รอยหลุมสิวชนิด Ice Pick Scar
(ระดับรุนแรงที่สุด)
ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว
เลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวที่ไหนดี และต้องเลือกอย่างไรให้ทำออกมาแล้วได้ผลดีในราคาถูก หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าการฉีด filler หลุมสิวสามารถช่วยเติมเต็มหลุมสิวให้ใบหน้าของเรากลับมาเรียบเนียนได้ด้วย ทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวของเราสุขภาพดีขึ้น สำหรับใครที่อยากกู้คืนผิวหน้าให้กลับมาเนียนสวยปราศจากหลุมสิวอีกครั้ง เราก็ขอแนะนำให้ทุกคนไปทำความรู้จักกับหัตถการที่ชื่อว่าฟิลเลอร์หลุมสิวกันดีกว่าค่ะ
ฟิลเลอร์หลุมสิว (Dermal filler for acne scar) คือ การฉีดสารเติมเต็มที่เรียกว่า Hyaluronic Acid เข้าไปเติมเต็มบริเวณหลุมสิว ทำให้หลุมสิวหรือริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้าตื้นขึ้น ผิวจึงดูเรียบเนียน สม่ำเสมอขึ้นหลังทำ แต่การฉีดฟิลเลอร์เพื่อจัดการหลุมสิวไม่สามารถทำได้ทันทีเลยนะคะ เพราะจำเป็นต้องตัดพังผืดที่ดึงรั้งผิวหนังออกไปก่อน ซึ่งการเลาะพังผืดจะช่วยให้ใต้ชั้นผิวเกิดช่องว่างสำหรับฉีดสารเติมเต็ม จากนั้นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็จะฉีดฟิลเลอร์ไปยังจุดที่เน้นเป็นพิเศษ เพื่อให้ผิวหน้าของเรากลับมาเรียบเนียน สภาพผิวดีขึ้นอีกครั้งค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว ช่วยอะไร
ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวเป็นนวัตกรรมทางการแพทย์ที่จะช่วยเติมเต็มหลุมสิวให้ตื้นขึ้น ทำให้ผิวหน้ากลับมาเรียบเนียน ดูดีอีกครั้ง ร่องรอยหลุมสิวต่าง ๆ ก็จะดูตื้นขึ้นอย่างชัดเจน
ดังนั้น สำหรับผู้ที่มีปัญหาหลุมสิวลึก ผิวหน้าเป็นหลุม รักษาด้วยวิธีไหนก็ไม่เห็นผล การฉีดฟิลเลอร์ก็สามารถช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ โดยหลังทำผิวจะดูเรียบเนียน สม่ำเสมอ อีกทั้งผิวยังดูสุขภาพดีขึ้น มีความอิ่มเอิบ กระชับ แต่ทั้งนี้ การฉีดหลุมสิวจำเป็นต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์ผู้รักษาอย่างมาก เพราะจำเป็นต้องแม่นยำเรื่องจุดฉีด และการคำนวณปริมาณสารเติมเต็มให้พอดีกับปัญหาของคนไข้แต่ละบุคคลค่ะ
การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวเหมาะกับใครบ้าง
การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวช่วยตอบโจทย์คนที่ต้องการวิธีแก้ปัญหาหลุมสิวที่เห็นผลเร็วและเห็นผลชัดเจน เพราะมันสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำ โดยผู้ที่เข้ามาใช้บริการส่วนมากจะมีปัญหาเหล่านี้
- ผู้ที่เป็นหลุมสิวชนิด Rolling และ Box Scar
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวหน้าให้เรียบเนียนขึ้น
- ผู้ที่ต้องการรักษาหลุมสิวด้วยวิธีที่สะดวก เห็นผลเร็ว
- ผู้ที่ไม่อยากพักฟื้นหลังทำ เพราะหลังฉีดฟิลเลอร์ที่บริเวณหลุมสิวไม่จำเป็นต้องพักฟื้นเพื่อฟื้นฟูใบหน้า
- ผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเองหลังทำ เพราะไม่ทิ้งบาดแผลให้ต้องดูแลยุ่งยาก
หลุมสิวเกิดจากอะไร
หลุมสิว คือ แผลเป็นชนิดหลุม นับเป็นปัญหาที่แก้ได้ยากสำหรับผู้ที่เป็นสิว เพราะมันคือร่องรอยหลังสิวหาย พบได้บ่อยในสิวอักเสบและสิวติดเชื้อเป็นหนอง ทั้งเมื่อเป็นแล้วก็ยากจะฟื้นฟูให้หายในระยะเวลาอันสั้น เนื่องจากเซลล์ผิวหนังได้เสียหายไปแล้ว
