นตัวของผิวเองก็มีอยู่ด้วยกันหลายชั้นจึงต้องดูแลลงไปให้ล้ำลึก เพื่อให้สามารถที่จะเข้าไปแก้ไขต้นตอของปัญหาได้ตรงจุดมากที่สุด ผลลัพธ์จึงจะออกมาดี และเห็นผลการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นได้อย่างชัดเจน

ปัญหาของใบหน้าที่เกิดขึ้นนั้น สามารถเกิดขึ้นได้หลายแบบ จากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็นผิวเหี่ยว หย่อนคล้อย เกิดริ้วรอย รวมไปถึงชั้นไขมันเกิดการยุบตัว และชั้นกระดูกที่ทรุดตัวลงไปตามวัย หรือแม้แต่มลภาวะแวดล้อมที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในชีวิตประจำวัน ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งของปัจจัยสำคัญของปัญหาที่เกิดขึ้นด้วย

• ริ้วรอย เหี่ยวย่น อีกปัญหาที่เกิดขึ้นกับคนส่วนใหญ่ และเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่กวนใจมากพอสมควร เพราะใบหน้าเป็นจุดที่คนโฟกัสเป็นอับดับต้น ๆ ดังนั้นหากเกิดริ้วรอย ความหย่อนคล้อย ไม่กระชับขึ้นบนใบหน้า จึงสามารถเห็นได้ชัดเจน บั่นทอนความมั่นใจเป็นอย่างมาก มีสาเหตุมาจากคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวลดลง
• ไขมันยุบตัว ภายใต้ผิวหน้าที่เสื่อมโทรมนั้น ไม่เพียงแค่สูญเสียความยืดหยุ่นไปจากคอลลาเจนและอีลาสตินที่ลดลงแล้ว ในชั้นไขมันก็เกิดการสลายตัวจนเกิดการยุบตัวลงไปด้วย จึงทำให้โครงสร้างของชั้นผิวหนังเกิดเป็นร่องลึก และแสดงผลลัพธ์ออกมาให้เห็นได้ชัดเจนทางผิวหนังเป็นแอ่ง ยุบลงไป อย่างเช่น ปัญหาแก้มตอบที่ทำให้หน้าดูซูบ โทรม โหนกแก้มดูสูงขึ้น
• แก้มหย่อนคล้อย เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะทำให้หน้าดูย้วย หน้าแก่กว่าวัย ไม่เต่งตึง หน้าไม่กระชับ โครงหน้าจึงไม่ได้สัดส่วน หน้าดูไม่เรียว
• หน้าโทรม หมองคล้ำ ใบหน้าไม่มีออร่า หน้าดูไม่สดใส หน้าดูเหวี่ยง ผิวดูสุขภาพไม่ดี ทำให้บุคคลิกภาพเสีย คนไม่ค่อยอยากเข้าหา หลายคนถึงกับเสียเซลฟ์ไปเลย เป็นปัญหาที่สีบเนื่องมาจากหลายปัจจัยทั้งจากดูแลไม่เพียงพอ ผิวชั้นลึก ชั้นกระดูก เกิดการทรุดตัวไม่กระชับ เป็นต้น

ปัญหากังวลใจเกี่ยวกับผิวพรรณและโครงหน้าที่ทำให้ดูแก่และดูโทรมนั้น มีหลากหลายความแตกต่างกันไปในแต่ละรายบุคคล ซึ่งวิธีแก้ปัญหาก็มีความแตกต่างออกไปด้วยเช่นกัน เพราะแต่ละคนก็มีความต้องการและปัญหา รวมถึงสภาพผิวที่ไม่เหมือนกัน การจัดการจึงต้องออกแบบให้เหมาะกับรายบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ลองไปดูกันดีกว่าค่ะว่าพอจะมีวิธีแก้ไขอะไรได้บ้าง ที่เราพอจะทำได้เบื้องต้น

• เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เป็นวิธีการพื้นฐานในการดูแลผิว เพื่อเติมความชุ่มชื้น เพิ่มการป้องกันให้กับผิวทนต่อมลภาวะมากขึ้น เป็นเพียงการดูแลผิวจากภายนอก ซึ่งไม่สามารถซึมเข้าไปสู่ชั้นผิวได้ลึกมากพอ
• การแต่งหน้า เลือกใช้เทคนิคการเมคอัพเข้ามาช่วยกลับในจุดที่มีปัญหา รวมถึงช่วยเพิ่มแสงให้กับจุดที่ต้องการโดดเด่นขึ้น เพื่อดึงความสนใจให้ออกไปจากบริเวณที่มีปัญหา
• ทำทรีทเมนต์ผิว ไม่ว่าจะเป็นการนวดหน้าหรือใช้นวัตกรรมต่าง ๆ ในการผลัดเซลล์ผิว และผลักสารบำรุงเข้าสู่ผิวก็เป็นเพียงการดูแลผิวภายนอกเท่านั้น ไม่สามารถที่จะเติมเต็มส่วนที่สลายตัวไปจนยุบเป็นแอ่ง หรือบริเวณกระดูกที่ทรุดตัวลงได้
• ทานวิตามินเสริม เพื่อเสริมสร้างความแข็งของร่างกายและผิว แล้วตัวเลือกในการทานวิตามินเสริมก็เป็นอีกหนทางหนึ่งที่ช่วยสร้างความแข็งแรงจากภายในร่างกาย แต่ต้องใช้เวลานานเพราะร่างกายแต่ละคนดูดซึมสารอาหารได้ไม่เท่ากัน
• เลือกรับประทานอาหารที่ดี เป็นช่วยให้ร่างกายสุขภาพดีจากภายใน ด้วยการกินเพราะเป็นสิ่งที่เราต้องทำทุกวัน วันละหลายครั้ง ทำให้หากปรับเปลี่ยนหรือเลือกอาหารที่รับประทานเข้าไปในร่างกายก็จะช่วยเพิ่มสารอาหารที่มีคุณค่าเข้าสู่ร่างกายและเซลล์ต่าง ๆ
• การดื่มน้ำอย่างเพียงพอ หากร่างกายขาดน้ำก็จะส่งผลไปถึงระบบต่าง ๆ ในร่างกาย และเซลล์ผิวได้อีกด้วย เมื่อผิวขาดน้ำจะเกิดอาการแห้ง เหี่ยว ไม่เต่งตึง ผิวไม่สดใส ดูโทรม หมองคล้ำขึ้นได้

ดังนั้นการดูแลผิวพรรณจึงไม่ใช่แค่ดูแลเพียงภายนอก เพราะปัญหาผิวที่เกิดขึ้นนั้นมีความซับซ้อนและมีรายละเอียดลงลึกใต้ชั้นผิวไปถึงชั้นไขมัน และชั้นกระดูกที่ทรุดตัว การทาครีมบำรุงหรือการกินอาหารก็อาจจะไม่สามารถช่วยได้ อย่างเช่น ปัญหาหน้าซูบ โหนกแก้มสูง จึงต้องอาศัย ฟิลเลอร์แก้มตอบ เข้ามาช่วยเติมเต็มไขมันหรือเนื้อส่วนที่ยุบหายไป เพื่อให้กลับมาเรียบเนียน ลดโหนกแก้มลง ช่วยปรับให้ใบหน้าละมุนหวานเป็นธรรมชาติ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้เส้นใยคอลลาเจนใต้ชั้นผิวแน่นขึ้น ผิวจึงดูกระจ่างใส เต่งตึง ยกกระชับปรับรูปหน้าให้ดูดีสวยขึ้นได้ โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นเปลี่ยนแปลงทันทีหลังทำ (ขึ้นอยู่กับแต่ละรายบุคคล) สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่งหน้า ทำงานได้เลยโดยไม่ทิ้งรอยเขียว รอยช้ำไว้บนใบหน้า โดยต้องอยู่ภายใต้การดูแลของอาจารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ และมีประสบการณ์มากพอ จึงจะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เป็นธรรมชาติ และปลอดภัย