ขอบตาดำจากภูมิแพ้ เป็นได้ก็แก้ได้!

ขอบตาดำจากภูมิแพ้ หรือใต้ตาดำจากภูมิแพ้นับว่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่มักพบได้บ่อย ๆ ซึ่งแน่นอนว่าย่อมกระทบต่อความสวยงามภายนอก ทำให้หลายคนไม่มีความมั่นใจ เพราะขอบตาหรือใต้ตาดำคล้ำจะทำให้ใบหน้าดูโทรม ดูแก่ หลายคนจึงเลือกวิธีการแต่งหน้า ใช้คอนซีลเลอร์ทาเพื่อปกปิดรอยคล้ำที่เกิดขึ้น แต่ก็เสียเวลาชีวิตในแต่ละวันค่อนข้างมาก นอกจากนี้แล้ว ยังทำให้เสียเงินกับเครื่องสำอางบ่อย ๆ โดยใช่เหตุ วันนี้เราเลยจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับภาวะใต้ตาหรือขอบตาที่เกิดการดำจากภูมิแพ้กันให้มากขึ้น รวมถึงวิธีแก้ไขให้ใต้ตากลับมากระจ่างใสและที่สำคัญเลยคือ การดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากโรคภูมิแพ้ซึ่งเป็นต้นตอของปัญหาขอบตาดำค่ะ

ภาวะขอบตาดำจากภูมิแพ้ (Allergic Shiner) อาการใต้ตาดำจากภูมิแพ้มีสาเหตุมาจากการที่ร่างกายได้รับสิ่งกระตุ้น หรือสิ่งเร้าให้เกิดอาการคัน ระคายเคืองที่บริเวณรอบดวงตา จนก่อให้เกิดอาการน้ำตาไหล คันตา ตาบวมแดง หรือในบางกรณีอาจเกิดอาการจาม น้ำมูกไหล คันจมูก ส่งผลให้เราต้องขยี้หรือเกาที่ตา สักพักเมื่อเราขยี้ตาบ่อย ๆ จนเนื้อเยื่อที่ตาอักเสบ จากนั้นร่างกายจะผลิตสารฮีสตามีน (Histamine) ไปจับกับเนื้อเยื่อที่อักเสบ โดยร่างกายก็จะยิ่งผลิตฮีสตามีนเยอะขึ้นเรื่อย ๆ จึงทำให้ร่างกายเราเกิดกระบวนการกระตุ้นให้เลือดไปเลี้ยงที่หลอดเลือดรอบดวงตามากขึ้น ซึ่งหลอดเลือดที่ว่านี้เป็นชนิดหลอดเลือดดำนี่เอง จึงเป็นที่มาของรอยคล้ำที่ใต้ตาค่ะ

นอกจากการที่ขอบตาดำจากภูมิแพ้แล้ว ปัญหาขอบตาคล้ำ ใต้ตาดำ ยังเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย จากสาเหตุอื่น ๆ ได้อีก ทั้งปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายในร่างกาย

• พักผ่อนน้อยและความเครียด ทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายรวน รวมถึงเลือดไหลเวียนไม่ปกติ เส้นเลือดดำขยายตัว และทำให้ร่างกายผลิตเม็ดสีเมลานิน ส่งผลให้สีผิวบริเวณใต้ตาดำคล้ำ
• กรรมพันธุ์ ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากคนในครอบครัว ส่งผลให้ขอบตาดำคล้ำ ในบางรายอาจมีโครงสร้างของเบ้าตาลึก ซึ่งเมื่อเวลามีแสงตกกระทบจะยิ่งทำให้เห็นเป็นเงาใต้ตาที่ดำ
• แสง UV จากแดด โดยเฉพาะเมื่อต้องโดนแสงแดดจัด ๆ สะสมเป็นระยะเวลานาน ทำให้กระบวนการสร้างเม็ดสีเมนานินทำงานผิดปกติ ส่งผลให้ขอบตาดำ

• อายุที่มากขึ้น ส่งผลให้การผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินลดลง ผิวหนังเกิดความหย่อนคล้อย ผิวบางลง และทำให้ผิวใต้ตาคล้ำ
• ดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่เป็นประจำ มีผลต่อการขยายตัวของหลอดเลือดใต้ผิวหนัง จนเห็นความดำคล้ำที่ผิวหนังใต้ตาได้ง่าย