โดยส่วนมากสิวเม็ดไม่ใหญ่จะทิ้งรอยแผลเป็นขนาดเล็ก แต่ถ้าสิวเม็ดใหญ่ เช่น สิวหัวช้าง มักจะเกิดการอักเสบลึกจนถึงชั้นหนังแท้ ทำให้เป็นหลุมสิวลึกและเกิดพังผืดตามมาได้ นั่นเพราะเมื่อสิวหาย ใต้ผิวหนังบริเวณนั้นจะเกิดโพรงจากการอักเสบ เมื่ออาการอักเสบดีขึ้น ผิวหนังที่เป็นโพรงจะค่อย ๆ ยุบลงจนกลายเป็นหลุมสิวนั่นเอง
นอกจากการเป็นสิวแล้ว สาเหตุกระตุ้นที่ทำให้เป็นหลุมสิวได้ง่ายขึ้นยังได้แก่
- การแคะ แกะ เกาขณะเป็นสิว จนทำให้สิวเกิดการอักเสบ จนเกิดรอยดำและหลุมสิวตามมา
- เกิดจากการเป็นสิวอักเสบชนิดรุนแรง สิวติดเชื้อเป็นหนอง
- กรรมพันธุ์ที่จะสังเกตได้ว่าผู้ที่คนในครอบครัวมีประวัติเป็นสิวและหลุมสิวรุนแรง จะมีปัญหาผิวหน้าเป็นหลุมสิวได้ง่ายกว่าคนทั่วไป
หลุมสิวมีกี่ชนิด
ประเภทของหลุมสิวสามารถแบ่งคร่าว ๆ ได้ 3 ชนิด
ลักษณะเป็นหลุมขนาดเล็กไม่เกิน 0.5 มม. แต่มีความลึกมาก ทำให้ยากต่อการรักษา นับเป็นหลุมสิวประเภทที่รักษาได้ยากที่สุด มักเกิดจากการกดหรือบีบสิวอุดตัน
รอยหลุมสิวชนิด Box Car Scar
(ระดับรุนแรงปานกลาง)
หลุมสิวชนิดนี้มีลักษณะกว้างคล้ายบ่อ ขนาดประมาณ 3-4 มม. โดยขอบและฐานหลุมจะมีขนาดเท่ากัน หลุมสิวชนิดนี้จะมาพร้อมกับพังผืดเกาะติดที่ชั้นหนังแท้ มักเกิดจากการอักเสบของสิวเม็ดใหญ่หรือแผลเป็นจากโรคอีสุกอีใส
รอยหลุมสิวชนิด Rolling Scar
(ระดับทั่วไป)
จะมีลักษณะเป็นหลุมสิวแบบตื้น ๆ เป็นแอ่งเว้าลงไป ระดับความลึกไม่ลึกมาก จึงทำให้รักษาได้ง่ายกว่าหลุมสิวชนิดอื่น มักเกิดจากการแกะเกาสิวที่อยู่ในระดับที่ไม่ลึกมาก
ซึ่งจากประเภทหลุมสิวทั้งหมดนี้ การทำหัตถการฟิลเลอร์จะได้ผลดีเฉพาะการรักษาหลุมสิวระดับ Rolling scar และระดับ Box scar อ่านต่อที่นี่
กระบวนการทำงานของการฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว
กระบวนการฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวที่ทำให้หลุมสิวดูตื้นขึ้นนั้น เกิดจากที่ช่วงก่อนฉีดแพทย์จะมีการตัดพังผืดบริเวณใต้ผิวหนัง (Subcision) เพื่อให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่ ซึ่งหลังจากที่ฉีดสารเติมเต็มเข้าสู่ชั้นผิวแล้ว สารตัวนี้จะเข้าไปทำหน้าที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เติมเต็มบริเวณที่มีร่องหลุมสิวให้ดูตื้นขึ้น พร้อมปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน รูขุมขุนต่าง ๆ บนใบหน้าก็เล็กลงไปด้วย โดยระหว่างที่ฟิลเลอร์เริ่มสลายตัวลง เนื้อเยื่อใหม่ก็จะถูกสร้างขึ้นอยู่ตลอดเวลา ทำให้หลุมเดิมดูตื้นขึ้นไปด้วย นอกจากนี้ คุณสมบัติของสารชนิดนี้ยังมีความสามารถในการอุ้มน้ำได้ดี ดังนั้น มันจึงช่วยในเรื่องของความชุ่มชื้นได้ด้วย พร้อมเห็นผลลัพธ์ได้เลยทันทีหลังทำเสร็จ
ต้องฉีดบ่อยแค่ไหน และจะหายขาดไหม
หลังจากฉีดไปแล้ว มันจะช่วยปรับหลุมสิวให้ดูตื้นขึ้น ใบหน้าเรียนเนียนขึ้น แต่ฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่ให้ผลลัพธ์แค่เพียงชั่วคราวเท่านั้น โดยส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ได้ราว ๆ 6-24 เดือน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะให้ผลลัพธ์ไม่ได้แบบถาวร หรือไม่สามารถแก้ไขให้หายขาดได้ แต่มันก็มีส่วนทำให้หลุมสิวเดิมดูตื้นขึ้นเล็กน้อยกว่าตอนก่อนฉีด จากการที่เนื้อเยื่อถูกสร้างขึ้นมาใหม่อยู่ตลอดเวลา แม้สารเติมเต็มที่เคยฉีดเข้าไปสลายไปแล้วก็ตามค่ะ
