ฟิลเลอร์จมูก
ฉีดฟิลเลอร์จมูก

เลือกฉีดฟิลเลอร์จมูกที่ไหนดีให้ผลลัพธ์ออกมาดูดีและราคาถูก สำหรับใครที่อยากเสริมจมูกให้โด่งสวยอย่างเป็นธรรมชาติ นวัตกรรมแห่งความงามที่ชื่อ “ฟิลเลอร์จมูก” สามารถตอบโจทย์ให้กับคุณได้เป็นอย่างมาก เนื่องจากการทำ Filler จมูกเป็นการฉีดสารเติมเต็มที่สามารถเข้าไปปรับรูปสันจมูกให้ดูเด่นชัด โด่งขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และยังเห็นผลได้แบบทันที ถ้าอยากรู้ว่าหัตถการนี้มีดีอย่างไรอีกบ้าง เรามาทำความรู้จักไปพร้อม ๆ กันเลยดีกว่าค่ะ

เลือกเนื้อหาที่ต้องการอ่าน

ฟิลเลอร์จมูกคืออะไร

ฟิลเลอร์จมูก คือ วิธีเสริมจมูกให้โด่งสวยอย่างเป็นธรรมชาติด้วยการฉีดสารไฮยาลูรอนิก แอซิด เข้าไปยังบริเวณที่ต้องการปรับแต่ง ตัวอย่างเช่น สันจมูก ปลายจมูก โดยวิธีการฉีดนับเป็นวิธีเสริมจมูกที่ทั้งสะดวกและปลอดภัย เนื่องด้วยสารไฮยาลูรอนิก แอซิดเป็นสารที่สร้างขึ้นเพื่อเลียนแบบสารประกอบคอลลาเจนในร่างกายมนุษย์ สามารถสลายออกจากร่างกายได้อย่างหมดจดเมื่อถึงระยะเวลา จึงไม่ต้องกังวลเรื่องสารตกค้างในภายหลัง ข้อดีของวิธีนี้คือ จะให้ลุคที่เป็นธรรมชาติมาก ทั้งยังไม่ต้องกังวลเรื่องวัสดุที่ใช้เสริมจมูก ไม่เสี่ยงต่อซิลิโคนทะลุ และไม่ทิ้งแผลเป็นหลังทำอีกด้วย

การฉีดฟิลเลอร์จมูก แพทย์จะฉีดสารเติมเต็มเข้าไปบริเวณสันจมูกหรือเนื้อจมูกที่ต้องการปรับแต่ง ขั้นตอนการทำใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที และสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ทันทีตั้งแต่หลังฉีดครั้งแรก

การฉีดฟิลเลอร์จมูกช่วยอะไร

การฉีดฟิลเลอร์จมูกเป็นหัตถการที่จะช่วยปรับรูปทรงจมูกให้โด่งสวยรับกับใบหน้ามากขึ้น ด้วยวิธีที่สะดวกและปลอดภัย โดยการฉีดฟิลเลอร์บริเวณที่จมูกสามารถช่วยปรับรูปทรงให้แลดูเกาหลีขึ้นได้ดังนี้

  • ปรับดั้งจมูกให้โด่งสวยขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
  • ปรับแก้ทรงจมูกที่ไม่ได้สัดส่วน
  • แก้ไขปัญหาจมูกเบี้ยว ไม่สมส่วน
  • ช่วยเสริมโหงวเฮ้งให้แก่ใบหน้า

เปรียบเทียบกับการทำศัลยกรรมจมูก

เชื่อเลยว่าหลายคนคงกำลังลังเลว่าจะฉีดฟิลเลอร์เพื่อเสริมความโด่งสวยให้จมูก หรือจะตัดสินใจผ่าตัดศัลยกรรมไปเลยดี ซึ่งทั้งสองหัตถการนี้ สามารถแยกความต่างได้ดังนี้ค่ะ

การฉีดฟิลเลอร์

อย่างที่กล่าวในข้างต้นว่าเป็นการฉีด HA-Filler เพื่อเสริมให้จมูกดูโด่งสวยขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรม ทั้งยังไม่ต้องพักฟื้น สามารถเห็นผลได้ทันทีหลังฉีด filler จมูก แต่ข้อเสียของมันจะเป็นเรื่องของผลลัพธ์ที่ไม่ถาวร เนื่องจากฟิลเลอร์สามารถสลายออกจากร่างกายได้อย่างหมดจดโดยไม่ทิ้งสารตกค้างไว้

HA-Filler เป็นสารเลียนแบบสารประกอบคอลลาเจนที่มีอยู่แล้วภายในร่างกายมนุษย์ ดังนั้นความปลอดภัยจึงสูงมาก ในทางการแพทย์จึงนิยมเลือกชนิดที่มีความคงตัวสูงมาฉีดตกแต่งจมูกให้ดูโด่งสวยมากขึ้น ซึ่งจุดเด่นของหัตถการ มีดังนี้

  • ผลลัพธ์มีความเป็นธรรมชาติสูง
  • สามารถฉีดเพิ่มหรือฉีดสลายได้ในกรณีที่ต้องการแก้ไขโดยไม่เป็นอันตราย
  • ไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือทิ้งแผลเป็นหลังทำ
  • เจ็บน้อย ไม่ต้องพักฟื้น ไม่จำเป็นต้องดูแลบาดแผลอย่างใกล้ชิด
  • ไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย

การศัลยกรรม

การศัลยกรรมจมูกมีทั้งการศัลยกรรมเสริมซิลิโคน การเสริมด้วยวัสดุจากร่างกายของคนไข้ (เช่น กระดูกหรือกระดูกอ่อน) และการศัลยกรรมตกแต่งจมูก (เช่น ผ่าตัดปีกจมูก) ซึ่งวิธีนี้จำเป็นต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์เป็นหลัก เพราะไม่อย่างนั้นอาจเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้อย่างอาการบวมแดง การอักเสบ การติดเชื้อ

นอกจากนี้ การผ่าตัดยังจำเป็นต้องใช้เวลาในการดูแลตัวเองหลังทำ และจะมีความยุ่งยากในส่วนของการดูแลบาดแผล จึงจำเป็นต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาปลอดภัย เสี่ยงต่อผลข้างเคียงต่าง ๆ น้อยที่สุด โดยสิ่งที่ทำให้การศัลยกรรมจมูกแตกต่างจากการฉีดฟิลเลอร์ดังนี้

  • ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้ถาวร
  • หากต้องการแก้ไข จำเป็นต้องผ่าตัดใหม่เท่านั้น
  • จำเป็นต้องมีเวลาพักฟื้น
  • ในบางกรณีอาจทิ้งรอยแผลเป็นหลังทำ
  • สามารถแก้ไขทรงจมูกได้หลากหลายรูปทรงมากกว่า

ทั้งสองวิธีนี้ไม่มีวิธีไหนดีไปกว่ากันนะคะ เพราะแต่ละวิธีก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันออกไป เราจึงแนะนำให้ประเมินความต้องการและโครงสร้างใบหน้าของตัวเองเป็นหลัก หากใครที่ต้องการเสริมจมูกให้ดูเป็นธรรมชาติ กลัวการผ่าตัด ไม่มีเวลาพักฟื้น การฉีดฟิลเลอร์ก็จะตอบโจทย์มากกว่าค่ะ แต่ถ้าใครอยากได้ผลลัพธ์ถาวร หรือต้องการแก้ไขรูปทรงจมูกค่อนข้างเยอะ การผ่าตัดศัลยกรรมก็จะคุ้มค่ากว่าค่ะ

เปรียบเทียบกับการทำร้อยไหมจมูก

อีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความสนใจในการปรับรูปทรงจมูก นอกจากจะมีการทำศัลยกรรมแล้วก็ยังมีการร้อยไหมด้วย ซึ่งแน่นอนว่ายังมีอีกหลายคนที่ยังไม่ทราบว่า ระหว่างการร้อยไหมจมูกกับการฉีดฟิลเลอร์มีความแตกต่างกันอย่างไร ข้อดีและข้อเสียของทั้งสองหัตถการนี้มีอะไรบ้าง เดี๋ยววันนี้เราจะมาแยกให้ดูค่ะ

การฉีดฟิลเลอร์

  • เป็นการฉีดสารเติมเต็ม HA Filler เพิ่มเสริมให้รูปจมูกดูโด่งขึ้น เป็นทรงหยดน้ำ
  • เห็นผลลัพธ์หลังทำทันที ไม่ต้องพักฟื้น
  • หากต้องการปรับแก้ทรง สามารถทำได้โดยการฉีดสลายบางส่วน หรือฉีดเพิ่มให้ได้ทรงที่ต้องการ
  • มีข้อจำกัดในการยกปลายจมูก ไม่สามารถปรับให้โด่งและชัดได้มากนัก
  • ไม่สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ถาวรเพราะฟิลเลอร์สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและชนิดที่ฉีด

การร้อยไหม

  • เป็นการสอดไหมละลายเข้าไปที่ปลายจมูก เพิ่มปรับให้ปลายดูเชิดขึ้น ช่วยลดขนาดปีกจมูกได้
  • จะเห็นผลอย่างชัดเจนหลังจากที่ไหมเซ็ตตัว
  • ต้องใช้ระยะเวลาในการละลาย ไม่สามารถฉีดสลายได้เหมือนฟิลเลอร์ มีความยุ่งยากในการแก้ไขมากกว่า
  • หากร้อยจำนวนที่เยอะเกินไปอาจเกิดผลข้างเคียง หรือเปิดพังผืดได้
  • เมื่อเวลาผ่านไป ไหมจะเริ่มสลายไปตามธรรมชาติ ไม่สามารถเห็นผลได้แบบถาวร

หากเสริมจมูกแล้ว จะฉีดฟิลเลอร์ได้ไหม

ไม่แนะนำให้ฉีดค่ะ เนื่องจากสารเติมเต็มอย่าง HA Filler เนื้อเจลมีความชุ่มกว่าซิลิโคน ดังนั้นเมื่อฉีดเข้าไปแล้ว อาจทำให้ตัวสารถูกไหลหรือกระจายตัวไปตามแนวของซิลิโคนได้ นอกจากนี้ ยังอาจทำให้เกิดภาวะเนื้อตายบริเวณจมูก ซึ่งเกิดจากการที่ผิวหนังได้รับแรงกดทับเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง หรือทางที่ดีที่สุด แนะนำว่าควรเข้ามาปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ก่อน เพื่อให้แพทย์ได้ประเมินปัญหาอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่งค่ะ

จมูกแบบไหนที่เหมาะกับการฉีด Filler

ลักษณะจมูกที่สามารถฉีดตกแต่งจมูกด้วยฟิลเลอร์ดังนี้

  • จมูกเรียบ แบนราบ ต้องการฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปดั้งและสันจมูกให้สูงขึ้น
  • จมูกโตเป็นลูกชมพู่ สามารถใช้ฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปทรงจมูกให้สมส่วนมากขึ้นได้
  • จมูกที่มีรูปทรงใหญ่เกินไป
  • จมูกเบี้ยวผิดรูป สามารถใช้ฟิลเลอร์เติมเต็มเนื้อเยื่อบริเวณจมูกที่ขาดหายไปได้
  • จมูกที่ไม่สมส่วนจากการศัลยกรรมอย่างการที่ปีกจมูกเบี้ยว ปลายจมูกแหลมหรืองุ้มมากเกินไป
  • จมูกที่มีฮัมพ์ หรือกระดูกอูฐ ทำให้สันจมูกดูไม่เรียบเนียน สามารถฉีดฟิลเลอร์เพื่อแต่งสันจมูกให้เนียนสวยได้
  • ปลายจมูกไม่เป็นทรงสวย ต้องการปั้นปลายจมูกให้ได้ทรงสวยมากขึ้น
  • สัดส่วนจมูกไม่สมส่วน สามารถใช้ฟิลเลอร์ฉีดเติมในส่วนที่ขาดเพื่อความสมดุลมากขึ้น

โดยทั่วไปการฉีดฟิลเลอร์เหมาะสำหรับลักษณะจมูกที่มีโครงสร้างเดิมที่ดูดีอยู่แล้ว แต่ต้องฉีดเสริมเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อให้ดูดียิ่งขึ้น อาทิเช่น ฉีดเพิ่มความโด่งของสัน หรือฉีดฟิลเลอร์ตกแต่งรูปทรงปลายจมูก นั่นจึงหมายความว่า ฟิลเลอร์ไม่สามารถแก้ปัญหาเคสที่จมูกเบี้ยวมาก ๆ และไม่สามารถเสริมจมูกให้โด่งมาก ๆ ได้เท่ากับการเสริมซิลิโคนค่ะ

