ปากกว้าง ริมฝีปากหนา
ฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ ปากสายฝอ
การทำฟิลเลอร์ปาก (Lips Filler) สวยเลือกได้ทั้งการฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ สายฝอ สายเกาหลี ฉีดยกมุมปากให้ริมฝีปากสวยโดดเด่นได้ดั่งใจ ซึ่งการเลือกฉีดที่ไหนดีเป็นอีกสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึง จึงไม่ควรเลือกเพียงราคาถูก เพราะการปรับรูปปากเป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้ใบหน้า เสริมความโดดเด่นให้ริมฝีปากน่าจุ๊บ เติมความมั่นใจเวลาที่ต้องติดต่อประสานงาน พบปะผู้คน ดังนั้นจึงต้องเลือกรับบริการภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้มีความชำนาญและเชี่ยวชาญเทคนิคการฉีด ผนวกกับประสบการณ์ของแพทย์ต้องมีประสบการณ์มากพอสมควร จึงจะสามารถประเมินปัญหา วิเคราะห์กายวิภาคของใบหน้า เพื่อการแต่งเติมริมฝีปากให้เข้ากับใบหน้าของคนไข้แต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป จึงจะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและเป็นธรรมชาติ การทำ filler ปากจึงเป็นอีกวิธีที่ได้รับความนิยมมาก เพราะไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น กลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ สามารถปรับทรงได้ง่ายตามต้องการ เห็นผลการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นหลังทำทันที (ผลการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละรายบุคคล) ทั้งยังช่วยปรับโหงวเฮ้ง เสริมลุคได้อีกด้วย ดังนั้น ข้อมูลเบื้องต้นที่ควรต้องรู้มีอะไรบ้างนั้น Doctor Mek Clinic ได้รวบรวมรายละเอียดมาไว้ในบทความนี้แล้วค่ะ
ฟิลเลอร์ปาก คือ การใช้สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (ไฮยาลูรอนิก แอชิด) เติมเต็มเข้าไปใต้ผิวหนังบริเวณริมฝีปาก โดยเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายของเราอยู่แล้ว เมื่อฉีดเข้าไปจึงแทบไม่เกิดผลข้างเคียงหรืออาการแพ้เลย วิธีการนี้เป็นอีกหัตถการหนึ่งที่ช่วยปรับทรงปาก เติมความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากอวบอิ่ม เต่งตึง มีน้ำมีนวล ทั้งยังมีการฉีดฟิลเลอร์ยกมุมปากเพื่อยกมุมปากขึ้นให้ดูยิ้มตลอดเวลา ถึงแม้จะทำหน้านิ่ง หน้าก็ไม่ดูเหวี่ยง เพิ่มเสน่ห์ให้คนอยากเข้าหาพูดคุย ใบหน้าดูสดใสอยู่เสมอ โดยก่อนทำคุณหมอจะทำการประเมินทรงปากจากความต้องการของคนไข้ และนำมาวิเคราะห์ร่วมกับโครงหน้าของคนไข้ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมารับกับใบหน้ามากที่สุด เป็นการออกแบบให้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะบุคคล โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิต ทำงานได้ตามปกติ โดยทรงปากที่ได้รับความนิยมมีด้วยกันหลายทรง มาดูกันไปทีละทรงเลยค่ะว่ามีแบบไหนบ้าง และทรงไหนที่เราชอบ เพื่อเก็บไว้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจค่ะ
ปากกระจับคืออะไร
ฉีดปากกระจับ ถือว่าเป็นทรงยอดฮิต โดยการฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ จะปรับรูปปาก ช่วยให้หน้าดูมีมิติ ริมฝีปากได้สัดส่วนรับกับใบหน้า ไม่บาง ไม่แบน หรือหนาจนเกินไป เห็นขอบหรือรอยหยักที่ชัดเจน มุมปากยกขึ้น เป็นทรงสวยดูธรรมชาติ
ปากสายฝอคืออะไร
ฉีดปากสายฝอ เป็นอีกทรงที่กำลังเป็นเทรนด์ฮิตได้รับความนิยมมากขึ้น ได้รับอิทธิพลจากสาว ๆ ฝั่งตะวันตก เพราะเป็นทรงที่ปรับลุคให้ใบหน้าดูเปรี้ยวขึ้น เติมความเซ็กซี่ โดยการฉีดฟิลเลอร์ปาก สายฝอ เป็นการใช้สารเติมเต็มฉีดเข้าไปที่ริมฝีปากให้มีลักษณะหนา อวบอิ่ม ปากเบิร์น เหมือนจือปาก Sexy Lips ตลอดเวลา ช่วยให้ดูโดดเด่น เย้ายวน มากขึ้น
ปากสายเกาหลีคืออะไร
ฉีดปากเกาหลี เป็นลักษณะของริมฝีปากที่ได้สัดส่วน อวบอิ่ม หน้าละมุนหวานขึ้น โดยการฉีดแบบเกาหลีจะช่วยทำให้ลักษณะริมฝีปากมีความอวบอิ่ม แต่ปากจะไม่หนาแบบสายฝอ เน้นที่ความเป็นธรรมชาติ ปากบนจะเป็นลักษณะทรงปีกนกสวยได้สัดส่วน มีน้ำมีนวล แลดูมีความคิ้วท์ ใบหน้าดูเด็กลง มีความหวานผสมความเซ็กซี่เล็ก ๆ ทั้งยังช่วยยกมุมปากให้ดูอมยิ้มอยู่ตลอดเวลาได้อีกด้วย ใบหน้าสดใสขึ้น ไม่ดูดุ ไม่ดูเหวี่ยง
ปากสายรัสเซียคืออะไร
ฉีดปากรัสเซีย อีกเทรนด์ใหม่ยอดนิยมของทรงปากที่กำลังมาแรง เป็นการเน้นให้ริมฝีปากเป็นกระชับชัดเจน มีน้ำมีนวล ดูอวบอิ่ม ขอบปากชัดเจน ริมฝีปากสวยดูเป็นสไตล์ตุ๊กตา ช่วยยกมุมปากให้ดูยิ้มอีกด้วย เพิ่มความโดดเด่น เซ็กซี่ ให้กับใบหน้า
โหงวเฮ้งปากที่ดี