ความแตกต่างของฟิลเลอร์หลุมสิว vs เลเซอร์หลุมสิว
ความแตกต่างระหว่างการฉีดฟิลเลอร์และการเลเซอร์ที่บริเวณหลุมสิวมีดังนี้
ฟิลเลอร์หลุมสิว
เป็นการตัดพังผืดใต้ผิวที่ดึงรั้งหลุมสิวไว้ออก ก่อนจะฉีดสารเติมเต็มเข้าไปเติมเต็มช่องว่างให้ผิวกระชับ อิ่มฟู และเรียบเนียนขึ้นอย่างสุขภาพดี ทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้สุขภาพผิวดียิ่งขึ้น ข้อดีของหัตถการนี้ สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำครั้งแรก ไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย และใช้รักษาหลุมสิวได้หลายระดับ แต่ข้อเสียคือ ผลลัพธ์จะไม่ถาวร
เลเซอร์หลุมสิว
การทำงานของเลเซอร์หลุมสิว คือ แสงเลเซอร์จะเข้าไปรักษาบริเวณหลุมสิวด้วยการตัดพังผืดใต้ผิวหนังและช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าออก ทำให้ผิวบริเวณที่เป็นหลุมสิวดูตื้นขึ้น ข้อดีของหัตถการนี้คือ สามารถช่วยลดเลือนจุดด่างดำและกระชับรูขุมขนได้ แต่ข้อเสียคือ ใช้ได้ผลเฉพาะกรณีหลุมสิวไม่ลึกมาก และจำเป็นต้องทำหลายครั้งจึงจะเริ่มเห็นผลชัดเจน
โดยสรุปแล้ว ทั้งสองวิธีนี้มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันออกไป แต่ในเคสที่มีหลุมสิวตื้น ๆ ไม่เยอะมาก การรักษาด้วยเลเซอร์ก็เป็นวิธีที่น่าสนใจ แต่กรณีที่ผิวหน้ามีปัญหาหลุมสิวลึกมาก การฉีดฟิลเลอร์จะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนกว่าและเห็นผลลัพธ์ได้รวดเร็วกว่าค่ะ
การเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ฉีดหลุมสิวที่เหมาะสม
การเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์จำเป็นต้องคำนึงถึงสภาพผิวและปัญหาที่เราต้องการแก้ไขเป็นหลัก ซึ่งเราจำเป็นต้องเข้าใจก่อนว่าฟิลเลอร์มีหลายยี่ห้อมาก และแต่ละยี่ห้อก็จะมีรุ่นย่อย ๆ ยิบย่อยออกไปอีก นั่นเพราะฟิลเลอร์แต่ละรุ่นก็ถูกผลิตขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาที่ต่างกัน ซึ่งก่อนฉีดแพทย์จะเป็นผู้ให้คำแนะนำเรื่องการเลือกชนิดสารเติมเต็มที่เหมาะสมกับคนไข้แต่ละคนให้แบบรายเคส จึงไม่ต้องกังวลว่าจะเลือกไม่ถูกเลย
โดยเคล็ดลับการเลือกฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว ควรเลือกฉีดยี่ห้อไหนดีให้ตอบโจทย์ปัญหาของเราและมีความปลอดภัยมากที่สุด อันดับแรกต้องเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก FDA ทั้งของไทยและต่างประเทศ และควรเลือกใช้ฟิลเลอร์เกรดพรีเมียมรุ่นที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก เนื้อนิ่ม เพื่อให้หลังฉีดผลลัพธ์จะออกมาเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน ไม่ไหลย้อย และดูดีมากที่สุด โดยยี่ห้อฟิลเลอร์ที่นิยมสำหรับฉีดหลุมสิว ได้แก่
Restylane
เป็นฟิลเลอร์จากประเทศสวีเดน โดดเด่นในเรื่องของโมเลกุลที่ผลิตออกมาหลากหลาย ทั้งยังผลิตด้วยเทคโนโลยีเฉพาะที่มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางโมเลกุลน้อยที่สุด จึงมีโอกาสแพ้น้อยมาก
Juvederm
เป็นฟิลเลอร์จากอเมริกา นำเข้าโดยบริษัท Allergan จุดเด่นคือ เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูง ส่งผลให้ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานยิ่งขึ้น
Belotero
เป็นฟิลเลอร์ที่ผลิตจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำเข้าโดยบริษัท Merz Aesthetics เนื้อฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย จึงสามารถตอบโจทย์ได้แทบทุกปัญหา