ใครที่เหมาะกับการฉีด

สำหรับผู้ที่สนใจอยากฉีดสารเติมเต็มฟิลเลอร์เพื่อปรับแต่งรูปทรงจมูก สามารถพิจารณาเบื้องต้นได้ดังนี้ค่ะ

  • ผู้ที่ต้องการเสริมจมูกให้โด่งขึ้นจากเดิมเพียงเล็กน้อย
  • ผู้ที่พอมีโครงสร้างจมูกเดิมอยู่บ้าง เพียงแค่ต้องการเพิ่มความสูงของสัน หรือฉีดตกแต่งเนื้อปลายจมูกให้เป็นทรงสวยขึ้น
  • ผู้ที่มีฮัมพ์จมูก และต้องการฉีดฟิลเลอร์เพื่อปกปิดบริเวณนี้ให้สันจมูกดูเนียนสวย
  • ผู้ที่ต้องการเพิ่มปลายจมูกให้ดูมีเนื้อ ช่วยขับให้ใบหน้าดูละมุนมากขึ้น
  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ให้ดูเป็นธรรมชาติ
  • ผู้ที่อยากลองฉีดเสริมจมูกก่อนไปผ่าตัดศัลยกรรม เพราะคนไข้บางคนก็อยากรู้ว่าหากเสริมจมูกแล้วผลลัพธ์จะออกมาเข้ากับรูปหน้าไหม จึงนิยมลองฉีดฟิลเลอร์เสริมดูก่อน แต่หากฉีดแล้วต้องการไปศัลยกรรม แนะนำว่าควรรอให้ฟิลเลอร์สลายจนหมดก่อน หรือไม่ก็ฉีดสลายฟิลเลอร์ก่อนนะคะ เพราะไม่อย่างนั้นอาจเกิดปัญหาซิลิโคนไม่ยึดติดกับเนื้อเยื่อได้ค่ะ
  • ผู้ที่อยากเสริมจมูกโดยไม่อยากผ่าตัดศัลยกรรม
  • ผู้ที่ไม่มีเวลาพักฟื้น ไม่มีเวลาดูแลบาดแผลหลังทำ

การฉีดเติมฟิลเลอร์ปลายจมูก

การเติมฟิลเลอร์ที่บริเวณปลายจมูก เป็นการฉีดสารเติมเต็มเพื่อเพิ่มความยาวของจมูกให้ดูเป็นทรงโด่งมากยิ่งขึ้น หรือบางคนต้องการให้ปลายจมูกเป็นรูปทรงหยดน้ำ แต่ไม่ต้องการผ่าตัดก็สามารถฉีดสารเติมเต็มเข้าไปได้ โดยการรักษาจะเป็นการอิงจากฐานจมูกเดิมของคนไข้แต่ละคน เพื่อให้ได้ปลายที่ดูเชิดสวยเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเติมแต่งปลายเพียงเล็กน้อย ไม่ต้องการให้มันพุ่งแหลมมากจนเกินไปค่ะ

เลือกฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดีที่เหมาะสมในการฉีดจมูก

เลือกฉีดฟิลเลอร์จมูก ยี่ห้อไหนดี โดยควรเลือกฟิลเลอร์รุ่นที่เนื้อมีความแข็ง มีความคงตัวสูงเพื่อให้สามารถปั้นทรงจมูกได้สวย ไม่ไหลเป็นก้อน โดยยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมสำหรับฉีดจมูก และเป็นยี่ห้อที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก Thai FDA ได้แก่

Restylane

Restylane

เป็นยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เริ่มผลิตมาได้ยาวนานที่สุดในโลก ผลิตโดยบริษัท Q-MED AB จากประเทศสวีเดน และนำเข้าประเทศไทยโดยบริษัท Galderma ฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้ จึงโดดเด่นในเรื่องของโมเลกุลที่มีการผลิตเพื่อปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางโมเลกุลน้อยที่สุด จึงมีความใกล้เคียงกับสารไฮยาลูรอนิก แอซิดในร่างกายมนุษย์มาก สามารถลดโอกาสเกิดอาการแพ้หลังฉีดได้

ตัวอย่างฟิลเลอร์รุ่นที่นิยมนำมาฉีดจมูกจะเป็นรุ่น Restylane-Perlane-Lyft โดยจุดเด่นของรุ่นนี้ เป็นเจลเนื้อแข็งที่มีความคงตัวสูง ไม่ฟู และสามารถคงรูปได้ดีที่สุด ทำให้สามารถปั้นทรงจมูกได้สวย โดยผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน

Juvederm

Juvederm

เป็นยี่ห้อฟิลเลอร์จากอเมริกา นำเข้าโดยบริษัท Allergan จุดเด่นของฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้จะเป็นฟิลเลอร์คุณภาพสูง เนื่องจากเนื้อฟิลเลอร์ที่ถูกออกแบบมาให้มีความยืดหยุ่น ส่งผลให้ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานมากยิ่งขึ้น

ตัวอย่างฟิลเลอร์รุ่นที่นิยมนำมาฉีดจมูกจะเป็นรุ่น Juvederm-ULTRA XC รุ่นนี้จะเป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่มที่สามารถใช้ฉีดตกแต่งปลายจมูกให้โด่งสวยขึ้นได้ โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน

Yvoire

Yvoire

เป็นยี่ห้อฟิลเลอร์ที่พัฒนาโดยบริษัท LG Chem จากประเทศเกาหลีใต้ โดดเด่นเรื่องเนื้อฟิลเลอร์ที่มีความฉีดง่าย ไม่ไหล ไม่เป็นก้อน เพราะผลิตด้วยเทคโนโลยี HICE Cross-Link อันเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะจากห้องวิจัยของบริษัท

ตัวอย่างฟิลเลอร์รุ่นที่นิยมนำมาฉีดจมูกจะเป็นรุ่น YVOIRE-Volume-Plus รุ่นนี้มีคุณสมบัติเด่นที่สามารถขึ้นรูปได้ดี ไม่ไหล ไม่เป็นก้อน ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานประมาณ 9-12 เดือน

ข้อดี-ข้อเสียของการฉีด Filler จมูก

หากใครกำลังพิจารณาว่าการฉีด filler จมูกจะคุ้มไหม ลองพิจารณาดูจากข้อดีและข้อเสียเหล่านี้ แล้วลองเปรียบเทียบดูนะคะ

