การรับประทานอาหารที่ส่งผลต่อผิวรอบดวงตา

สิ่งที่เรากินเข้าไปนั้นย่อมส่งผลต่อร่างกายเสมอ ถ้าเรากินของที่มีประโยชน์ก็นำพาให้เรามีสุขภาพร่างกายที่ดี ผิวพรรณก็จะดีตามไปด้วย แต่ถ้าเรากินแต่ของที่ไม่ดีต่อร่างกาย แน่นอนว่าผลที่ตามมาก็จะก่อให้เกิดโรค อีกทั้งยังก่อให้เกิดริ้วรอยบริเวณใบหน้าและบริเวณรอบดวงตาได้อีกด้วย โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตาหากเกิดริ้วรอยหรือความหมองคล้ำขึ้นก็จะยิ่งเห็นได้ชัด แถมยังทำให้ใบหน้าดูแก่ก่อนวัยด้วย ซึ่งก็คงไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้นใช่ไหมล่ะคะ งั้นวันนี้เรามาดูอาหารที่ให้คุณและให้โทษต่อร่างกายของเรากันดีกว่าค่ะ

ส่วนมากจะเป็นอาหารประเภทฟาสต์ ฟู้ด ( Fast Food ) ที่ถึงแม้ว่าอาหารเหล่านี้จะเป็นที่โปรดปรานของใครหลาย ๆ คนและเป็นที่นิยมอย่างมาก แถมยังหาซื้อทานได้ง่ายแสนง่าย แต่อาหารเหล่านี้ก็ยังให้โทษต่อร่างกายเป็นอย่างมากเช่นกันค่ะ

ของทอดทุกรูปแบบ – หากกินในจำนวนที่มากเกินไปอาจทำให้ผิวเกิดความหม่นหมองลง เพราะไขมันและสารตัวอื่น ๆ จะเข้าไปขัดการทำงานของระบบไหลเวียนเลือด อีกทั้งยังทำให้ผิวเกิดความหมองคล้ำ และทำให้ดูแก่กว่าวัยด้วย

ของหวาน – มีคนเคยบอกว่าเราควรเติมน้ำตาลเข้าร่างกายเสียบ้าง แต่การเติมเข้าไปมันก็ควรอยู่ในความพอดีด้วยนะคะ เพราะหากเรากินเข้าไปเกินความต้องการของร่างกาย ผลที่ตามมาคือ ทำให้ผิวเสื่อมสภาพลงได้ง่าย เกิดริ้วรอยความหย่อนคล้อย และหากน้ำตาลเข้าไปในร่างกายเป็นจำนวนที่มากเกินก็ยังทำให้ผิวรอบดวงตามีความคล้ำและบวมขึ้น

ของปิ้งย่าง – เป็นอาหารที่ค่อนข้างได้รับความนิยมไม่แพ้กันกับอาหารปิ้งย่าง โดยเฉพาะหมูกระทะ ที่ไม่ว่าจะมีปาร์ตี้สังสรรค์อะไรกัน ส่วนมากก็มักจะมีเจ้าหมูกระทะมาอยู่กลางวงสังสรรค์เสมอ แต่รู้ไหมคะว่าของปิ้งย่างนี่เป็นตัวการในการทำร้ายผิวเลยล่ะ เพราะเนื้อที่เราปิ้งลงไปในส่วนที่เป็นเนื้อไหม้จะมีสารที่ชื่อว่า ไฮโดรคาร์บอน ที่จะมาทำลายผิว ก่อให้เกิดสารอนุมูลอิสระ และทำลายคอลลาเจนในชั้นผิวให้เสื่อมลง เกิดริ้วรอยความหมองคล้ำ แถมยังลดความเต่งตึงของผิวด้วย ใครที่ชอบทานของเหล่านี้เป็นชีวิตจิตใจ เลี่ยงได้เลี่ยงเลยนะคะ

อาหารแปรรูป – เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไส้กรอก ลูกชิ้น อาหารกระป๋อง ผลไม้แปรรูป เป็นต้น เพราะสารในอาหารแปรรูปจะทำให้ร่างกายเราขาดน้ำ ผิวขาดความชุ่มชื้น และอาหารพวกนี้ยังเข้าไปทำลายคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวเกิดริ้วรอย แต่ก็ต้องยอมรับว่าอาหารแปรรูปเป็นอาหารที่สะดวกรวดเร็วและทำง่าย แต่ผลเสียก็วิ่งมาหาเราได้ง่ายเช่นกันค่ะ

ปลา –  ปลาที่อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ บำรุงผิวให้มีความเต่งตึง เปล่งปลั่ง ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เท่านั้นยังไม่พอเพราะวิตามินดีจากปลาแซลมอนยังช่วยปกป้องรังสี UV จากดวงอาทิตย์ได้อีกด้วย คุณประโยชน์จากปลานอกจากจะบำรุงผิวแล้วยังบำรุงร่างกายอีกด้วยนะ