• ดื่มน้ำน้อย เมื่อร่างกายขาดน้ำหรือได้รับน้ำไม่เพียงพอ ส่งผลกระทบต่อระบบต่าง ๆ รวมถึงทำให้ผิวขาดความชุ่มชื่น ไม่สดใส ผิวหมองคล้ำได้ง่าย รวมถึงที่บริเวณใต้ตา
• การตั้งครรภ์ ซึ่งมาจากภาวะที่ฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง ทำให้หลอดเลือดมีการขยายตัวมากขึ้น ทำให้เป็นรอยดำคล้ำที่บริเวณใต้ตา

อยากแก้ปัญหาขอบตาดำจากภูมิแพ้ หรือใต้ตาหมองคล้ำ ใต้ตาดำจากภูมิแพ้ ก่อนอื่นเลยเราก็ต้องหันมาจัดการกับภูมิแพ้ที่เราเป็นกันก่อนเลยค่ะ เริ่มจากการหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นหรือสิ่งเร้าต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่มีฝุ่นจัด เกสรดอกไม้ ทำความสะอาดบ้านและข้าวของเครื่องใช้เป็นประจำ หากเลี้ยงสัตว์ก็ควรใช้วิธีการดูดฝุ่นขนแทนการกวาด รวมถึงใช้เครื่องกรองอากาศร่วมด้วย

โดยหากหลีกเลี่ยงไปในที่ที่มีสารก่อภูมิแพ้ไม่ได้ แนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยที่มีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นละอองต่าง ๆ หากรู้ตัวว่ากำลังเป็นภูมิแพ้ ควรรับประทานยาประเภท Anti-histamine หรือหากมีอาการรุนแรงขึ้น ควรเข้ารับการตรวจและปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทำการรักษาอาการภูมิแพ้ที่เกิดขึ้นอย่างถูกวิธีค่ะ

ในเบื้องต้นของการดูแลตัวเองและปัญหารอยคล้ำใต้ตา เราสามารถใช้วิธีต่าง ๆ เพื่อลดเลือนรอยดำเหล่านี้ได้ด้วยตัวเอง ทั้งวิธีการบำรุงด้วยครีม หลีกเลี่ยงปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำร้ายรอบดวงตา และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือไลฟ์สไตล์บางอย่าง เพื่อฟื้นฟูให้ผิวรอบดวงตาและใต้ตากลับมากระจ่างใสอีกครั้ง

1. ประคบเพิ่มการไหลเวียนของเลือด

โดยการใช้ถุงชาที่ชงเสร็จแล้วและยังมีความอุ่นอยู่ (ไม่ร้อนจัด) นำมาประคบที่บริเวณดวงตาทั้ง 2 ข้าง ใช้เวลาประมาณ 15 นาที หรือนำผ้าขนหนูชุบกับน้ำอุ่นแล้วบิดให้หมาด ๆ แล้วจึงนำมาประคบที่ตาร่วมกับการใช้นิ้วกดเบา ๆ ที่ใต้ตาไล่จากข้างหนึ่งไปข้างหนึ่ง ทำทั้ง 2 ข้าง เพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือดบริเวณรอบดวงตาค่ะ

2. ใช้ครีมบำรุงใต้ตา

เลือกใช้ผลิตภัณฑ์อายครีมหรือเซรั่ม ที่มีคุณสมบัติในการปรับสีผิวใต้ตาให้กระจ่างใสขึ้น รอยคล้ำดูจางลง และแนะนำให้เลือกเป็นอายครีมที่ใช้กับรอบดวงตาโดยเฉพาะ เพราะผิวบริเวณนี้ค่อนข้างบอบบางกว่าส่วนอื่น ๆ ในร่างกาย และต้องเป็นครีมหรือเซรั่มทาใต้ตาที่ปลอดภัย มีอย. น่าเชื่อถือ

3. มาส์กใต้ตาเป็นประจำ

ในปัจจุบันมีแผ่นชีตมาส์กใต้ตาโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นสูตรบำรุงแบบเข้มข้นกว่าปกติ เมื่อใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง จะช่วยลดเลือนริ้วรอยและรอยดำใต้ตาได้ดี นอกจากนี้ ยังมีสูตรธรรมชาติที่สามารถทำได้เองที่บ้าน เป็นการใช้แตงกวาหั่นเป็นแผ่นแล้ววางประคบที่ดวงตาทั้ง 2 ข้าง ยิ่งแช่เย็นก่อนใช้จะยิ่งช่วยให้รอบดวงตาผ่อนคลายและรอยคล้ำลดลงได้ค่ะ