ข้อดี

  • สามารถเสริมทรงจมูกให้ออกมาดูเป็นธรรมชาติ รับกับรูปหน้ามากขึ้น
  • เป็นวิธีเสริมจมูกที่สะดวก ไม่ต้องเตรียมตัวยุ่งยาก ไม่จำเป็นต้องงดน้ำหรืออาหาร
  • ใช้เวลาในการทำหัตถการไม่นาน ขั้นตอนไม่ซับซ้อน
  • ไม่ต้องกลัวเจ็บ เนื่องจากแพทย์จะแปะยาชาก่อนฉีดเสมอ
  • ไม่จำเป็นต้องพักฟื้นหลังทำ ฉีดเสร็จแล้วสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
  • เห็นความเปลี่ยนแปลงทันทีหลังฉีด
  • สามารถเลือกทรงจมูกได้ตามที่ต้องการ
  • สามารถเสริมโหงวเฮ้งให้แก่ใบหน้าได้
  • เป็นวิธีที่มีความปลอดภัยสูง ไม่มีผลข้างเคียงร้ายแรง ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย
  • เป็นวิธีที่ยืดหยุ่น สามารถฉีดเสริมหรือฉีดสลายได้โดยไม่เป็นอันตราย

ข้อเสีย

  • ผลลัพธ์ไม่ถาวร แต่สามารถฉีดเติมได้เรื่อย ๆ เพื่อคงผลลัพธ์ไว้โดยไม่เป็นอันตราย
  • ไม่สามารถเสริมจมูกได้สูงเท่าการเสริมซิลิโคน

เลือกทำหัตถการฉีดฟิลเลอร์จมูกที่ไหนดี

เลือกฉีดฟิลเลอร์จมูก ที่ไหนดีที่ให้ผลลัพธ์ออกมาดูดี ปลอดภัย และคุ้มค่ากับราคาการทำจมูกมากที่สุด เทคนิคง่าย ๆ เลยในการพิจารณามีเกณฑ์ดังนี้

  • คลินิกได้มาตรฐานหรือไม่ : การใช้บริการกับคลินิกที่มีใบอนุญาตถูกต้องนับว่าเป็นสิ่งสำคัญมาก ซึ่งสิ่งที่จะช่วยตรวจสอบได้ก็คือ เลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก อันหมายถึงคลินิกนั้น ๆ เป็นคลินิกที่จดทะเบียนถูกต้อง นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจสอบรายชื่อคลินิกที่ผ่านการรับรองมาตรฐานได้จากเว็บไซต์ของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หากค้นแล้วเจอชื่อคลินิกก็หมายถึงคลินิกที่เราสนใจได้ผ่านการจดทะเบียนถูกต้องแล้วนั่นเองค่ะ
  • สภาพแวดล้อมของคลินิกน่าไว้วางใจไหม : ความสะอาดถือเป็นสิ่งสำคัญ รวมถึงการจัดเก็บเครื่องมือและอุปกรณ์ทุกชิ้นต้องเป็นไปตามหลักสุขอนามัย นอกจากนี้ คลินิกควรมีป้ายชื่อแสดงชัดเจน มีห้องทำหัตถการแยกเป็นสัดส่วน
  • อย่าลืมตรวจสอบแพทย์ผู้ทำหัตถการ : ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของแพทย์ล้วนสำคัญมาก เพราะมีผลต่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่จะออกมาโดยตรง ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์บริเวณจมูกจำเป็นอย่างมากที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของแพทย์ เนื่องจากเป็นบริเวณที่ใกล้เคียงกับเส้นเลือดสำคัญ ดังนั้นควรเลือกใช้บริการกับแพทย์ผิวหนังที่มีความแม่นยำเรื่องกายวิภาคบนใบหน้าเป็นอย่างดี นอกจากนี้ต้องอย่าลืมตรวจสอบใบประกอบวิชาชีพแพทย์ เพื่อป้องกันการสวมรอยหรือเจอหมอเถื่อนได้นะคะ
  • ศึกษารีวิวก่อนเสมอ : สิ่งที่ควรทำก่อนตัดสินใจเลือกคลินิกจะเป็นเรื่องของการส่องรีวิวฉีด filler จมูกของคลินิกนั้น ๆ ดูว่าผลลัพธ์หลังทำออกมาดูดี ตรงใจเราหรือไม่ โดยควรเลือกศึกษาจากเคสที่มีปัญหาใกล้เคียงกับเรา และควรศึกษาให้ครบทั้งแบบรูปภาพ วิดีโอ และไลฟ์สดค่ะ
  • มีบุคลากรมืออาชีพคอยให้บริการ : บุคลากรของคลินิกก็สำคัญไม่แพ้กัน พนักงานจำเป็นต้องให้การต้อนรับอย่างเป็นมิตร พร้อมให้คำแนะนำทุกข้อซักถาม และบริการคนไข้ทุกท่านอย่างมืออาชีพ

ฉีดฟิลเลอร์จมูกราคาเท่าไหร่

การฉีดฟิลเลอร์จมูก ราคาเท่าไหร่ ต้องขออธิบายก่อนว่าหัตถการฉีดฟิลเลอร์บริเวณจมูก ราคาค่าบริการจะแตกต่างออกไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับชนิดของสารเติมเต็มที่เลือกใช้ ปริมาณที่ใช้ และโครงสร้างจมูกเดิมของคนไข้

ในปัจจุบันฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก อย. ว่าปลอดภัยมีอยู่หลายยี่ห้อ หลายรุ่นด้วยกัน ซึ่งแต่ละรุ่นก็ถูกผลิตมาเพื่อตอบโจทย์ปัญหาที่แตกต่างกัน ดังนั้นก่อนตัดสินใจจึงควรฟังคำแนะนำจากแพทย์ว่าควรเลือกใช้สารเติมเต็มรุ่นไหน และควรใช้ปริมาณกี่ cc (ราคาฟิลเลอร์สำหรับการฉีดจมูกในแต่ละรุ่นจะแตกต่างกันออกไป) และถ้าฉีดด้วยปริมาณ cc เยอะขึ้น ราคาก็จะสูงขึ้นเช่นกัน (เนื่องจากฟิลเลอร์จะคิดราคาตามปริมาณ cc ที่ใช้) สำหรับคนไข้ที่มีโครงสร้างจมูกเดิมดีอยู่แล้ว เพียงต้องการปรับแต่งเล็กน้อยให้ดูดีขึ้นก็จะใช้ปริมาณ cc น้อยกว่าคนที่มีฐานจมูกเดิมน้อย ทำให้ราคาถูกกว่านั่นเอง