Yvoire
เป็นยี่ห้อฟิลเลอร์ที่พัฒนาโดยบริษัท LG Chem ของประเทศเกาหลีใต้ โดดเด่นเรื่องเทคโนโลยีการผลิต ส่งผลให้เนื้อฟิลเลอร์ฉีดง่าย มีความเรียบเนียนสูง ทั้งยังมีราคาย่อมเยา เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบไม่มากค่ะ
ข้อดี - ข้อเสียของการฉีด Filler หลุมสิว
ข้อดีและข้อเสียของการฉีด filler หลุมสิว สามารถแบ่งได้ดังนี้
ข้อดี
- สามารถแก้ไขปัญหาหลุมสิวให้ดูตื้นขึ้นอย่างได้ผลดี เห็นผลลัพธ์ชัดเจนและรวดเร็ว
- เห็นความเปลี่ยนแปลงทันทีหลังทำ
- เป็นวิธีที่สะดวก ใช้เวลารักษาเพียงไม่นาน
- ฟิลเลอร์สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว ทำให้ผิวสุขภาพดีขึ้น
- ไม่มีการติดเชื้อหลังทำ ไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย
- ไม่ทิ้งรอยแผลหลังทำ ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น (ในขั้นตอนการเซาะพังผืด แผลจะมีขนาดเล็กมาก ๆ จึงไม่ต้องกังวลเลยค่ะ)
ข้อเสีย
- ผลลัพธ์ไม่ถาวรเนื่องจาก HA-Filler สามารถสลายออกจากร่างกายได้เองเมื่อถึงกำหนดเวลา จึงจำเป็นต้องเติมซ้ำหากต้องการคงผลลัพธ์ไว้
เลือกฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวที่ไหนดี
เทคนิคการเลือกฉีดฟิลเลอร์ที่บริเวณหลุมสิว ควรเลือกฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว ที่ไหนดีเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดูดี ปลอดภัย คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป สามารถพิจารณาได้ตามเกณฑ์ง่าย ๆ ดังนี้
เคล็ดลับการเลือกคลินิก
คลินิกที่ได้มาตรฐานถือเป็นสิ่งสำคัญ ก่อนเลือกใช้บริการควรตรวจสอบก่อนเสมอว่าคลินิกมีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก ถูกต้องครบถ้วนไหม เคยมีชื่อเสียงในทางเสื่อมเสียหรือไม่ และที่สำคัญก็คือ การประเมินจากสภาพแวดล้อมของคลินิก ต้องสะอาดน่าเข้าใช้บริการ มีเครื่องมือและห้องทำหัตถการครบครัน
เคล็ดลับการเลือกแพทย์
เลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ด้านการฉีดสารเติมเต็มฟิลเลอร์ในบริเวณหลุมสิว โดยสามารถศึกษาได้จากรีวิวอันเป็นการแสดงฝีมือของแพทย์ท่านนั้น ๆ ดูว่าหลังทำผลลัพธ์ออกมาดูดีจริงหรือไม่ และที่สำคัญต้องอย่าลืมตรวจสอบใบประกอบวิชาชีพแพทย์ เพื่อป้องกันการสวมรอยหรือเจอแพทย์เถื่อนนะคะ
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของแท้
ก่อนฉีดควรให้แพทย์แกะกล่องฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้าทุกครั้ง และหลังฉีดสามารถขอกล่องฟิลเลอร์กลับไปตรวจสอบต่อที่บ้านได้ ที่สำคัญคือห้ามเห็นแก่ราคาถูกเด็ดขาด หากเจอคลินิกไหนฉีดฟิลเลอร์ด้วยราคาที่ถูกมาก ๆ ก็ให้ตั้งข้อสงสัยไว้เลยว่าทำไมเขาถึงฉีดได้ในราคาถูก
พิจารณาจากบริการของทางคลินิก
บุคลากรยิ้มแย้มแจ่มใส ต้อนรับอย่างอบอุ่น ให้คำแนะนำและดูแลลูกค้าอย่างมืออาชีพ ที่สำคัญควรมีบริการติดตามผลหลังทำอย่างสม่ำเสมอ
ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวราคาเท่าไหร่
การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว ราคาค่าบริการจะคิดคำนวณจากปัจจัยหลัก ๆ ดังนี้
- ยี่ห้อที่เลือกใช้
- ความลึกของหลุมสิว
- จำนวนหลุมสิวบนใบหน้า
นั่นหมายความว่าต่อให้เป็นหัตถการที่เหมือนกัน แต่ราคาของแต่ละเคสจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับสามปัจจัยเหล่านี้เป็นหลัก หากท่านใดอยากทราบราคาที่แน่นอน เราแนะนำให้เข้ามาปรึกษาคุณหมอที่คลินิกได้เลยค่ะ ที่ด็อกเตอร์เมฆคลินิกของเรามีบริการให้คำปรึกษาฟรี โดยทีมแพทย์จะช่วยประเมินปัญหา แนะนำชนิดสารเติมเต็ม และคำนวณปริมาณ cc ที่จำเป็นต้องใช้ให้ จะได้สามารถคำนวณราคาที่แน่นอนแบบรายบุคคลได้ ซึ่งขั้นตอนนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น อีกทั้งคนไข้ยังสามารถเก็บไปตัดสินใจต่อที่บ้านได้อีกด้วยค่ะ ไม่จำเป็นต้องปรึกษาแล้วตัดสินใจทำเลย
เปรียบเทียบก่อนและหลังฉีด Filler หลุมสิว
ภาพก่อนฉีด filler หลุมสิวจะเห็นได้ว่ารอยหลุมสิวสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ในขณะที่ภาพหลังทำรอยหลุมสิวที่เคยมีกลับดูตื้นขึ้น ผิวดูเรียบเนียนขึ้นอย่างชัดเจน
รีวิวฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวจากคนไข้จริง
ภาพรีวิว ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวซึ่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งจากคนไข้จริงที่มาใช้บริการกับเรา โดยคนไข้ส่วนใหญ่ให้เสียงตอบรับว่าพึงพอใจในผลลัพธ์มาก หลังทำหลุมสิวดูตื้นขึ้นอย่างชัดเจน ต้องขอบคุณคนไข้ทุกท่านที่ไว้วางใจให้ด็อกเตอร์เมฆคลินิกช่วยดูแลนะคะ ดูรีวิวจากคนไข้จริงที่นี่
การฉีด Filler หลุมสิวอันตรายไหม
โดยทั่วไป การฉีด filler หลุมสิวใช้สารไฮยาลูรอนิก แอซิด ซึ่งเป็นสารที่มีความปลอดภัยสูงมาก เนื่องจากเป็นสารที่สร้างเลียนแบบสารประกอบคอลลาเจนที่มีอยู่แล้วในร่างกายมนุษย์ (ซึ่งสารชนิดนี้ โดยปกติร่างกายของเราสามารถสร้างขึ้นมาได้เอง มีอยู่ทั่วไปในชั้นผิวซึ่งแทรกตัวอยู่ระหว่างอวัยวะภายในและชั้นเซลล์ผิว) จึงช่วยลดโอกาสแพ้ได้มาก ยิ่งไปกว่านั้น HA-Filler ยังได้รับการยอมรับจากแพทย์ทั่วโลกว่าสามารถฉีดเข้าสู่ร่างกายได้โดยไม่เป็นอันตราย ดังนั้นใครที่อยากแก้ปัญหาหลุมสิว ฟื้นฟูสภาพผิวหน้าให้กลับมาเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติด้วยวิธีที่ไม่เป็นอันตราย การฉีดฟิลเลอร์จึงตอบโจทย์ที่สุดค่ะ
ฉีด Filler หลุมสิวใช้กี่ cc ถึงเห็นผล
โดยทั่วไปจะขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้แต่ละท่านเป็นหลัก ในกรณีที่คนไข้มีหลุมสิวจำนวนมาก หรือมีหลุมสิวอยู่เกือบทั่วบริเวณใบหน้า ก็อาจจำเป็นต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์เยอะกว่าคนที่มีปัญหาหลุมสิวเพียงเล็กน้อย โดยทั้งนี้ การคำนวณปริมาณจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์เป็นหลัก แต่ส่วนใหญ่จะใช้ปริมาณเฉลี่ยเพียง 1 cc ก็สามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนแล้วค่ะ
การเตรียมตัวก่อนการฉีด
หลังศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด และพิจารณาเลือกใช้บริการกับคลินิกที่ได้มาตรฐานแล้ว ขั้นตอนเตรียมตัวก่อนเข้าพบคุณหมอเพื่อฉีดฟิลเลอร์มีดังนี้
- งดทานอาหารเสริมบางชนิด เช่น วิตามินอี น้ำมันพริมโรส โสม เป็นต้น เป็นเวลา 1 สัปดาห์ก่อนฉีด เนื่องจากอาหารเสริมเหล่านี้มีผลให้เกิดอาการฟกช้ำง่ายกว่าปกติ
- งดทานยาบางกลุ่ม เช่น ยาประเภทแอสไพรินและ NSAIDs เป็นต้น เป็นเวลา 1 สัปดาห์ก่อนฉีด เพื่อป้องกันภาวะเลือดไหลไม่หยุดและลดโอกาสการเกิดรอยเขียวช้ำ
- งดทายาผลัดเซลล์ผิว งดแว๊กซ์ขนบริเวณที่จะฉีดเป็นเวลา 1 สัปดาห์ เพื่อป้องกันอาการระคายเคือง