4. ประคบเย็นลดความคล้ำใต้ตา

ด้วยการใช้แผ่นเจลเย็นช่วยประคบบริเวณดวงตา เพื่อช่วยให้ผ่อนคลาย ลดอาการบวม และลดรอยดำใต้ตา เนื่องจากช่วยลดการขยายตัวของหลอดเลือดดำได้ หรือใครไม่มีแผ่นเจลเย็น ก็สามารถเลือกใช้ช้อนสแตนเลสแช่ช่องเย็นแล้วนำมาประคบที่ดวงตาแทนก็ได้เช่นกัน

5. นอนหนุนหมอนสูง

เลือกใช้หมอนหนุนศีรษะให้ยกสูงขึ้นจากปกติ หรือใช้หมอนใบเล็ก ๆ ซ้อนกับหมอนด้านล่าง เพื่อให้ศีรษะสูงขึ้น เพื่อลดและป้องกันไม่ให้ของเหลวสะสมที่บริเวณใต้ตา ช่วยลดอาการบวมที่ใต้ตาและยังช่วยลดขอบตาดำได้ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ที่ช่วยแก้ปัญหารอบดวงตาได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ นอกจากนี้ ยังเหมาะกับคนที่มีภาวะบวมช้ำจากแผลหลังทำศัลยกรรมที่ใบหน้าได้อีกด้วย

6. ปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์

หลีกเลี่ยงความเครียด นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้กำเริบ รวมถึงลด-งดเว้นการดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ ดื่มน้ำเยอะ ๆ และออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ จะช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้เป็นปกติ ลดอาการบวม รอยดำใต้ตา

บางท่านอาจใช้วิธีการดูแลตัวเองมาทุกรูปแบบแล้ว แต่ปัญหาใต้ตาคล้ำ ใต้ตาดำจากภูมิแพ้ หรือขอบตาดำจากภูมิแพ้ก็ยังไม่สามารถเคลียร์ได้หมด หรือไม่ค่อยเห็นผล ก็อย่าเพิ่งหมดหวังไปค่ะ เพราะในปัจจุบันมีเทคนิคทางการแพทย์ที่ช่วยแก้ไขปัญหาใต้ตาดำ ริ้วรอยร่องลึก รวมถึงถุงใต้ตาได้แบบเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ นั่นก็คือ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ผสานเทคนิคพิเศษเฉพาะตัว Triple Layers Lift ของ Doctor Mek Clinic ที่อาจารย์หมอเมฆ (อาจารย์แพทย์สอนเทคนิคการฉีดสารเติมเต็มของประเทศไทย) เป็นผู้คิดและพัฒนานำมาปรับใช้ให้ลงตัวกับคนไข้เฉพาะบุคคล ซึ่งคุณหมอจะต้องใช้การวิเคราะห์ปัญหาใต้ตาอย่างละเอียดแบบ Case by Case หรือ Personalized Analysis ตามหลักกายวิภาคศาสตร์ หลังทำเห็นผลได้จริง เปลี่ยนจากรอยดำคล้ำใต้ตาให้กลับมากระจ่างใส และยังช่วยลดเลือนร่องลึกใต้ตาได้อีกด้วย ปรับให้ใบหน้าดูสดใสและเด็กลง ที่สำคัญเลยคือ หลังทำบวมช้ำแทบไม่มีเลย ไม่ต้องพักฟื้น ทำเสร็จไปเดินช้อปปิ้งหรือไปทำธุระต่อได้เลยค่ะ เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมมาก ๆ เพราะเห็นผลลัพธ์ได้จริง รวดเร็ว และปลอดภัยค่ะ

ปัญหาขอบตาดำจากภูมิแพ้ หรือใต้ตาหมองคล้ำ ใต้ตาดำจากภูมิแพ้ ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่ส่งผลต่อความสวยงาม ซึ่งอาจทำให้ขาดความมั่นใจ เพราะมองแล้วใบหน้าดูโทรม ดูแก่ก่อนวัย ทั้งนี้การแก้ไขจะต้องเริ่มจากต้นตอของสาเหตุนั่นก็คือ การดูแลสุขภาพ เลี่ยงปัจจัยหรือสิ่งกระตุ้นให้เกิดภูมิแพ้ การใช้ยารักษาอาการ รวมถึงการดูแลผิวรอบดวงตาด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำเยอะ ๆ หมั่นออกกำลังกาย รวมถึงการใช้ตัวช่วยอย่างการฉีด Filler เพื่อช่วยลดเลือนรอยคล้ำใต้ตาที่เหมาะกับคนที่อยากเห็นผลรวดเร็ว หรือใช้วิธีอื่นมาแล้วไม่ได้ผล สำหรับใครที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือปรึกษาแพทย์ได้ฟรี ด้วยการแอดไลน์ LINE : @doctormekclinic (มี @ นำหน้า)