ทั้งนี้ หากใครอยากทราบราคาในการทำที่แน่นอน ก็สามารถเข้ามาปรึกษาคุณหมอที่คลินิกได้โดยตรงเลยนะคะ ที่ด็อกเตอร์เมฆคลินิกของเรามีบริการให้คำปรึกษาฟรีจากทีมแพทย์ โดยคุณหมอจะช่วยประเมินโครงสร้างใบหน้าและแนะนำชนิดสารเติมเต็ม รวมถึงปริมาณที่ควรใช้แบบรายบุคคลเพื่อเป็นการประเมินการฉีด filler จมูก ราคาเริ่มต้น ซึ่งนอกจากขั้นตอนนี้จะไม่มีค่าใช้จ่ายแล้ว คนไข้ยังสามารถเก็บไปตัดสินใจต่อที่บ้านได้ด้วยค่ะ ไม่จำเป็นต้องปรึกษาแล้วตัดสินใจทำเลย

โปรโมชั่น Profhilo
โปรโมชั่น ลบลิ้วรอย ใต้ตา ทางตา
โปรโมชั่น ล็อคหน้าเรียว
โปรโมชั่น กรอบหน้าชัด
โปรโมชั่น บูสต์ผิวฉ่ำ

เปรียบเทียบก่อนและหลังฉีด Filler จมูก

ภาพก่อนฉีด filler จมูกจะเห็นได้ว่าจมูกของคนไข้ไม่ได้มีความโด่งมากนัก ในขณะที่หลังทำ ความโด่งของจมูกกลับชัดเจนขึ้นมา ทั้งยังมีรูปทรงสวยรับกับรูปหน้ามากขึ้น

รีวิวจากผู้เข้ารับบริการจริง

ภาพส่วนหนึ่งของหัตถการฉีดฟิลเลอร์จมูก รีวิวจากคนไข้จริงที่เข้ามาใช้บริการ โดยเสียงตอบรับส่วนใหญ่ล้วนเป็นไปในทิศทางที่ว่าพึงพอใจกับผลลัพธ์มาก ทำออกมาแล้วจมูกดูโด่งสวย เป็นธรรมชาติ ต้องขอบคุณทุกท่านที่ไว้วางใจให้ด็อกเตอร์เมฆคลินิกช่วยดูแลด้วยนะคะ ดูรีวิวจากคนไข้จริงที่นี่

การฉีดฟิลเลอร์ที่จมูกจะเป็นอันตรายไหม

โดยปกติแล้ว การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่ได้รับการยอมรับจากแพทย์ทั่วโลกว่ามีความปลอดภัย เนื่องจากตัวยาที่ใช้ฉีดได้ผ่านการรับรองมาตรฐานอย่างเป็นสากลว่าปราศจากผลข้างเคียงที่ร้ายแรง แต่ถ้าหากจะถามว่าฉีดฟิลเลอร์จมูก อันตรายไหม ก็ย่อมขึ้นอยู่กับว่าฉีดกับใคร ฉีดที่ไหน และใช้อะไรฉีด ถ้าหากเรามั่นใจว่าฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ที่มีประสบการณ์สูง ใช้บริการกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน และใช้ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ของแท้ การฉีดฟิลเลอร์บริเวณจมูกก็จะไม่เป็นอันตรายค่ะ

ข้อควรระวัง

ฟิลเลอร์ที่ฉีดบริเวณจมูกจำเป็นต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของแพทย์อย่างมาก และต้องมั่นใจว่าเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของแท้ที่สามารถสลายได้เอง เนื่องจากด้านข้างของสันจมูกมีเส้นเลือดสำคัญที่ชื่อว่า Dorsal Nasal Artery ที่เชื่อมกับลูกตา หากแพทย์ขาดความรู้ความชำนาญก็อาจเสี่ยงฉีดพลาดจนทำให้ตาบอดได้ ดังนั้นการพิจารณาเลือกสถานพยาบาล เลือกแพทย์ เลือกผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจึงสำคัญมาก เพื่อลดความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นนะคะ

การฉีด Filler จมูกจะต้องใช้กี่ cc ถึงจะเห็นผล

ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดบริเวณจมูก โดยทั่วไปไม่ควรใช้เกิน 1 cc เพราะฟิลเลอร์ไม่สามารถเสริมจมูกให้โด่งขึ้นจากเดิมได้มากนัก หากต้องการฉีดมากกว่านี้ แพทย์อาจจะแนะนำให้ทำศัลยกรรมเสริมจมูกแทน เนื่องจากซิลิโคนสามารถเสริมให้จมูกโด่งขึ้นจากเดิมได้มากกว่า จึงน่าจะตอบโจทย์ความต้องการของคนไข้ได้มากกว่าการฉีดฟิลเลอร์

ส่วนสาเหตุที่ใช้ฟิลเลอร์เพียง 1 cc ก็สามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน นั่นเพราะการฉีดสารฟิลเลอร์ที่จมูกจะเหมาะสำหรับผู้ที่มีฐานหรือโครงสร้างจมูกเดิมดีอยู่แล้ว ฟิลเลอร์จะทำหน้าที่เพียงปั้นทรงจมูกให้สวยขึ้นหรือเสริมให้โด่งขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนถ้าใครมีปัญหาเนื้อจมูกน้อย แพทย์ก็จะไม่แนะนำให้ฉีดสารฟิลเลอร์ที่จมูกเช่นกัน เพราะหากต้องฉีดมากกว่า 1 cc การศัลยกรรมจะเหมาะสมกว่าค่ะ

การเตรียมตัวก่อนการฉีด Filler จมูก

หลังศึกษาข้อมูลอย่างถี่ถ้วนดีแล้ว ขั้นตอนต่อไปก่อนพบแพทย์เพื่อฉีดฟิลเลอร์ที่บริเวณจมูก ควรปฏิบัติตัวตามนี้ค่ะ

  • งดรับประทานยาแก้ปวด ยาแอสไพริน และยากลุ่มต้านการอักเสบ NSAIDS ได้แก่ Ibruprofen, Naproxen อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการฉีด เพื่อป้องการอาการฟกช้ำหลังทำ
  • งดรับประทานวิตามินและอาหารเสริมบางชนิดอย่างเช่น วิตามินอี น้ำมันปลา น้ำมันอิฟนิ่งพริมโรส สารสกัดจากโสม ขิง กระเทียม ใบแปะก๊วย เป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพราะจะมีผลให้เลือดหยุดไหลยาก แม้การฉีดฟิลเลอร์จะมีเพียงรอยเข็มเล็ก ๆ แต่ก็ควรป้องกันไว้ก่อนค่ะ
  • งดทายาผลัดเซลล์ผิวหรือแว็กซ์ขนบริเวณที่จะฉีดเป็นเวลา 1 สัปดาห์
  • งดเลเซอร์ใบหน้าก่อนฉีดฟิลเลอร์เป็นเวลา 3 วัน
  • ควรงดดื่มแอลกอฮอล์และกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด อย่างกิจกรรมการคาร์ดิโอ การอบซาวน่า ในช่วง 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด

ขั้นตอนการฉีด Filler จมูก

ขั้นตอนการฉีด filler จมูก เริ่มแรกจะเริ่มจากการปรึกษาแพทย์เพื่อให้แพทย์ช่วยวิเคราะห์โครงสร้างใบหน้า ประเมินปัญหา และแนะนำชนิดสารเติมเต็มที่เหมาะสม หลังจากคนไข้ตกลงทำแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะเป็นดังนี้

  • ผู้ช่วยแพทย์ช่วยทำความสะอาดใบหน้า รวมถึงลบเครื่องสำอาง
  • แปะยาชาทิ้งไว้ประมาณ 30-40 นาที
  • เมื่อยาชาออกฤทธิ์ แพทย์จะเริ่มฉีดฟิลเลอร์โดยใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที
  • แพทย์แนะนำวิธีดูแลตัวเองหลังฉีดสารฟิลเลอร์ที่ตำแหน่งจมูก

ข้อปฏิบัติหรือข้อควรระวังหลังฉีด

หลังฉีดแล้ว จำเป็นต้องดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อให้ผลลัพธ์เข้าที่ได้เร็วขึ้น ทั้งยังมีผลให้ฟิลเลอร์คงสภาพได้นานขึ้นเช่นกัน ซึ่งวิธีดูแลตัวเองก็ไม่ยุ่งยากเลยค่ะ สามารถปฏิบัติได้ดังนี้

  • ห้ามแกะ เกา นวด ขยี้ หรือสัมผัสบริเวณที่ฉีดแรง ๆ
  • ควรเลี่ยงการทาครีมบริเวณรอยเข็ม 1 คืน
  • ช่วง 3-4 ชั่วโมงแรก ไม่ควรนอนราบ
  • หลีกเลี่ยงการนอนตะแคง โดยควรนอนให้หัวสูงกว่าหน้าอกในช่วง 2-3 คืนแรก เพื่อป้องกันการกดทับใบหน้า
  • ไม่ควรให้ใบหน้าโดนความร้อน ทั้งความร้อนจากแสงแดดหรือความร้อนจากปัจจัยรอบข้างอื่น ๆ เพราะความร้อนจะมีผลให้ผิวยืดหดกว่าปกติ ส่งผลให้ฟิลเลอร์เซ็ตตัวได้ไม่เต็มที่ อีกทั้งความร้อนยังทำให้เลือดสูบฉีดมาบริเวณใบหน้ามากขึ้น จนทำให้จมูกยุบบวมได้ช้าลง
  • สามารถอยู่ในที่อากาศเย็น ๆ ได้ เพราะจะช่วยให้ใบหน้ายุบบวมเร็วขึ้น
  • งดเลเซอร์ร้อนลงผิวชั้นลึกทุกชนิดบริเวณใบหน้า รวมถึงงดการทำทรีตเมนต์บริเวณใบหน้าช่วง 14 วันแรกหลังฉีด
  • งดใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนบริเวณจมูกหลังทำเสร็จในช่วงแรก
  • ควรดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย (วันละ 8-10 แก้ว) เนื่องจากฟิลเลอร์เป็นสารอุ้มน้ำ การดื่มน้ำจึงช่วยให้ฟิลเลอร์เซ็ตตัวได้เร็วขึ้น และทำให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานขึ้นอีกด้วย

ผลข้างเคียงหลังฉีด Filler จมูก

สำหรับผลข้างเคียงหลังฉีด filler จมูก คนไข้บางรายอาจมีอาการบวมเข็ม ทำให้เวลาคลำจมูกแล้วเจอก้อนฟิลเลอร์ในช่วงแรก แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะก้อนนี้จะค่อย ๆ ยุบลงได้เอง ใช้เวลาประมาณ 7-14 วัน หรือหากใครมีอาการปวดระบมบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ ก็สามารถรับประทานทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้ โดยรวมแล้วผลข้างเคียงจากการฉีดสารฟิลเลอร์ที่จมูกจะเป็นเพียงอาการเล็ก ๆ น้อย ๆ สามารถหายได้เอง

แต่ถ้าใครเกิดอาการบวมแดงมากผิดปกติหลังทำ สีผิวบริเวณที่ฉีดเปลี่ยนไปเป็นสีน้ำตาลหรือดำ แนะนำให้รีบเข้าพบแพทย์ทันที เพราะอาจเกิดการติดเชื้อได้ แต่ผลข้างเคียงแบบนี้จะเกิดขึ้นได้น้อยมาก ยกเว้นในกรณีใช้บริการกับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน อุปกรณ์ไม่สะอาด ยาไม่มีประสิทธิภาพ หรือเลือกทำหัตถการกับแพทย์ที่ขาดความชำนาญค่ะ

คำถามเกี่ยวที่พบบ่อย

นอกจากข้อควรรู้เบื้องต้นก่อนฉีดเหล่านี้ เราก็ยังได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยสำหรับผู้สนใจเข้ารับบริการมาให้ได้อ่านกันด้านล่างนี้

ก่อนฉีดฟิลเลอร์จมูก แพทย์จะแปะยาชาบริเวณที่จะฉีดก่อนเสมอค่ะ ทำให้ขณะฉีดแทบไม่รู้สึกเจ็บเลย หรือบางคนที่ผิวอ่อนไหวมาก ๆ ก็อาจจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยตอนเข็มจิ้มลงบนผิวค่ะ แต่ทั้งนี้ ฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดจมูกหลายรุ่นมีการผสมยาชาในตัวอยู่แล้ว คนไข้ส่วนใหญ่จึงบอกว่าแทบไม่รู้สึกถึงความเจ็บเลยค่ะ