โหงวเฮ้งของใบหน้าเป็นเรื่องของความเชื่อที่ใครหลายคนให้ความสำคัญ ใช้ประกอบการทำหัตถการต่าง ๆ บนใบหน้าเพื่อเสริมความมั่นใจ เวลาทำอะไรก็ปัง ซึ่งริมฝีปากเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นอีกจุดสำคัญที่ช่วยปรับโหงวเฮ้ง เสริมความปัง เพิ่มความมั่นใจให้ตัวเราได้อย่างดี ทั้งยังช่วยปรับลุคให้ใบหน้าดูโดดเด่น มีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น ซึ่งแต่ละทรงปากที่แตกต่างกันออกไปก็ส่งผลกับใบหน้าที่ดูดีขึ้นได้อย่างชัดเจน ไปดูกันดีกว่าค่ะว่าโหงวเฮ้งทรงปากของเราตรงกับแบบไหน จะต้องแก้ไขอย่างไร ปากทรงไหนบ้างที่ปัง แบบไหนบ้างที่ไม่ปัง
เป็นคนที่มีลักษณะรักครอบครัว มีความเป็นแม่ในตัวสูง เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของครอบครัว และมิตรภาพ มีความเป็นผู้ให้
ปากเล็ก ริมฝีปากบาง
ไม่ชอบยึดติด รักอิสระ ชอบความสงบ เป็นคนมีโลกส่วนตัวสูง มีอารมณ์ศิลปินในตัว
ปากล่างหนา
เป็นคนชอบความสนุกสนาน ชอบแสวงหาความสุข ความบันเทิงในชีวิต เป็นคนที่ใช้ชีวิตสนุกสนานมาก จนบางครั้งมากเกินพอดี จึงไม่ค่อยมีความสมดุลกับการใช้ชีวิตซักเท่าไหร่
การฉีดฟิลเลอร์ปากช่วยอะไร
Filler ปาก ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากอวบอิ่ม มีน้ำมีนวล แลดูอมชมพูขึ้น เติมเต็มร่องปากให้เต่งตึง ไม่แห้งแตกเป็นร่อง ทาลิปสติกสวยขึ้นกว่าที่เคย เพราะริมฝีปากเป็นอีกจุดโฟกัสสำคัญของใบหน้า ซึ่งเป็นอีกส่วนหนึ่งที่หากมีการเปลี่ยนแปลงรูปทรงจะสามารถช่วยปรับลุค เสริมเสน่ห์ให้ใบหน้าของเราดูดีขึ้นได้ การฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ ฉีดฟิลเลอร์ยกมุมปากจะสามารถช่วยแก้ปัญหามุมปากตก ปากคว่ำ ให้เหมือนกับยิ้มอยู่ตลอด ถึงแม้ว่าจะทำหน้านิ่งอยู่
ปากแบบไหนที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์
โดยธรรมชาติผิวของคนเราจะมีความเสื่อมลงไปตามธรรมชาติ เมื่ออายุที่เพิ่มมากขึ้น คอลลาเจนใต้ชั้นผิวเกิดการเสื่อมสลายและการผลิตของคอลลาเจนเริ่มลดน้อยลงตามไปด้วย ทำให้ชั้นผิวรวมไปถึงบริเวณริมฝีปากบางลงและเหี่ยวย่น ไม่เต่งตึง นอกจากปัจจัยของเรื่องอายุที่เพิ่มมากขึ้น ยังเกิดขึ้นได้จากมลภาวะที่เราต้องเผชิญในชีวิตประจำวันก็ส่งผลกระทบกับปัญหาผิวได้เช่นกัน ทำให้เสียความมั่นใจ หน้าดูแก่กว่าวัย ดังนั้นไปดูกันค่ะว่าถ้าต้องการแก้ปัญหาริมฝีปากด้วยการฉีดฟิลเลอร์จะเหมาะกับใครบ้าง
ปากไม่เป็นทรง ไม่ได้สัดส่วน
การฉีดฟิลเลอร์เข้าไปที่ริมฝีปากเพื่อเติมเต็มจัดทรงปากให้ได้สัดส่วนรับกับใบหน้า โดยสามารถปั้นทรงให้ได้รูปตามที่ต้องการ เพื่อช่วยเสริมใบหน้าให้มีเสน่ห์โดดเด่นมากยิ่งขึ้น
ปากเหี่ยว ปากแห้ง
สำหรับคนที่มีริมฝีปากแห้งแตกเป็นร่อง เนื้อปากเหี่ยว ไม่เต่งตึง เหมือนขาดคอลลาเจน สามารถใช้ฟิลเลอร์ช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ค่ะ เพราะฟิลเลอร์จะเข้าไปเติมเนื้อปากให้อวบอิ่ม มีน้ำมีนวล กลับมาเต่งตึง หน้าจึงดูเด็กลง ทั้งยังกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ผลลัพธ์จึงออกมาดี เห็นการเปลี่ยนแปลงของริมฝีปากที่สวยขึ้นอย่างชัดเจนหลังทำทันที (ผลลัพธ์การรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละรายบุคคล)
ขอบปากไม่ชัด
สำหรับคนที่ชอบให้มีขอบปากที่ชัด ทำให้ปากเด่น โดดเด้งออกมา โดยที่ไม่ต้องพยายามใช้เทคนิคเมกอัพที่มากมาย การฉีดฟิลเลอร์สามารถช่วยเติมเต็มไล่ขอบปากให้ชัดขึ้นมาได้ เป็นทรงสวยตามที่ต้องการ ช่วยให้หน้าดูชัดมีมิติขึ้นอีกด้วย
ปากคว่ำ มุมปากตก
หลาย ๆ คนมีปัญหาหน้าดูเหวี่ยง เวลาทำหน้านิ่งหน้าเลยดูไม่ยิ้มแย้ม ดูไม่เป็นมิตร ทำให้คนไม่กล้าเข้าหา หน้าดูแก่ ไม่สดใส เพราะมีรูปปากที่คว่ำ หรือมุมปากที่ตก การฉีดฟิลเลอร์ยกมุมปากจึงสามารถช่วยจัดทรงยกมุมปากขึ้นได้โดยที่ไม่ต้องผ่าตัด หน้าดูสดใส เหมือนยิ้มตลอดเวลาแม้จะทำหน้านิ่งอยู่
ปากบาง
ริมฝีปากที่บาง ทำให้ใบหน้าดูไม่โดดเด่น หน้าไม่มีมิติ หมดเสน่ห์ลงไปได้
เลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ไหนดีที่เหมาะสมในการฉีดปาก
สำหรับคำถามที่ว่าควรเลือกฉีดฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดี เนื่องจากริมฝีปากเป็นส่วนที่ผิวมีความบาง ดังนั้นการจะเลือกสารเติมเต็มตัวไหนซักตัวให้เหมาะสม จึงเป็นสิ่งที่สำคัญไม่ต่างกับการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและเทคนิคการฉีดของแพทย์เลยค่ะ ซึ่งแต่ละยี่ห้อนั้นก็มีความแตกต่างกันออกไปของทั้งคุณสมบัติ เนื้อสัมผัส รวมถึงโมเลกุล ถึงแม้จะฉีดบริเวณเดียวกันแต่ใช้สารเติมเต็มที่มีคุณสมบัติต่างกัน ก็ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไปได้เช่นกัน สงสัยกันแล้วใช่ไหมคะว่าความแตกต่างของแต่ละยี่ห้อที่จะนำมาฉีดริมฝีปากนั้นเป็นอย่างไรบ้าง
Restylane
ฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมมากอีกแบรนด์หนึ่ง มีความยืดหยุ่น ปรับรูปทรงได้หลากหลาย ที่พิเศษกว่ายี่ห้ออื่นก็คือ มีรุ่นที่ผลิตออกมาสำหรับใช้ฉีดปากโดยเฉพาะ ทั้งนี้ก็ต้องให้คุณหมอเป็นผู้ประเมินและเลือกรุ่นที่เหมาะสมและตอบโจทย์ความต้องการของเรามากที่สุดนะคะ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาปลอดภัย เป็นธรรมชาติที่สุด ไปดูกันค่ะว่ามีรุ่นไหนบ้างที่เหมาะกับการฉีดปาก