ถั่วและธัญพืช – เช่น อัลมอนด์ ถั่วเหลือง เมล็ดทานตะวัน แมคคาเดเมีย วอลนัท ที่ไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 และ 6 รวมทั้งวิตามินอี วิตามินซี และวิตามินบี ที่ช่วยเพิ่มคอลลาเจน ชะลอการเกิดริ้วรอย ป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิวและยังช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ลง

ผลไม้ต่าง ๆ – พวกตระกูลเบอร์รีไม่ว่าจะเป็นบลูเบอร์รี ราสป์เบอร์รี แบล็กเบอร์รี สตรอว์เบอร์รี ซึ่งเป็นผลไม้เพื่อผิวพรรณทั้งสิ้น อุดมไปด้วยวิตามินซี เพื่อให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น ลดความแห้งกร้าน ลดริ้วรอยและความหย่อนคล้อยของผิว อีกทั้งยังให้ผิวดูอ่อนเยาว์ และยังมีผลไม้ชนิดอื่น ๆ อีกมากมายที่ช่วยในเรื่องของการฟื้นฟูสภาพผิวให้มีความชุ่มชื้น ลดปัญหาผิวแห้งกร้าน อุดมไปด้วยวิตามินที่ช่วยรักษาคอลลาเจนและเซลล์ผิว เช่น ส้ม ทับทิม อะโวคาโด แอปเปิล ฝรั่ง เป็นต้น

ผักใบเขียว – เช่น คะน้า บรอกโคลี กะหล่ำปลี เป็นต้น เพราะผักใบเขียวต่าง ๆ จะช่วยเพิ่มวิตามินในร่างกาย เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากการขาดวิตามินด้วย ดังนั้นควรทานผักใบเขียวเพิ่มเข้าไปเติมเต็มวิตามินในร่างกาย อีกทั้งยังช่วยชะลอผิวไม่ให้เกิดริ้วรอยได้อีกด้วย

แครอท – เพราะในแครอทนั้นอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ไม่ให้ผิวแก่กว่าวัย ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย และยังมีวิตามินเอที่ช่วยให้สภาพผิวแลดูอ่อนเยาว์

ข้าวโอ๊ต – ช่วยในการลดปัญหาผิวแห้งกร้าน เพราะข้าวโอ๊ตมีส่วนช่วยในการกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว อีกทั้งยังช่วยป้องกันการทำลายของเซลล์ผิว ฟื้นฟูสภาพผิวให้ดีขึ้น และข้าวโอ๊ตยังเป็นอาหารที่เหมาะกับทุกสภาพผิว

โดยส่วนมากอาหารที่จะช่วยฟื้นฟูสภาพผิวจะเป็นพวกอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ หรือเหล่าวิตามินต่าง ๆ ที่ช่วยถนอมและปรนนิบัติผิว พบมากในกลุ่มถั่ว ธัญพืช ผักใบเขียว และผลไม้ หากเรายิ่งทานอาหารเหล่านี้ควบคู่ไปกับการบำรุงจากการมาส์กหรือการทาครีมต่าง ๆ ก็สามารถช่วยลดความหมองคล้ำ ความหย่อนคล้อย และลดเลือนริ้วรอยได้ค่ะ แต่วันนี้เรามีอีกหนึ่งทางลัดที่จะช่วยกอบกู้สภาพผิวใต้ตาให้กลับมามีชีวิตชีวา

นอกจากวิธีการทานอาหารหรือทาครีมบำรุงนั่นก็คือ วิธีการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั่นเอง วิธีนี้ยังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แถมยังถูกการันตีว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการเนรมิตผิวรอบดวงตาให้กลับมาสดใส เปล่งปลั่งมีออร่า เพราะนวัตกรรมที่ทันสมัยของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เข้ามาจัดการปัญหาผิวรอบดวงตาให้หมดไป เพียงไม่กี่นาทีดวงตาก็กลับมาสวยฉ่ำ ไร้ริ้วรอย และความหมองคล้ำ โดยไม่ต้องเสียเวลาในการพักฟื้นนาน แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลด้วยนะคะ และสิ่งที่สำคัญที่สุดเลยควรฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ทางด้านนี้เท่านั้น ควรเช็กรีวิวจากลูกค้าผู้ใช้จริงเพื่อความปลอดภัยต่อร่างกายและเพื่อผลลัพธ์ที่ดีค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ควรควบคู่ไปกับการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อสุขภาพที่ดีและเพื่อผลลัพธ์ที่เป๊ะปังคูณสิบไปเลยค่า