หลังฉีดฟิลเลอร์จมูก ผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้นานประมาณ 1 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของสารเติมเต็มที่เลือกใช้และการดูแลตัวเองหลังทำ โดยสาเหตุที่ฟิลเลอร์ไม่ใช่หัตถการที่ให้ผลลัพธ์ถาวร นั่นเพราะสารไฮยาลูรอนิก แอซิด สามารถสลายออกจากร่างกายได้เองตามกระบวนการดูดซึมของร่างกาย (ด้วยเหตุนี้ HA-Filler จึงมีความปลอดภัยสูงมาก) แต่ถ้าใครอยากคงผลลัพธ์ให้อยู่ได้นาน ๆ ก็สามารถฉีดเติมได้เรื่อย ๆ โดยไม่เป็นอันตรายค่ะ

จุดเด่นของการฉีดฟิลเลอร์จมูกจะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีค่ะ โดยแพทย์จะใช้เวลาฉีดประมาณ 10-30 นาที หลังจากนั้นเราจะเห็นได้เลยว่าจมูกได้สัดส่วนขึ้น ดูโด่งสวย มีมิติมากกว่าเก่า แต่ผลลัพธ์ที่เห็นนี้จะเป็นผลลัพธ์เพียง 70-80 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นนะคะ ต้องรอให้ฟิลเลอร์เข้าที่ดีก่อนถึงจะเห็นผลอย่างชัดเจนที่สุด

หลังฉีดฟิลเลอร์จมูกสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำ และจะเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนที่สุดในช่วง 2-3 สัปดาห์หลังทำ เนื่องจากเนื้อฟิลเลอร์จะเริ่มเข้าที่ และกล้ามเนื้อบริเวณจมูกจะหายบวมจนเป็นปกติดีแล้ว

หลังฉีดฟิลเลอร์จมูกอาจมีอาการบวมได้เป็นปกติ โดยเฉพาะในช่วง 24 ชั่วโมงแรก โดยอาการบวมนี้เรียกว่าอาการบวมเข็มที่สามารถยุบหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์ค่ะ

หลังฉีดฟิลเลอร์จมูก แม้จะเห็นผลลัพธ์ได้ทันที แต่นั่นก็ยังไม่ใช่ผลลัพธ์แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ เนื่องจากต้องรอให้เนื้อฟิลเลอร์เซ็ตตัวกลืนกับเนื้อเยื่อก่อน รวมถึงรอให้อาการบวมยุบลงจนเป็นปกติ ดังนั้น หลังฉีดจะใช้เวลาเข้าที่ประมาณ 2-3 สัปดาห์ค่ะ

หากใครที่พื้นฐานเป็นคนมีโครงจมูกอยู่แล้ว แต่ต้องการปรับแต่งให้สันคมชัดมากขึ้น ดั้งโด่งมากขึ้น หรือต้องการปรับแต่งปลายจมูกให้ได้ทรงสวยมากขึ้น การฉีดฟิลเลอร์จมูกก็เป็นวิธีที่สามารถตอบโจทย์เงื่อนไขเหล่านี้ได้ และที่สำคัญยังเป็นวิธีปรับรูปทรงจมูกที่เห็นผลทันที ไม่ต้องพักฟื้น และมีความปลอดภัยสูงอีกด้วยค่ะ

หลังฉีดฟิลเลอร์จมูก แนะนำให้หลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้ประมาณ 3-14 วัน เพื่อป้องกันอาการยุบบวมช้าหรือรอยเข็มติดเชื้อ ได้แก่

  • อาหารหมักดอง
  • อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ
  • อาหารรสจัด โดยเฉพาะรสเผ็ดจัดและเค็มจัด
  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงควรงดสูบบุหรี่
  • อาหารที่ต้องอยู่หน้าเตาร้อน ๆ เช่น ชาบู หมูกระทะ จิ้มจุ่ม รวมถึงการประกอบอาหารหน้าเตาร้อน ๆ ด้วย

หลังฉีดจมูก หากใครต้องการเสริมซิลิโคนในภายหลังก็สามารถทำได้ค่ะ เพียงแต่ต้องรอให้ฟิลเลอร์สลายจนหมดก่อน (ระยะเวลาประมาณ 1 ปี แตกต่างออกไปตามปัจจัยส่วนบุคคล) เพราะหากไม่รอฟิลเลอร์สลาย ก็อาจพบปัญหาซิลิโคนไม่ยึดติดกับเนื้อเยื่อจมูกได้ค่ะ แต่ทั้งนี้ หากใครรอไม่ไหวก็สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์เพื่อให้สลายเร็วขึ้นได้ แต่จะได้ผลเฉพาะผู้ที่ฉีด HA-Filler ของแท้เท่านั้นนะคะ

แต่ในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์ปลอม เช่น สารซิลิโคนเหลว หรือพาราฟิน สารเหล่านี้จะไม่สามารถสลายได้เอง จำเป็นต้องผ่าตัดขูดฟิลเลอร์ออกเท่านั้น อีกทั้งยังไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะขูดออกได้หมดร้อยเปอร์เซ็นต์อีกด้วย

จมูกเป็นอวัยวะที่มีเส้นเลือดอยู่เยอะมาก ทั้งยังใกล้เคียงกับเส้นเลือดสำคัญที่เชื่อมต่อกับลูกตา ดังนั้น หากฉีดกับแพทย์ที่ขาดความเชี่ยวชาญหรือใช้ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ของปลอมที่ไม่สามารถสลายได้เอง ก็อาจเสี่ยงต่อการฉีดแล้วอุดตันเส้นเลือดจนทำให้ตาบอดได้ ซึ่งอาการตาบอดจะเกิดขึ้นในทันทีหลังฉีด หรือในบางรายที่ไม่ได้เกิดอาการตาบอดก็อาจจะพบกับผลข้างเคียงอื่น ๆ เช่น อักเสบ ติดเชื้อ เนื้อตาย เป็นต้น

แต่ทั้งนี้ เคสฉีดฟิลเลอร์จมูกแล้วตาบอดเรียกได้ว่ามีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก และมักเป็นปัญหาจากการฉีดกับแพทย์ที่ขาดความเชี่ยวชาญเท่านั้น ดังนั้นหากมั่นใจว่าเลือกใช้บริการกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน รักษากับแพทย์ที่มีประสบการณ์ และใช้ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ของแท้ ความเสี่ยงเหล่านี้ก็จะหมดไปค่ะ

หลังฉีดควรหลีกเลี่ยงการนอนตะแคงในช่วง 2-3 คืนแรก และควรนอนให้หัวสูงกว่าหน้าอกเพื่อป้องกันการกดทับใบหน้าจนเกิดปัญหาฟิลเลอร์เคลื่อนผิดรูปได้