- Restylane Vital Light มีโมเลกุลขนาดเล็ก เนื้อเบา ช่วยเติมเต็มริมฝีปากแห้งแตก ผิวแลดูชุ่มชื้น มีน้ำมีนวล
- Restylane Vital ฟิลเลอร์รุ่นที่มีโมเลกุลเบา เหมาะกับการฉีดบริเวณชั้นตื้น เพื่อเน้นช่วยให้ผิวมีความกระจ่างใสขึ้น
- Restylane Volyme ช่วยเพิ่มมิติ ปรับแต่งทรง เติมเนื้อปาก อิ่มฟู เต่งตึง
- Restylane Kysse ฟิลเลอร์ที่ถูกพัฒนาต่อยอดผลิตขึ้นเพื่อใช้สำหรับฉีดปากโดยเฉพาะ มีเนื้อนิ่มและละเอียดมาก สามารถกลืนเข้ากับเนื้อปากได้ดี เมื่อสัมผัสแล้วแทบไม่รู้สึกว่าเป็นก้อน รู้สึกสมูธ เป็นธรรมชาติ ไม่รู้สึกถึงความแข็งหรือเป็นก้อนเลย ขนาดจุ๊บก็ยังไม่รู้เลยว่าฉีดปากมา แม้จะฉีดในปริมาณที่น้อยกว่าฟิลเลอร์ทั่วไปก็สามารถขึ้นทรงได้ดี ผลลัพธ์จึงออกมาดีที่สุดและปลอดภัย
Juvéderm
เป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อละเอียด ยืดหยุ่น เรียบเนียน เซ็ตตัวได้ดี ผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทำให้สารเติมเต็มมีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้ดี ยึดเกาะได้แน่น ทนต่อการขยับเคลื่อนไหว
- Juvéderm Volift เป็นฟิลเลอร์ที่เนื้อนิ่ม แต่ขึ้นทรงได้ง่าย เหมาะกับคนที่ผิวบาง ปากได้รูปมีความคมชัด เป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน
- Juvéderm Vobella เนื้อสัมผัสมีความละมุน เหมาะกับการเติมร่องลึกบริเวณใต้ตา และยังสามารถนำไปเติมเต็มริมฝีปากได้อีกด้วย เหมาะกับคนที่มีเนื้อปากอยู่แล้ว แต่ต้องการจัดทรงให้ได้สัดส่วนและเติมความชุ่มชื้นให้กลับคืนมา ริมฝีปากเรียบเนียนกว่าที่เคย
- Juvéderm Volite เนื้อสัมผัสมีความนิ่ม ละเอียด กระจายตัวได้ดี โมเลกุลเบา เหมาะกับฉีดบริเวณผิวชั้นตื้น ผิวสดใสดูอ่อนกว่าวัย ปากฉ่ำชุ่มชื้น สุขภาพดี
- Juvéderm Ultra Plus เป็นรุ่นที่สามารถอุ้มน้ำได้เยอะกว่ารุ่นอื่น ๆ เมื่อฉีดแล้วจะยิ่งทำให้ผิวอิ่มฟูสวยมากขึ้น ช่วยให้ปากมีความอวบอิ่ม ปรับแต่งขึ้นทรงปากเป็นสายฝอได้สวย
- Juvéderm voluma เป็นรุ่นที่มีโมเลกุลค่อนข้างแน่น สามารถนำมาใช้จัดทรงแต่งรูปรูปปากได้ดี ช่วยให้ริมฝีปากอวบอิ่ม เต่งตึง
Belotero
ฟิลเลอร์พรีเมียมจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีหลากหลายรุ่นที่สามารถเติมเต็มร่องลึก ปรับรูปหน้า ช่วยยกกระชับ ทั้งยังช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อีกด้วย
Belotero Balance ฟิลเลอร์ที่มีเนื้อไม่หนักมากเกินไป ช่วยเติมเต็มร่องลึกแก้ปัญหารอยแตกแห้งของริมฝีปาก จัดทรงขึ้นรูปริมฝีปากได้ดีอีกด้วย
Neuramis
ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่ผลิตขึ้นด้วยเทคโนโลยีเฉพาะ ทำให้เนื้อเจลมีความปลอดภัย เป็นธรรมชาติ เติมเต็มได้หลายจุด
- Neuramis Deep เป็นสารเติมเต็มรุ่นที่ไม่มียาชาผสม มีเนื้อเจลระดับกลาง ๆ มีความฟูของเนื้อฟิลเลอร์ ไม่แข็งหรือนิ่มจนเกินไป จึงสามารถนำมาฉีดเติมเต็มริมฝีปากให้อวบอิ่ม เต่งตึงได้ดี ไม่ดูแข็งจนเกินไปและไม่นิ่มจนขึ้นทรงไม่ได้
- Neuramis Deep Lidocaine เป็นฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัติเหมือนกับรุ่น Deep แตกต่างเพียงแค่รุ่นนี้มีส่วนผสมของยาชา
สำหรับฟิลเลอร์นิวรามิสนั้น เป็นยี่ห้อที่มีเนื้อเจลค่อนข้างแข็ง สามารถขึ้นทรงได้ดี เหมาะกับฉีดผิวชั้นลึกหรือบริเวณแนวกระดูก จึงไม่เหมาะกับการฉีดบริเวณผิวชั้นตื้นหรือจุดที่ผิวมีความบาง โดยเฉพาะหากจะนำมาฉีดบริเวณปากอาจจะไม่เหมาะเท่าไหร่นัก เพราะจะทำให้ปากดูแข็ง ไม่เป็นธรรมชาติ เมื่อสัมผัสริมฝีปากจะรู้สึกไม่สมูธ อาจรู้สึกเป็นก้อนได้หลังฉีด
Yvoire
ฟิลเลอร์พรีเมียมจากประเทศเกาหลีใต้ที่มีขนาดโมเลกุลแตกต่างกันหลายรุ่น ทั้งยกกระชับ เติมร่องลึก ปรับรูปหน้า
Yvoire Volume Plus ฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลขนาดกลางสามารถช่วยเพิ่มโวลลุ่มให้กับชั้นผิวได้ดี จึงสามารถฉีดเติมเต็มริมฝีปากให้อวบอิ่มเต่งตึง มีน้ำมีนวล ปั้นทรงได้ ไม่แข็งหรือนิ่มจนเกินไป ทั้งยังสามารถฉีดผสมกับโมเลกุลขนาดเล็กได้อีกด้วย ขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์และประเมินของแพทย์ผู้ทำการรักษา
EPTQ
เป็นฟิลเลอร์ที่ทำออกมาหลายรุ่น มีทั้งปรับรูปหน้า และเติมเต็มแก้ไขปัญหาจุดต่าง ๆ ด้วยเทคโนโลยีเฉพาะที่ทำให้ฟิลเลอร์ไม่มีสารตกค้าง มีปริมาณความหนาแน่นและเข้มข้น เนื้อละเอียด
- p.t.q. รุ่น s100 lidocaine มีโมเลกุลเล็ก ละเอียด เนื้อเบา เนื้อนิ่ม มีความยืดหยุ่นดี จึงเหมาะกับการนำมาฉีดเติมเต็มริมฝีปากที่มีปัญหาไม่มาก ช่วยให้ปากละมุนดูเป็นธรรมชาติ เรียบเนียน
