ต่อให้ดูแลตัวเองดีแค่ไหน ออกกำลังกาย ทาครีมเยอะเท่าไหร่ แต่หน้ายังดูโทรมไม่สดใส ดูแก่กว่าวัย นอกจากสาเหตุของผิวแล้ว ยังสามารถเกิดจากชั้นไขมันหรือชั้นกระดูกที่ยุบตัวได้อีกด้วย ยิ่งถ้าเกิดขึ้นบริเวณแก้มก็จะทำให้หน้าดูตอบ ดูโทรม แถมโหนกแก้มยังดูสูงขึ้นด้วย เสียเซลฟ์ไม่ไหวแล้ว โดยปัญหาพวกนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไปเช็กลิสต์ปัญหากันดีกว่าค่ะว่าเกิดจากอะไร เราจะได้เข้าใจปัญหาเบื้องต้นของตัวเราได้มากขึ้นค่ะ
โหนกแก้มสูงเกิดจากอะไร
โหนกแก้มสูง คือ ลักษณะของกระดูกบริเวณโหนกแก้มนูนออกมามากเกินไป ซึ่งมีผลต่อรูปหน้าของเราพอสมควร ทำให้หน้าดูไม่สมส่วน หน้าใหญ่ หน้าบาน หน้าเหลี่ยม ทำให้หน้าดูแข็ง หน้าดูดุ ไม่ละมุน หน้าไม่หวาน โครงหน้าไม่สมส่วน นอกจากนั้นยังเกิดขึ้นจากการที่ไขมันมีการยุบตัวจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณขมับ ใต้ตา รวมไปถึงบริเวณแก้ม ทำให้ใบหน้าดูอิดโรย หน้าโทรมดูเหนื่อยล้า หน้าแก่กว่าวัย หน้าดูไม่มีมิติ สามารถเห็นได้ชัดในผู้ชายที่จะมีโหนกแก้มเด่นชัด หน้าจึงดูคมชัด มีความเหลี่ยมมากกว่าใบหน้าของผู้หญิง แต่ก็ยังมีสาว ๆ หลายคนที่มีลักษณะโครงหน้าแบบเดียวกันกับผู้ชายด้วยค่ะ ทำให้หน้าดูดุ ดูแข็ง หน้าไม่หวานละมุนอย่างที่ควรจะเป็น หน้าดูแก่กว่าวัย ทั้งยังทำให้ดูเหมือนสุขภาพไม่ดีได้ด้วยนะคะ โดยเฉพาะในโครงสร้างใบหน้าของชาวเอเชียที่ลักษณะของกระดูกโหนกแก้มจะออกไปด้านข้าง จึงทำให้ใบหน้าดูมีปัญหาได้ง่ายค่ะ หากเทียบกับชาวยุโรปที่ลักษณะของกระดูกโหนกแก้มจะพุ่งออกมาด้านหน้า ทำให้หน้าดูมีมิติมากกว่า โดยมีปัจจัยอื่น ๆ เพิ่มเติมดังนี้
- อายุที่เพิ่มมากขึ้น มีผลทำให้ผิวเสื่อมลง ชั้นไขมันมีการยุบตัว รวมถึงคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหายไป บริเวณแก้มจึงดูซูบตอบลง โหนกแก้มจึงเด่นชัดมากขึ้น
- การลดน้ำหนัก เมื่อลดน้ำหนักด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้อง หรือน้ำหนักตัวมีการลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ไขมันในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเกิดการสูญเสียไปด้วย จึงเกิดอาการซูบผอม หรือหน้าตอบมากเกินไป
- พันธุกรรม จะสังเกตเห็นได้ชัดเจนจากคนที่มีลักษณะของโหนกแก้มที่ใหญ่ โหนกแก้มสูงชัดเจนมาก มีกรามที่ใหญ่ เป็นผลมาจากการส่งต่อกันทางพันธุกรรมของคนในครอบครัว
- การจัดฟัน โดยวิธีการนี้เป็นการจัดตำแหน่งฟันใหม่ ทำให้เกิดการยุบตัวของเนื้อแก้ม หน้าดูตอบลง โหนกแก้มจึงดูชัดเจนขึ้นกว่าเดิม
ลดโหนกแก้มให้หน้ากลับมาละมุนหวาน สวยปัง ดูสุขภาพดี
ปัญหาของโหนกแก้มสูงนั้นสามารถแก้ไขได้ด้วยหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะจัดการที่ต้นเหตุหรือปลายเหตุก็สามารถเลือกได้ตามที่ต้องการ เพื่อช่วยกลบจุดด้อย และปกปิดปัญหาให้หน้าละมุนสวยดูดีขึ้น ไปดูกันค่ะว่ามีวิธีการไหนบ้างที่จะเข้ามาช่วยตอบโจทย์แก้ไขปัญหานี้ได้