- หากต้องการทำเลเซอร์ผิวหน้า ควรทำก่อนอย่างน้อย 3 วัน
- งดดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ งดการออกกำลังกายอย่างหนัก หรืองดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดเป็นเวลา 24 ชั่วโมงก่อนทำ
- หากมีโรคประจำตัว ประวัติแพ้ยา ยาที่ทานเป็นประจำ ควรแจ้งแพทย์ก่อนทุกครั้ง
ขั้นตอนการฉีด Filler หลุมสิว
หลังปรึกษาแพทย์เพื่อให้แพทย์ช่วยประเมินใบหน้า วิเคราะห์ปัญหา และแนะนำชนิดของสารเติมเต็มที่ควรใช้แล้ว ขั้นตอนการรักษาต่อไปจะเป็นดังนี้
- ผู้ช่วยแพทย์เข้ามาเช็ดทำความสะอาดผิวหน้า เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- แปะยาทิ้งไว้บนใบหน้าประมาณ 30-45 นาที เพื่อลดความเจ็บจากเข็ม แต่ในบางกรณีอาจใช้วิธีฉีดยาชา ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์
- แพทย์เริ่มตัดพังผืดใต้ผิวหนัง (Subcision) โดยใช้เข็มตัดเซาะพังผืดที่ดึงรั้งหลุมสิวไว้ เพื่อให้เกิดช่องว่างใต้หลุมสิว
- แพทย์ฉีดฟิลเลอร์เพื่อดันช่องว่างใต้ผิวให้เต็มขึ้น
- หลังฉีดเสร็จอาจมีการประคบเย็นแล้วแต่กรณี
- แพทย์แนะนำวิธีดูแลตัวเองหลังทำ
ข้อปฏิบัติและข้อควรระวังหลังการฉีด
หลังฉีดแล้ว ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมามีประสิทธิภาพและคงผลลัพธ์ไว้ได้นานมากขึ้น โดยสามารถทำได้ดังนี้
- ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น ในกรณีที่ไม่มีอาการบวมแดงหลังฉีด
- หากมีอาการบวมช้ำ สามารถประคบเย็นหรือรับประทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้ โดยอาการบวมหรือเขียวช้ำจะสามารถหายได้เองภายใน 1 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงความร้อนทุกประเภททั้งแสงแดด กิจกรรมกลางแจ้ง การออกกำลังกายหนัก การอบซาวน่า การทำอาหารหน้าเตาร้อน ๆ หรือแม้กระทั่งการอาบน้ำอุ่น เป็นต้น เพราะความร้อนมีผลให้ผิวยืดหดมากกว่าปกติ อันจะกระทบต่อการเซ็ตตัวของเนื้อฟิลเลอร์
- งดขัด ถู สครับ นวด สปา ทำทรีตเมนต์ผิวหน้า หรือสัมผัสผิวหน้าแรง ๆ เป็นเวลา 1 สัปดาห์
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่เป็นเวลา 1 สัปดาห์ เพราะจะมีผลให้ยุบบวมช้าลง
- ควรดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย (วันละ 8-10 แก้ว) เพราะจะมีผลให้เนื้อฟิลเลอร์เซ็ตตัวได้ไวและคงสภาพอยู่ได้นานขึ้น เนื่องจากฟิลเลอร์เป็นสารอุ้มน้ำ
- งดเลเซอร์ร้อนลงผิวชั้นลึกเป็นเวลา 1 เดือน
ผลข้างเคียงหลังฉีด Filler หลุมสิว
หากฉีด HA-Filler ที่ได้มาตรฐานและฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การฉีด filler หลุมสิวก็จะไม่มีผลข้างเคียงที่ร้ายแรงเลยค่ะ โดยอาการข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปจะมีเพียงอาการบวมเล็กน้อยและรอยเข็มเล็ก ๆ ซึ่งสามารถหายได้เองโดยไม่เป็นอันตรายค่ะ
คำถามที่พบบ่อย
นอกจากข้อควรรู้เบื้องต้นที่กล่าวมาทั้งหมด วันนี้เราก็ได้รวบรวมข้อคำถามที่พบบ่อยสำหรับผู้ที่สนใจเข้ารับบริการการฉีด filler หลุมสิวมาฝากด้วยค่ะ
ก่อนฉีดจะมีการแปะหรือฉีดยาชาอยู่แล้วค่ะ ขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์ ดังนั้นระหว่างฉีดจึงแทบไม่รู้สึกถึงความเจ็บเลยค่ะ หรือในบางกรณีที่ผิวของคนไข้มีความบอบบาง ก็อาจจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยขณะตัวยาเคลื่อนลงสู่ผิว แต่เป็นความเจ็บในระดับที่ทนได้ค่ะ
หลังฉีดผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานประมาณ 9-12 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดสารเติมเต็มที่เลือกใช้ และการดูแลผิวหน้าหลังทำของแต่ละคน หากปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัด ก็จะมีส่วนช่วยให้ผลลัพธ์อยู่กับเราได้นานขึ้น ทั้งนี้หากฟิลเลอร์สลายตัวแล้วก็สามารถฉีดเติมได้เรื่อย ๆ เพื่อคงผลลัพธ์ไว้โดยไม่เป็นอันตรายนะคะ
หลังฉีดสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำค่ะ จะเห็นได้เลยว่าหลุมสิวตื้นขึ้น ใบหน้าดูเรียบเนียน อิ่มฟูกว่าตอนก่อนฉีด แต่นี่เป็นเพียงผลลัพธ์แค่ 70-80 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นนะคะ เนื่องจากหลังฉีดอาจมีอาการบวมเล็กน้อยจากยาชาและเนื้อฟิลเลอร์ที่ยังไม่เข้าที่ดี โดยจะสามารถเห็นผลลัพธ์อย่างเต็มที่ภายใน 2-3 สัปดาห์ หลังเนื้อฟิลเลอร์เซ็ตตัวเข้าที่ดีแล้วค่ะ
หลังฉีดจะมีอาการบวมเล็กน้อยเป็นปกติ สามารถค่อย ๆ ยุบได้เองใน 3-7 วัน และจะยุบลงจนเป็นปกติภายใน 3 สัปดาห์ค่ะ
หลังฉีดอาจมีอาการบวมช้ำเล็กน้อย ทำให้ยังเห็นผลลัพธ์ได้ไม่เต็มที่เท่าไหร่ โดยอาการเหล่านี้จะหายสนิทภายใน 2-3 สัปดาห์ ดังนั้นหลังฉีด ผลลัพธ์จึงจะเข้าที่ภายใน 2-3 สัปดาห์ค่ะ
ควรละเว้นไปก่อนในช่วง 24 ชั่วโมงแรก เพื่อป้องกันรอยเข็มติดเชื้อ รวมถึงควรงดทาครีมบริเวณรอยเข็มเป็นเวลา 1 คืน แต่ถ้ามีเหตุจำเป็นจริง ๆ ก็สามารถทำได้ เพียงแต่ควรละบริเวณรอยเข็ม แต่งหน้าอย่างเบามือ ระวังไม่ให้สัมผัสผิวบริเวณที่ฉีดรุนแรงเกินไป และควรทำความสะอาดทันทีหลังเสร็จธุระค่ะ
สามารถล้างหน้าได้ตามปกติ แต่ไม่ควรขัด เกา นวดคลึงบริเวณที่ฉีดเป็นเวลา 1 สัปดาห์ และควรหลีกเลี่ยงการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น เพราะจะมีผลให้ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้นได้
ฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่ไม่ได้ให้ผลลัพธ์ถาวร เพราะตัวยาสามารถสลายออกจากร่างกายได้เองตามธรรมชาติ หลังฟิลเลอร์สลาย ผิวหน้าก็จะค่อย ๆ คืนสู่สภาพเดิมค่ะ
หลังฟิลเลอร์สลาย ผิวหน้าจะค่อย ๆ คืนสู่สภาพเดิมค่ะ แต่จะไม่มีทางอาการหนักกว่าเดิม เพราะระหว่างที่เนื้อฟิลเลอร์ยังคงอยู่ จะเปรียบเสมือนการช่วยบำรุงผิวให้เสื่อมสภาพได้ช้าลง ซึ่งหากใครอยากคงผลลัพธ์ไว้ให้อยู่ได้นาน ๆ ก็สามารถฉีดเติมได้เรื่อย ๆ โดยไม่เป็นอันตรายค่ะ
จะไม่ลึกกว่าเดิมค่ะ ทั้งยังตื้นขึ้นกว่าตอนก่อนฉีดด้วยซ้ำ เนื่องจากขั้นตอนการทำได้มีการตัดพังผืดที่ดึงรั้งหลุมสิวออก ทั้งเนื้อฟิลเลอร์ยังมีคุณสมบัติกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้แม้ฟิลเลอร์สลายไปแล้ว คอลลาเจนเหล่านั้นก็ยังคงอยู่ ผิวจึงมีสภาพดีขึ้นกว่าตอนก่อนฉีด แต่แค่จะไม่ได้เรียบเนียนเท่าตอนที่เนื้อฟิลเลอร์ยังไม่สลายค่ะ
หลังฉีดในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก อาจพบได้ว่าใบหน้ามีอาการบวมเล็กน้อย แต่อาการบวมเหล่านี้จะยุบลงอย่างเต็มที่ภายใน 3 สัปดาห์ หลังจากนี้ผิวหน้าก็จะกลับคืนสู่สภาพปกติ ไม่ได้ทำให้หน้าดูบวมหรือบานขึ้นแต่อย่างใด ยกเว้นบริเวณหลุมสิวที่ผิวจะถูกดันขึ้นมาให้เรียบเนียนเสมอกันเท่านั้นค่ะ
ควรงดไปก่อน 1 สัปดาห์ เพราะจะมีผลต่อการเคลื่อนตัวของเนื้อฟิลเลอร์ โดยในกรณีนี้รวมถึงการทำทรีตเมนต์ อบซาวน่า การสครับหน้าอีกด้วยนะคะ
สามารถทาได้ตามปกติ เพียงแต่ควรระวังบริเวณรอยเข็มเป็นพิเศษค่ะ