ควรระมัดระวังในช่วงสัปดาห์แรก เพราะแป้นจมูกของแว่นอาจกดทับบริเวณสันจมูกได้

หลังฉีดฟิลเลอร์แนะนำให้เว้นการแต่งหน้าในช่วง 24 ชั่วโมงแรกไปก่อน แต่ถ้าจำเป็นจริง ๆ ก็สามารถฉีดได้ค่ะ เพียงแค่ควรละบริเวณรอยเข็มและควรระวังไม่ให้สัมผัสผิวบริเวณที่ฉีดรุนแรง แต่ทั้งนี้ หากใครมีเหตุจำเป็นก็สามารถทำได้นะคะ แต่แนะนำให้รีบล้างหน้าให้สะอาดทันทีหลังเสร็จธุระค่ะ

ควรละเว้นการทาครีมบริเวณรอยเข็มในช่วง 24 ชั่วโมงแรก เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และหลังจากนั้นสามารถทาครีมได้ปกติ แต่ควรระวังไม่ให้กดนวดหรือถูบริเวณจมูกแรงเกินไป เนื่องจากจะมีผลให้เนื้อฟิลเลอร์เคลื่อนออกจากตำแหน่งฉีดได้

หลังฉีดฟิลเลอร์จมูก หากต้องการแก้ไขด้วยการฉีดเพิ่มหรือฉีดสลายก็สามารถทำได้ค่ะ แต่มีข้อแม้ว่าต้องเป็นการฉีดด้วย HA-Filler ที่ได้มาตรฐานเท่านั้น โดยหลังฉีด หากจมูกเข้าที่เรียบร้อยแล้ว แต่เรารู้สึกอยากฉีดเพิ่มให้ผลลัพธ์ชัดเจนขึ้นอีกนิดก็สามารถเข้าพบแพทย์เพื่อให้ช่วยประเมินได้ค่ะว่าจะสามารถฉีดเพิ่มเติมได้ไหม หรือถ้าใครต้องการแก้ไขด้วยการฉีดสลายก็สามารถพบแพทย์เพื่อขอฉีดสลายฟิลเลอร์ได้เช่นกันค่ะ โดยการฉีดสลายจะออกฤทธิ์ทันทีหลังฉีด สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ภายใน 2-3 วัน โดยหลังทำอาจมีอาการบวมเข็มเล็กน้อย แต่สามารถหายได้เองใน 7 วันค่ะ

กรณีฉีดฟิลเลอร์จมูกแล้วเกิดปัญหาฟิลเลอร์ไหลย้อย ไม่เป็นสัน สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่

  • ฉีดโดยฟิลเลอร์ปลอม : ฟิลเลอร์แท้ต้องเป็นฟิลเลอร์ประเภทไฮยาลูรอนิก แอซิดเท่านั้น หากให้ฟิลเลอร์ชนิดอื่นจะไม่สามารถปั้นสันจมูกให้คมขึ้นได้ อีกทั้งเมื่อเวลาผ่านไปก็จะเริ่มมีปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อน บวม แข็ง จนต้องผ่าตัดขูดออก เนื่องจากฟิลเลอร์ปลอมไม่สามารถสลายออกจากร่างกายได้เอง
  • เลือกใช้ฟิลเลอร์รุ่นที่ไม่เหมาะสม : แม้จะฉีดจมูกด้วยฟิลเลอร์แท้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปิดตาจิ้มรุ่นไหนมาฉีดก็ได้นะคะ เนื่องจากฟิลเลอร์แต่ละรุ่นจะมีคุณสมบัติทางเคมีต่างกัน เพราะถูกผลิตขึ้นมาเพื่อใช้ในวัตถุประสงค์ต่างกัน ดังนั้นจึงควรเลือกฉีดด้วยรุ่นที่เหมาะสมกับสภาพผิวและสภาพปัญหาของเรา เช่น ฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการฉีดจมูกต้องมีความคงตัวสูง ฉีดแล้วไม่ไหล ไม่บานออก และสามารถขึ้นรูปเป็นสันสวยได้ค่ะ
  • เทคนิคการฉีดของแพทย์ : หนึ่งในสามปัจจัยสำคัญ นอกจากการเลือกคลินิก เลือกฟิลเลอร์แล้ว การเลือกแพทย์ก็ต้องพิถีพิถันไม่ต่างกัน เพราะหากแพทย์ฉีดด้วยเทคนิคที่ไม่เหมาะสมก็อาจทำให้ฟิลเลอร์กระจายตัวออกด้านข้าง จนเกิดปัญหาฟิลเลอร์ไม่เป็นทรงสวย จมูกไม่เป็นสันอย่างที่คิด ทำให้ต้องเสียทั้งเงินและเวลาในการแก้ไข

หากฉีดด้วยฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน หรือเป็นของแท้ ก็สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติเหมือนกับการฉีดตำแหน่งอื่น ๆ เลยค่ะ เพราะเมื่อฉีดไปสักระยะนึง สารเติมเต็มเหล่านี้มันจะค่อย ๆ ซึมไปกับชั้นผิวด้วยตัวของมันเอง โดยที่ไม่ทิ้งสารตกค้างใด ๆ ไว้ในร่างกาย และรูปทรงจมูกก็จะกลับมาเป็นปกติเหมือนตอนก่อนฉีด

สรุป

การแก้รูปทรงจมูกด้วยการฉีดฟิลเลอร์จมูก เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการเสริมหรือปรับเพียงเล็กน้อยจากฐานจมูกเดิม ไม่ได้ต้องการผลลัพธ์ที่ถาวร หรือกลัวการผ่าตัดศัลยกรรม และที่สำคัญการฉีด Filler เพียงแค่เติมนิดเติมหน่อยก็ได้รูปทรง อย่างไรก็ตามควรเข้ารับการปรึกษาแพทย์ที่มีทักษะเพื่อให้แพทย์ช่วยประเมินพร้อมตัดสินใจร่วมกันก่อนว่า ต้องการแก้ไขตรงไหน ผลลัพธ์ต้องออกมาอย่างไร เพื่อเป้าหมายที่ตรงกันและเพื่อความปลอดภัยค่ะ หากใครมีข้อสงสัยเพิ่มเติมหรืออยากให้แพทย์ช่วยประเมินจมูกเบื้องต้น สามารถเข้ามาสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ค่ะ

ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก นพ.วัชพล ธนมิตรามณี (คุณหมอเมฆ)​
นายแพทย์ด้านผิวหนังและแพทย์ผู้สอนฟิลเลอร์