- e.p.t.q. รุ่น s300 lidocaine เป็นรุ่นที่มีเนื้อเจลอยู่ในระดับกลาง มีการคงตัวได้ดี ทำให้ปั้นทรงปากได้ง่าย ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น
สัดส่วนของริมฝีปากสวยเป็นอย่างไร
สัดส่วนริมฝีปากสวยหรือ Perfect Lips จะมีลักษณะคือ ริมฝีปากบนจะต้องมีรอยหยักโค้งสวยคล้ายกระจับหรือคันธนู มีขอบหยักที่ชัดเจน คมชัด รวมไปถึงริมฝีปากบนและล่างมีสัดส่วนที่พอดีกันคือ 1.0 : 1.6-1.8 ซึ่งเป็นสัดส่วนที่หลายคนเรียกกันว่า สัดส่วนทองคำ (Gloden Ratio) บริเวณมุมปากยกขึ้นเล็กน้อยไม่ทิ่มลงมา ขอบปากทั้งสองข้างต้องชัดและมีสัดส่วนที่เท่ากัน เนื้อปากอวบอิ่ม เรียบเนียนไม่มีริ้วรอย ลักษณะและสัดส่วนที่กล่าวไปนี้ เป็นทรงปากที่หลายคนใฝ่ฝันมากเลยทีเดียว เพราะจะช่วยให้ใบหน้าดูละมุนขึ้นนั่นเองค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์ปากในตำแหน่งไหนได้บ้าง
การฉีดฟิลเลอร์ปากนั้นไม่ใช่เพียงแค่ฉีดเข้าไปตรง ๆ ที่ริมฝีปากเท่านั้น เพราะกายวิภาคของริมฝีปากมีด้วยกันหลายตำแหน่ง โดยแต่ละตำแหน่งก็ส่งผลลัพธ์ที่แปลกแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับว่าต้องการที่จะแก้ไขเรื่องใดบ้าง สัดส่วนของริมฝีปากที่แตกต่างกัน จึงสามารถช่วยปรับลุคของใบหน้าให้เปลี่ยนแปลงไปตามความต้องการได้อย่างเห็นได้ชัด เป็นการฉีดเข้าไปในแต่ละจุดของปากเพื่อช่วยเสริมให้ผลลัพธ์ออกมาละมุนเป็นธรรมชาติที่สุด โดยริมฝีปากมีการแบ่งสัดส่วนหลัก ๆ ได้ดังนี้
รอยหยักริมฝีปากบน
รอยหยักที่ขอบปากบนทรงคล้ายลูกกระจับ หรือบางครั้งก็เปรียบเหมือนคันธนู ตรงบริเวณนี้ก็เป็นอีกส่วนที่ทำให้ใบหน้าเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นได้อย่างชัดเจน ร่วมกับการปรับทรงจุดอื่น ๆ ของปากด้วย
เส้นนูนเหนือริมฝีปากบน
เป็นเส้นสันนูนตั้งแต่ช่วงจมูกมาถึงขอบปากบน ความคมชัดของเส้นนี้ก็มีส่วนทำให้รูปปากเปลี่ยนแปลงมีมิติขึ้นได้ โดยแพทย์จะประเมินให้เข้ากับใบหน้าของคนไข้มากที่สุด
ขอบปาก
ขอบปากหรือบริเวณของเส้นรอบ ๆ ริมฝีปาก หากฉีดฟิลเลอร์เพิ่มความคมชัด ปากก็จะดูโดดเด่น มีมิติ ปากมีเสน่ห์
มุมปาก
คนที่ปากคว่ำ มุมปากตก หากฉีดฟิลเลอร์ยกมุมปากเพื่อให้มุมปากขึ้น ปากก็จะดูยิ้ม หน้าไม่ดูดุ แม้ทำหน้านิ่ง ปากก็ยังยิ้มอยู่ ดูน่าเข้าหาหรือพูดคุยด้วยมากขึ้น
เนื้อปาก
เป็นจุดที่มีบริเวณกว้างที่สุด หากฉีดเข้าไปก็สามารถช่วยให้ปากโดดเด่น อวบอิ่ม เต่งตึงมากขึ้น ปากดูเด้งออกมา มีเสน่ห์กว่าที่เคย ยิ่งช่วยปรับลุคใบหน้าให้เปลี่ยนแปลงชัดเจน ขึ้นอยู่กับความต้องการของคนไข้และความเหมาะสมกับใบหน้าของแต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป เพื่อให้ออกมาละมุนสวย ดูเป็นธรรมชาติ
ข้อดี - ข้อเสีย ของการฉีดฟิลเลอร์ปาก
ข้อดี
Filler ปาก ช่วยให้ริมฝีปากอวบอิ่ม เต่งตึง มีน้ำมีนวล ไม่แห้งแตกเป็นร่อง ปั้นทรงได้ตามชอบ ปากดูเป็นธรรมชาติรับกับใบหน้า โดยเมื่อฉีดเข้าไปใต้ชั้นผิวแล้วจะเข้าไปช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทำให้เส้นใยคอลลาเจนแน่นขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยปรับโหงวเฮ้ง เปลี่ยนลุคได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งใช้การคำนวนให้ทรงปากรับกับโครงหน้าของแต่ละรายบุคคลที่แตกต่างกันไป ทำแล้วไม่ต้องพักฟื้น กลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ หากทำแล้วอยากแก้ไขหรือเปลี่ยนทรงก็สามารถทำได้โดยการฉีดยาสลาย ไม่ต้องผ่าตัดให้เจ็บตัวหรือเป็นแผลเลย
ข้อเสีย
การทำฟิลเลอร์ที่บริเวณปาก ข้อเสียที่มีก็คงจะเป็นเรื่องของผลลัพธ์ที่ไม่ได้คงอยู่ถาวร เพราะ HA-Filler แท้ เป็นสารที่สลายไปได้เองตามธรรมชาติภายหลังการฉีด เพราะร่างกายเรามีเอ็นไซม์ที่สามารถย่อยสลายสารจำพวก HA (Hyaluronic Acid) จึงไม่เกิดการตกค้างในร่างกาย ทิ้งไว้เพียงเส้นใยคอลลาเจนที่จับตัวแน่นขึ้น ทำให้ไม่กลับไปโทรมหรือเหมือนกับตอนก่อนฉีดฟิลเลอร์
เปรียบเทียบกับผ่าตัดศัลยกรรม
สมัยนี้ เทรนความงามมีเข้ามาให้เราเลือกใช้บริการเยอะแยะมากมาย โดยเฉพาะการจัดแต่งหรือปรับรูปทรงริมฝีปากให้ได้สัดส่วนที่สวยงาม ซึ่งเทรนยอดฮิตก็จะมีทั้งการฉีดฟิลเลอร์และการผ่าตัดศัลยกรรมปาก ซึ่งทั้งสองวิธีนี้ ล้วนมีข้อแตกต่างที่เห็นได้อย่างชัดเจน ดังนี้
จากตารางเปรียบเทียบจะเห็นได้ว่า ทั้งสองวิธีนี้ล้วนมีทั้งจุดเด่นและจุดด้อยที่แตกต่างกัน อย่างเช่น ฟิลเลอร์ไม่สามารถคงสภาพผลลัพธ์ได้อย่างถาวรเหมือนการศัลยกรรม แต่ในขณะเดียวกันการฉีดฟิลเลอร์ก็ยังเป็นวิธีปรับรูปทรงปากที่มีความยืดหยุ่นมากกว่าในเรื่องของการพักฟื้น เห็นผลเร็ว แทบไม่เกิดผลข้างเคียง อีกทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนรูปทรงได้ตามใจชอบ หรือหากไม่พอใจในผลลัพธ์ ก็สามารถฉีดสลายและเติมเต็มเข้าไปใหม่ได้เลย อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเลือกใช้บริการปรับรูปทรงปากด้วยวิธีใดก็ตาม แนะนำให้เลือกใช้บริการกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน และควรทำกับคุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญในด้านนั้น ๆ โดยตรง
ผ่าตัดศัลยกรรมทำปากบางมาแล้ว เติมฟิลเลอร์แก้ได้ไหม
คนที่เคยศัลยกรรมปากมาแล้ว ต้องการปรับรูปทรงปากให้ดูอวบอิ่มขึ้น ก็สามารถเข้ามาฉีดเติมฟิลเลอร์ได้ค่ะ เพราะในบางกรณีที่ผ่าตัดทำปากบางมาแล้ว พออายุมากขึ้น ริมฝีปากยิ่งเริ่มบางลง หลายคนจึงหันมาเติมเต็มปากให้มีวอลลุ่มขึ้น ซึ่งข้อจำกัดคือ ไม่ควรเติมในปริมาณที่มากจนเกินไป ซึ่งแพทย์จะต้องจำกัดปริมาณที่เหมาะสมกับสภาพผิวปากของแต่ละคนค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์ปากที่ด็อกเตอร์เมฆคลินิกดีอย่างไร
Doctor Mek Clinic เราให้บริการฉีดฟิลเลอร์ปาก ภายใต้มาตรฐานอาจารย์แพทย์ ที่นำทีมโดยอาจารย์หมอเมฆ อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเฉพาะทาง อีกทั้งยังมีดีกรีเป็นระดับอาจารย์แพทย์ด้านฟิลเลอร์ที่ฉีดให้กับเหล่าดาราเซเลบริตี้แถวหน้าของเมืองไทยมาแล้วหลายท่าน จนได้ฉายาว่า ‘หมอของดารา’ โดยทุกการรักษาจะมีการพูดคุย สอบถาม ประเมินการรักษาแบบ case by case เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงต่อความต้องการของรายบุคคล พร้อมใช้เทคนิคการรักษาที่ไม่เหมือนใคร ทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาดูเป็นธรรมชาติ เข้ากับรูปหน้าของแต่ละคน จนในที่สุดก็ได้ยืนยันมาตรฐานด้านการรักษา จนคว้ารางวัลระดับเอเชียมาครอบครองอย่าง “รางวัลอับดับ 1 ยอดฉีดสูงสุดในเอเชีย” พร้อมด้วย “รางวัลอันดับ 1 Single Clinic ที่มียอดฉีดฟิลเลอร์สูงสุดรวมทุกแบรนด์ในประเทศไทย 6 สมัยซ้อนตั้งแต่ปี 2018-2023”
เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ปากของทางคลินิก
ที่ด็อกเตอร์เมฆคลินิกเรามีเทคนิคการฉีดเฉพาะที่ไม่เหมือนใครกับ “Triple Layers Lift” ซึ่งเป็นเทคนิคการฉีดทั้งหมด 3 ระดับ โดยวางรากฐานตั้งแต่ชั้นกระดูกมาจนถึงชั้นผิวหนังส่วนบน โดยแต่ละเคสแพทย์จะพิจารณาตามความเหมาะสมว่า ควรฉีดที่ชั้นไหนจึงจะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดและเห็นผลได้ชัดเจน ลดอาการบวมช้ำ พร้อมผสานเข้ากับการดีไซน์ของแพทย์ที่จะประเมินทั้งปริมาณที่ฉีด รุ่นที่เหมาะสมกับรายบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติมากที่สุดค่ะ นอกจากนี้แล้ว ยังมีเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ปากที่ชื่อว่า “Kissy Me” กับสามรูปปากยอดฮิต ได้แก่
Sexy Lips รูปทรงสายฝอ เน้นเพิ่มความอวบอิ่มให้กับริมฝีปาก ปรับลุคให้ดูเซ็กซี่มากยิ่งขึ้น
Barbie Lips รูปทรงปากสายเกา ที่เน้นการเติมเต็มให้อวบอิ่มขึ้นเล็กน้อย เป็นกระจับ
Healthy Lips เน้นความเป็นธรรมชาติ ริมฝีปากสวยฉ่ำ มีความชุ่มชื้น สุขภาพดี ยกมุมปากเล็กน้อย
ฉีดฟิลเลอร์ปาก ราคาเท่าไหร่
การฉีดฟิลเลอร์ปาก ราคาอาจเป็นสิ่งที่หลายคนมองเป็นอันดับต้น ๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ควรมองเรื่องของราคาเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเรื่องของฟิลเลอร์นั้นเป็นเรื่องของศาสตร์ความงามและศิลปะแห่งการตกแต่งใบหน้า ซึ่งต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ของแพทย์และประสบการณ์ที่มากพอเป็นเรื่องสำคัญ แต่หากต้องการทราบเรื่องของราคา ควรเข้ามาปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินปัญหาและความต้องการของเราก่อน เพื่อที่แพทย์จะได้ช่วยเลือกยี่ห้อ รุ่นคุณสมบัติของฟิลเลอร์ และปริมาณที่ต้องใช้ เพราะการฉีด filler ปาก ราคามีความแตกต่างกันออกไปตามแต่ละยี่ห้อ รุ่น รวมถึงปริมาณที่ใช้ด้วย
โปรโมชั่นการฉีด
สำหรับโปรโมชั่นในการฉีด จะขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่ไม่เหมือนกัน ควรทักเข้ามาปรึกษากับคุณหมอหรือแอดมินเพื่อจะได้ทราบรายละเอียดที่ชัดเจน รวมถึงเป็นการพูดคุยเบื้องต้นกับคุณหมอได้อีกด้วยค่ะ
เปรียบเทียบก่อนและหลังฉีด
เพื่อให้เห็นถึงความแตกต่างการฉีดปากได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น เราจึงนำภาพตัวอย่าง โดยทำการเปรียบเทียบผลลัพธ์ก่อนทำและหลังทำมาให้ดูกันเลยดีกว่าค่ะ ซึ่งจะสังเกตเห็นได้ว่าหลังการฉีด ปากของเราจะดูเป็นทรงได้รูปมากขึ้น ปากอวบอิ่มเต่งตึง มีความชุ่มชื่นไม่แห้งแตกเป็นร่อง ช่วยปรับให้ใบหน้าดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น
รีวิวการฉีดฟิลเลอร์ปากจากคนไข้จริง
เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกทำหัตถการ รีวิวจะช่วยให้เห็นภาพรวมของผลงานและฝีมือของคุณหมอเมฆ Doctor Mek Clinic โดยทางเราได้นำรีวิว ฟิลเลอร์ปากส่วนหนึ่งของความประทับใจ รวมถึงเสียงตอบรับที่ดีอย่างล้นหลามจากคนไข้จริงมาไว้ในนี้แล้วค่ะ ดูรีวิวจากคนไข้จริงที่นี่
การฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ ยกมุมปาก เป็นอันตรายไหม
อย่างที่ทราบกันว่า HA-Filler แท้ เป็นสารเติมเต็มจำพวกไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ใต้ชั้นผิวหนังของเราตามธรรมชาติ เมื่อฉีดเข้าไปแล้วจึงเกิดการย่อยสลายได้โดยเอ็นไซม์ที่มีในร่างกายของเรา ทำให้ไม่เกิดการตกค้าง ดังนั้น สำหรับคำถามที่ว่า การฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ ฉีดฟิลเลอร์ยกมุมปาก จะเกิดอันตรายไหม หัตถการนี้เป็นการกระทำที่ไม่เป็นอันตราย แต่ถึงแม้จะใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและเป็นของแท้ ก็ต้องคำนึงในเรื่องของความเชี่ยวชาญเทคนิคการฉีดและประสบการณ์ของแพทย์เข้ามาประกอบด้วยค่ะ เพราะหากแพทย์ไม่ชำนาญหรือประสบการณ์น้อย อาจส่งผลทำให้เกิดการวางตำแหน่งของฟิลเลอร์ผิดจนฉีดไปโดนเส้นเลือด ทำให้เกิดการอุดตันของเส้นเลือดลุกลามเป็นปัญหาร้ายแรงได้ แต่ถ้าหากอยู่ภายใต้การดูแลของคุณหมอที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์มากพอ ไม่ต้องกลัวเลยค่ะ ผลลัพธ์ออกมาดี ปลอดภัย เป็นธรรมชาติอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีในกรณี ถ้าหากใช้ของปลอมมาฉีด อันนี้ต้องบอกเลยว่าอันตรายมาก ๆ ค่ะ เพราะสารที่ใช้มักเป็นจำพวกซิลิโคนเหลวหรือพาราฟิน ซึ่งไม่สามารถย่อยสลายไปได้ ทำให้เกิดปัญหาตามมาเช่นการอักเสบ ติดเชื้อ ซิลิโคนไหล หน้าย้อย หน้าผิดรูป หากจะแก้ไขต้องทำการผ่าตัดหรือขูดออกเท่านั้น โดยหลังการรักษาจะไม่สามารถทำให้กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมร้อยเปอร์เซ็นต์ได้ค่ะ
การฉีดฟิลเลอร์ปากจะต้องใช้กี่ cc ถึงจะเห็นผล
หลายคนคงสงสัยว่าต้องใช้ฟิลเลอร์ปาก 1 cc หรือใช้ 2 cc จึงจะออกมาสวยได้ทรงตามที่ต้องการ ซึ่งหากใช้มากไปปากก็จะดูบวมใหญ่ ดูแข็งไม่เป็นธรรมชาติ ดูโอเวอร์ไม่เข้ากับใบหน้า หากใช้น้อยเกินไปก็แทบจะไม่เห็นผลอะไรเลยเหมือนเสียเงินไปเปล่า ๆ โดยไม่ได้อะไรกลับมา ซึ่งปัจจัยของการคำนวนปริมาณ cc ที่ใช้ฉีดนั้นมีความแตกต่างกันออกไปเพราะแต่ละยี่ห้อมีรุ่นและคุณสมบัติที่มีขนาดของโมเลกุลใหญ่ – เล็กไม่เหมือนกัน ทำให้แม้จะฉีด 1 cc เหมือนกัน ก็ให้ผลลัพธ์ไม่เหมือนกัน รวมถึงต้องคำนึงถึงสภาพผิวและปัญหาของคนไข้แต่ละคนที่แตกต่างกันไป ดังนั้น สิ่งที่สำคัญควรเข้าปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์มากพอ เพื่อให้เป็นผู้ประเมินและคำนวนปริมาณที่จะใช้ให้เหมาะสมกับเราจึงจะดีที่สุดค่ะ
การเตรียมตัวก่อนการฉีดฟิลเลอร์ปาก
ก่อนที่จะเข้าไปฉีดฟิลเลอร์ปาก สิ่งที่ควรทำนั้นมีเรื่องที่ต้องควรรู้และเตรียมตัวเช่นกันค่ะ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีและไม่เป็นอุปสรรคระหว่างทำการฉีด ไปดูกันดีกว่าว่าต้องเตรียมตัวอย่างไรกันบ้างก่อนเข้ารับบริการ
- ควรแจ้งแพทย์ก่อนการรักษาทุกครั้ง หากมีโรคประจำตัวหรือเคยมีประวัติแพ้ยาชา
- ก่อนเข้ารับบริการควรงดรับประทานอาหารเสริม ยา หรือวิตามินที่มีผลทำให้เลือดหยุดไหลช้า หรือกระตุ้นให้มีการสูบฉีดของเลือดเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้ไม่เกิดผลกระทบทั้งระหว่างทำและหลังทำ แต่หากมีความจำเป็นที่ต้องรับประทานควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดก่อนทำ
- ควรงดการดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเข้ารับบริการภายใน 24 ชั่วโมง เพราะแอลกอฮอล์มีผลทำให้หลอดเลือดขยายตัวและเลือดสูบฉีดเพิ่มมากขึ้น อาจส่งผลในระหว่างฉีดและหลังฉีดได้
ขั้นตอนการฉีด
มาถึงขั้นตอนการฉีดกันบ้างค่ะ โดยที่ Doctor Mek Clinic ดูแลทุกเคสโดยคุณหมอเมฆ อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเทคนิคการฉีดและมีประสบการณ์ในแวดวงความงามมากกว่า 10 ปี จึงทำให้วิเคราะห์ปัญหา สภาพผิว และเลือกผลิตภัณฑ์ได้อย่างเหมาะสมกับคนไข้ที่สุด ผลลัพธ์จึงออกมาดี ปลอดภัย เป็นธรรมชาติ เห็นผลการเปลี่ยนแปลงหลังทำทันที (ผลการรักษาขึ้นอยู่กับรายบุคคล)
- วิเคราะห์ทรงปากให้รับกับโครงหน้า ประเมินปัญหาของบริเวณที่จะทำการฉีด พูดคุยสรุปความต้องการของคนไข้ เพื่อนำมาคำนวนปริมาณ เลือกโมเลกุลของสารเติมเต็ม เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด เหมาะกับใบหน้าของคนไข้
- ทำความสะอาดบริเวณที่จะทำการฉีด และแปะยาชาในบริเวณที่จะฉีดทิ้งไว้ประมาณ 30 – 40 นาที
- เมื่อทำการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปตามตำแหน่งที่คุณหมอได้กำหนดไว้ ตามการคำนวนอย่างแม่นยำ พร้อมทั้งขึ้นทรงปากตามที่ได้พูดคุยกับคนไข้ไว้ โดยระหว่างนั้นเมื่อคุณหมอฉีดไปได้ส่วนหนึ่งแล้ว จะให้คนไข้ได้ดูริมฝีปากของตัวเองเป็นระยะ ๆ เพื่อที่คนไข้สามารถตัดสินใจได้ว่าพอใจแล้วหรือยัง อยากจะเพิ่มเติมปรับแต่งทรงไปทางไหนอีกหรือไม่ โดยคุณหมอจะคอยให้คำแนะนำถึงความเหมาะสมเพื่อประกอบการตัดสินใจ โดยขั้นตอนของการฉีดจะใช้เวลาตั้งแต่ 15 นาที ถึง 1 ชั่วโมง แตกต่างกันไปตามแต่ละรายบุคคล
ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
นอกจากฝีมือที่ดีของคุณหมอและการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ เรื่องของการดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ปากแล้ว ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ผลลัพธ์หลังทำคงอยู่ได้นาน และเห็นผลลัพธ์ได้อย่างเต็มที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
- หลังฉีดควรดื่มน้ำเปล่าตามมาก ๆ เนื่องจาก HA-Filler เป็นสารอุ้มน้ำ จึงทำให้เซตตัวได้ไวและแสดงผลลัพธ์ออกมาได้อย่างชัดเจน เมื่อได้รับน้ำเข้าไปในปริมาณที่มากเพียงพอ
- หลีกเลี่ยงเรื่องของความร้อนที่เข้ามาปะทะบริเวณริมฝีปากโดยตรงในช่วงแรก เช่น การทานของร้อนซึ่งจะทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวไวขึ้น รวมถึงอาจส่งผลทำให้เกิดอาการบวมหรืออักเสบขึ้นได้
- หลังฉีดบริเวณปากอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ไม่ควรกด บีบ นวด คลึง หรือสัมผัสแรง ๆ บริเวณริมฝีปาก เพราะอาจจะทำให้ฟิลเลอร์ผิดรูปทรงได้
- ในช่วง 1 – 2 วันแรกหลังฉีด ควรหลีกเลี่ยงการใช้หลอดดูดน้ำหรือการสูบบุหรี่ เพราะจะยิ่งไปเพิ่มแรงกดให้กับริมฝีปากจนอาจส่งผลให้ฟิลเลอร์ผิดรูปทรงได้
- งดอาหารหมักดองหรือแอลกอฮอล์ในช่วงแรกหลังการฉีด เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดอาการอักเสบหรือบวม
ผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
หลังการฉีดฟิลเลอร์ปากแล้ว ในบางรายอาจจะเกิดอาการบวมนิดหน่อย หรือรู้สึกตึง ๆ เล็กน้อยในบริเวณริมฝีปาก รวมถึงมีรอยเข็มเป็นจุดเล็ก ๆ ภายใน 3–4 วัน ก็จะหายไปได้เอง ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ แต่ถ้าหากเป็นมากกว่านั้นต้องรีบพบแพทย์เพื่อรักษาโดยด่วน ส่วนมากจะเกิดขึ้นจากคุณหมอที่ทำการรักษาไม่ชำนาญในเทคนิคการฉีด ทำให้วางตำแหน่งของสารเติมเต็มได้ไม่แม่นยำ ฉีดเข้าไปผิดจุด หรือย้ำเข็มมากเกินไปจนทำให้เกิดรอยเขียวรอยช้ำขึ้นได้ ในบางเคสที่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีคุณภาพหรือของปลอมนำมาฉีดริมฝีปาก ทำให้เกิดอาการอักเสบรุนแรง ติดเชื้อ เกิดอาการบวมแดงมาก ๆ จนลุกลามไปถึงรูปทรงปากเบี้ยวผิดรูปได้
หลังทำ หากไม่ถูกใจจะสามารถแก้ไขได้ไหม
หากทำไปแล้ว ผลลัพธ์ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ สามารถแก้ไขด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์ได้เลยค่ะ ซึ่งเมื่อฉีดสลายไปแล้วในช่วง 15-20 นาทีแรก สารเติมเต็มจะเริ่มสลายไป 60-70% และเมื่อผ่านไปสองวัน สารเติมเต็มเหล่านั้นจะค่อย ๆ ยุบตัวลงและซึมไปตามผิวหนัง โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผิวและร่างกาย รูปทรงปากของคนไข้ก็จะกลับมาเป็นทรงปกติ ซึ่งแพทย์จะมีการนัดติดตามอาการเพื่อตรวจสอบว่า ฟิลเลอร์สลายไปหมดแล้วหรือยัง หากยังไม่หมดแพทย์ก็จะฉีดสลายเพิ่มตามความเหมาะสมค่ะ
คำถามที่พบบ่อย
เรื่องของการฉีด filler ปากยังมีอีกหลายข้อสงสัยที่คนไข้มักจะถามเข้ามาคล้าย ๆ กันบ่อยพอสมควร ดังนั้นเราจึงรวบรวมคำถามที่พบบ่อยเอามาไว้ในนี้ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจรวมถึงช่วยตอบข้อสงสัยที่มีเบื้องต้นได้ ไปดูกันดีกว่าค่ะว่ามีคำถามอะไรบ้าง
สำหรับผู้ที่กังวลว่าตัวเองมีเนื้อปากที่เยอะอยู่แล้ว หรือปากหนาเป็นทุนเดิม ก็สามารถฉีดได้ค่ะ เพราะบางรายอาจจะมีปัญหาของทรงปากที่ยังไม่ได้รูป หรือริมฝีปากมีความแห้ง ขาดความชุ่มชื้น โดยคุณหมอจะเป็นผู้ประเมินปัญหาของริมฝีปากร่วมกับความต้องการของคนไข้ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาเหมาะสมและดูดี เป็นธรรมชาติมากที่สุดค่ะ การเข้ามาปรึกษาคุณหมอโดยตรงจึงเป็นวิธีการช่วยตัดความกังวลออกไปได้อย่างดีเลยค่ะ
ฟิลเลอร์ยกมุมปากฉีดแล้วช่วยยกมุมปากได้จริงค่ะ เพราะกายวิภาคของริมฝีปากเรานั้นมีด้วยกันหลายตำแหน่ง การที่จะปั้นทรงปากให้สวยดูดีรับกับใบหน้านั้น จึงต้องฉีดในบริเวณอื่น ๆ ไปพร้อมกัน เมื่อฟิลเลอร์เข้าไปใต้ชั้นผิวก็จะเข้าไปช่วยยกกระชับให้ผิวอิ่มฟูเต็มขึ้น ไม่เหี่ยว ไม่หย่อนคล้อย มุมปากจึงยกขึ้นค่ะ
เป็นการฉีดปากในองค์รวม ไม่ใช่เพียงฉีดแค่เนื้อปาก แต่ต้องฉีดในทุกจุดไปพร้อมกัน เมื่อสารเติมเต็มเข้าไปในทุกจุดแล้ว จึงทำให้ผิวเกิดความเต่งตึงกระชับขึ้น สามารถปั้นทรงปากได้ตามต้องการ การฉีดฟิลเลอร์ยกมุมปากจึงทำให้แก้ปัญหาปากคว่ำได้ด้วยค่ะ
สามารถทานของร้อนได้ค่ะ แต่แนะนำว่าหากเลี่ยงได้ควรเลี่ยงค่ะ เพราะความร้อนมีผลโดยตรงต่อสารเติมเต็ม ทำให้เกิดการสลายตัวได้ไวขึ้น ผลลัพธ์อาจจะอยู่ได้ไม่นานเท่าที่ควรจะเป็น หากชอบทานของร้อนมากจริง ๆ อาจจะเปลี่ยนมาเป็นทานของที่อุณหภูมิอุ่น ๆ เพียงเล็กน้อย เพื่อเป็นการถนอมฟิลเลอร์ให้อยู่ได้นานขึ้นค่ะ
หลังฉีดจูบปากได้ค่ะ ไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้น เพียงแต่อาจจะขอให้เว้นการสัมผัส กด หรือจูบแรง ๆ หลังฉีดในช่วง 1 – 2 สัปดาห์แรก เพื่อให้สารเติมเต็มเกิดการเซ็ตตัวเข้ากับเนื้อปากของเราเต็มที่เสียก่อน มิเช่นนั้น อาจเกิดการผิดรูปทรงขึ้นได้ค่ะ
หลังฉีดแล้วสัมผัสของจูบยังคงรู้สึกปกติค่ะ ขึ้นอยู่กับเทคนิคของคุณหมอในการวางตำแหน่งสารเติมเต็มและการเลือกโมเลกุลที่เหมาะสม จะทำให้แทบไม่รู้เลยว่าฉีดปากมา ยิ่งในปัจจุบันมีสารเติมเต็มที่ผลิตออกมาเพื่อฉีดปากโดยเฉพาะแล้ว บอกเลยค่ะว่าไม่รู้สึกถึงเนื้อฟิลเลอร์เลย สัมผัสกลืนไปกับเนื้อปากของเราจริง ๆ สมูธเป็นธรรมชาติ
ฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นก้อน เกิดขึ้นได้จากแพทย์ไม่เชี่ยวชาญเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ รวมถึงประสบการณ์มีน้อยก็มีส่วนทำให้การวางตำแหน่งของฟิลเลอร์ไม่แม่นยำ วางผิดชั้นผิว ทั้งยังเลือกฟิลเลอร์ไม่เหมาะสมกับปัญหาและสภาพผิวของคนไข้ ทำให้เกิดเป็นก้อนขึ้นได้ค่ะ
หากไปฉีดปากมาแล้วเกิดอาการเป็นก้อน ไม่ต้องกังวลนะคะ ถ้าหากเราฉีดของแท้สามารถทำการแก้ไขได้ง่ายมากค่ะ เพียงฉีดยาสลายฟิลเลอร์เข้าไปเท่านั้นค่ะ แต่ในเคสที่ฉีดของปลอมมาอาจจะต้องปรึกษาแพทย์เพื่อทำการผ่าตัดหรือขูดออกเท่านั้น ไม่สามารถฉีดยาสลายได้
ท่านใดที่มีข้อกังวลใจว่าการฉีดแล้วจะเจ็บไหม โดยในการฉีดไม่ว่าจะเป็นบริเวณปากหรือในส่วนอื่น ๆ จะมีการแปะยาชาก่อนการฉีดทุกครั้ง รวมถึงฟิลเลอร์ในหลายยี่ห้อมีการผสมยาชาด้วย จึงทำให้ไม่เจ็บเวลาฉีดฟิลเลอร์ค่ะ หรือในบางรายที่ผิวบางมากหรือไวต่อความรู้สึกอาจจะรู้เหมือนมีอะไรเคลื่อนผ่านเข้าไปใต้ชั้นผิวค่ะ
ความคงทนของผลลัพธ์การฉีดฟิลเลอร์ปาก อยู่ได้กี่เดือน โดยจะขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ รวมถึงการดูแลตัวเองหลังทำ และร่างกายของแต่ละรายบุคคล ซึ่งระยะเวลาโดยประมาณจะอยู่ที่ 8 – 18 เดือนค่ะ
หลังฉีดแล้ว สามารถเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นเปลี่ยนแปลงหลังทำทันที (ขึ้นอยู่กับแต่ละรายบุคคล) และจะเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ เต็มที่ในระยะเวลา 1 เดือนค่ะ
สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ปาก กี่วันหายบวม โดยปกติจะมีอาการบวมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และจะหายไปได้เองภายใน 2 – 3 วัน ควรหลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง หรือแอลกอฮอล์ร่วมด้วย เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการบวมหรืออักเสบขึ้นได้
หลังฉีดแล้วจะเริ่มเช็ตตัวและแสดงผลลัพธ์ได้เต็มที่ในระยะเวลา 1 เดือน ทำให้ริมฝีปากสวยมากยิ่งขึ้นกว่าช่วงที่ฉีดออกมาใหม่ ๆ
สิ่งที่ห้ามกินหลังฉีดจะเน้นไปที่เรื่องของอาหารที่มีความร้อน อาหารเผ็ดจัด รวมถึงของหมักดอง เพราะมีผลถึงอาการอักเสบ บวมแดงที่จะเกิดขึ้นและหายช้า รวมไปถึงการสลายตัวของฟิลเลอร์ที่ไวขึ้นจนอาจเกิดการผิดรูปของริมฝีปากได้
จริง ๆ แล้ว ก็สามารถทาลิปสติกได้เลยค่ะ แต่ถ้าให้แพทย์แนะนำ ควรหลีกเลี่ยงไปก่อนสักประมาณ 24 ชั่วโมง เพราะในช่วงเวลานี้ แผลจากรอยเข็มอาจยังไม่หายดี เมื่อทาลิปสติกเข้าไปแล้ว อาจมีสิ่งปนเปื้อนเข้าไปอุดตันบริเวณที่ฉีดได้ ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดควรทาหลังฉีดไปแล้ว 1 วัน และควรเป็นลิปสติกที่สามารถล้างหรือเช็ดออกได้ง่าย
สรุป
เพิ่มเสน่ห์ให้กับริมฝีปากด้วยการฉีดฟิลเลอร์ปาก เลือกทำได้ทั้งการฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ ปากสายฝอ ปากสายเกาหลี หรือทรงอื่น ๆ ตามเทรนด์ยอดฮิตในช่วงเวลานั้น ๆ หนึ่งในบริการด้านความงามที่ช่วยปรับรูปทรงปากหรือยกมุมปากให้ดูดีขึ้นตามสไตล์ที่ชอบ เป็นนวัตกรรมที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามให้การยอมรับว่าสารเติมเต็มอย่าง hyaluronic Acid มีความปลอดภัย สามารถนำมาฉีดปรับทรงปากและรูปหน้าได้ โดยเมื่อเวลาผ่านไป มันจะสลายตัวได้เองโดยไม่เหลือสารตกค้างไว้ในร่างกาย สำหรับผู้ที่สนใจหรือมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับการฉีด Filler สามารถเข้ามาขอคำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาที่ต้องการแก้ไข หรือส่งรูปมาให้แพทย์ช่วยประเมินรูปปากก่อนได้เลยค่ะ
ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก นพ.วัชพล ธนมิตรามณี (คุณหมอเมฆ)
นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์และหัตถการเสริมความงาม