การฉีดฟิลเลอร์เป็นเพียงการเติมเต็มร่องลึกของหลุมสิวให้ขึ้นมาเรียบเนียนเสมอกัน จึงไม่ได้มีผลต่อความตึงของใบหน้า ยังคงแสดงสีหน้าได้ปกติอย่างเป็นธรรมชาติค่ะ
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงในช่วง 3-14 วัน หลังฉีด ได้แก่
- อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ เพราะเสี่ยงต่อปัญหาพยาธิบางชนิด ส่งผลให้เกิดการอักเสบหรือรอยเข็มติดเชื้อได้
- อาหารหมักดอง เพราะจะมีผลให้ยุบบวมช้าลง
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ เพราะมีผลให้หลอดเลือดขยายตัวมากขึ้น ทำให้ยุบบวมได้ช้าลง
- อาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ ทั้งหมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู จิ้มจุ่ม เพราะความร้อนจะส่งผลให้ผิวมีการยืดหดมากกว่าปกติ ทำให้ฟิลเลอร์เซ็ตตัวได้ไม่เต็มที่
- อาหารรสเผ็ดจัด เค็มจัด หรืออาหารที่มีโซเดียมสูง เพราะจะส่งผลต่ออาการบวม
- อาหารรสหวานจัดและอาหารประเภทนมวัว เพราะสามารถกระตุ้นกระบวนการอักเสบได้
ทรีตเมนต์รักษาสิวเป็นการใช้วิตามินและตัวยาที่มีประโยชน์หลายชนิดมาควบคุมและยับยั้งการเกิดสิว โดยหลังฉีด แนะนำให้เว้นประมาณ 1 เดือน ให้สภาพผิวคงที่ก่อน จึงค่อยเริ่มปรึกษาแพทย์เพื่อทำทรีตเมนต์รักษาสิวค่ะ
เลเซอร์รักษาสิวที่ได้รับความนิยม เช่น CO2 Laser นิยมใช้ในการรักษาสิวอุดตัน โดยหลังฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว หากใครที่มีปัญหาสิวอุดตัน แนะนำให้เว้นการทำเลเซอร์ทุกชนิดเป็นเวลา 1 เดือนก่อนค่ะ เนื่องจากความร้อนจากเลเซอร์จะทำให้ผิวยืดหดมากกว่าปกติ อันส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของฟิลเลอร์ค่ะ
ฉายแสงรักษาสิว คือ การใช้แสงที่มีความยาวคลื่นในช่วงที่ตาของคนเราสามารถมองเห็นได้ (แสงสีฟ้าและแสงสีแดง) มาใช้รักษาสิว หลังฉีดแล้ว หากท่านไหนยังคงมีปัญหาสิวอยู่ แนะนำให้พ้นช่วง 1 เดือนแรกไปก่อน แล้วจึงค่อยปรึกษาแพทย์เพื่อทำการฉายแสงรักษาสิวต่อไปค่ะ
หลังฉีดควรงดทายาแต้มสิวในช่วง 1 สัปดาห์แรก เพื่อลดโอกาสเกิดการระคายเคือง และควรระมัดระวังยาแต้มสิวที่มีฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิว เพราะจะเพิ่มโอกาสเกิดการระคายเคืองมากขึ้น
สรุป
การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว เป็นหัตถการที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเห็นผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว เพราะการฉีดฟิลเลอร์สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้เลยในทันทีหลังทำเสร็จ ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องรอนาน แต่ทว่ามันไม่สามารถให้ผลลัพธ์แบบถาวรได้ ต้องกลับมาทำซ้ำ หรือสามารถทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ เพื่อเสริมผลลัพธ์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นได้ สำหรับใครที่สนใจการทำ Filler สามารถเข้ามาสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับผิวหน้ากับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจาก Doctor Mek Clinic ได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ
ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก นพ.วัชพล ธนมิตรามณี (คุณหมอเมฆ)
นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์และหัตถการเสริมความงาม