- เมคอัพ เป็นวิธีพื้นฐานทั่วไปที่สามารถซื้อเครื่องสำอางมาใช้ได้เลย แต่จะต้องอาศัยความชำนาญประกอบเทคนิคที่หลากหลาย นอกจากนั้นยังต้องเข้าใจมุมของหน้าที่แสงและเงาจะตกกระทบใบหน้า การแก้ปัญหาโหนกแก้มโดยใช้เมคอัพนั้น หากโบ๊ะหนักเกินไปก็จะดูไม่ธรรมชาติ ดูโป๊ะได้ ยิ่งเจออากาศเมืองไทยเข้าไปด้วยแล้วระวังหน้าจะเยิ้มเป็นสังขยาได้ง่าย ๆ เลยนะคะ รวมถึงต้องใช้เวลาในการแต่งหน้านานเสียเวลามากเหมือนกันค่ะ
- เหลาโหนกแก้ม เป็นอีกวิธีที่สามารถช่วยลดโหนกแก้มได้ โดยแพทย์จะทำการเปิดแผลด้านในกระพุ้งแก้มและสอดเครื่องมือเข้าไปกรอกระดูกบริเวณโหนกแก้มให้เข้ารูปตามที่ต้องการ เหมาะกับคนที่ไม่ได้มีปัญหาโหนกแก้มสูงมาก เพราะเป็นการกรอกระดูกเพียงเล้กน้อยเท่านั้น โดยหลังทำต้องพักฟื้นนาน โดยการที่แผลอยู่ด้านในปากบริเวณที่ชื้น หากดูแลแผลไม่ดีมีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อและแผลหายช้าได้ และกระดูกที่เสียไปแล้วก็ไม่สามารถสร้างกลับขึ้นมาใหม่ได้ หากต้องการกลับมาเหมือนเดิมก็ทำได้ยาก
- ผ่าตัดทุบโหนกแก้ม แพทย์จะทำการเปิดแผลและใช้เครื่องมือเข้าไปตัดกระดูกบริเวณโหนกแก้มให้เล็กลง รวมถึงทำการเลื่อนตำแหน่งกระดูกให้เข้าที่มากขึ้น โดยวิธีนี้ถึงแม้จะเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจน แต่ต้องอาศัยเวลาในการพักฟื้นนาน ทั้งยังเกิดอาการบวม เกิดอาการช้ำขึ้นมาได้ ทั้งยังต้องดูแลรักษารอยแผลให้ดีเพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อ เมื่อเวลาผ่านไปใบหน้าของเรามีการเปลี่ยนแปลงไปตามวัย หากต้องการแก้ไขจึงทำได้ยุ่งยากมาก ๆ เพราะกระดูกถูกตัดออกไป รวมถึงยังถูกขยับตำแหน่งจากจุดเดิมอีกด้วย จึงไม่สามารถทำให้กลับมาเหมือนเดิมได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
อ่านแล้วอย่าเพิ่งเครียดนะคะ เพราะยังมีอีกวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมงก่อนออกจากบ้าน นั่นก็คือ ฟิลเลอร์แก้มตอบ เป็นวิธีการที่ทำแล้วเห็นผลที่ดีขึ้นหลังทำทันที (ขึ้นอยู่กับแต่ละรายบุคคล) ไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีรอยแผล ไม่ทิ้งรอยช้ำหรือรอยบวมเอาไว้หลังทำ หน้าดูละมุนหวาน สดใสขึ้น ดูสุขภาพดี ไม่โทรม ช่วยปรับรูปหน้าให้ดีขึ้นได้ สามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ ไม่เกิดการตกค้างในร่างกาย สามารถฉีดเพิ่มหรือแก้ไขได้ง่ายโดยไม่ต้องผ่าตัด ใบหน้าจึงดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ที่ Doctor mek Clinic ดูแลทุกเคสโดยคุณหมอเมฆ แพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านฟิลเลอร์ ผู้คว้ารางวัลอันดับ 1 ด้านฟิลเลอร์ 4 สมัยซ้อน จึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุดกลับไปเสมอ