ทาลิปตกร่อง เป็นปัญหาโลกแตกของสาว ๆ หลายคนที่ไม่ว่าจะซื้อลิปสติกแบรนด์ดีขนาดไหนก็ทาได้ไม่สวยสักที ทำให้แต่งหน้ายาก ทั้งยังทำให้ขาดความมั่นใจจากอาการริมฝีปากหลุดลอกเป็นขุย ๆ ซึ่งมักจะมาแบบควบคู่ดูโอ้กับปัญหาทาลิปตกร่อง แต่สาว ๆ ก็อย่าเพิ่งกังวลไปค่ะ เพราะปัญหาทาลิปตกร่องยังมีทางแก้ และที่สำคัญคือ ทำได้ไม่ยากเลยด้วย
ปัญหาทาลิปตกร่องมักมีสาเหตุมาจากริมฝีปากที่แห้ง ขาดความชุ่มชื้น เนื้อริมฝีปากไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน บ้างก็ลอกเป็นขุย ทำให้เนื้อลิปสติกไม่สามารถเกาะอยู่บนผิวปากได้ ซึ่งสาเหตุของปัญหานี้สามารถเกิดได้จาก
- สภาพอากาศที่หนาวหรือแห้ง โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาวหรือสาว ๆ ที่อยู่ในห้องแอร์ทั้งวัน จะสังเกตได้ว่าคนที่อยู่ในอากาศหนาวจะมีโอกาสมีปัญหาทาลิปตกร่องได้ง่ายกว่า
- การเลียริมฝีปาก บางคนเมื่อรู้สึกว่าปากแห้งก็ชอบเลียริมฝีปาก แต่รู้หรือไม่คะว่าพฤติกรรมนี้นอกจากจะไม่ได้ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากแล้ว ยังเป็นการทำให้ปากแห้งกว่าเดิมอีกด้วย
- ดื่มน้ำน้อย คนที่ดื่มน้ำน้อยจะมีโอกาสทาลิปตกร่องได้ง่ายกว่า เนื่องจากริมฝีปากจะแห้งกว่าคนที่ดื่มน้ำเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย อันหมายถึงร่างกายไม่สามารถรักษาความชุ่มชื้นไว้ได้ จำเป็นต้องเติมน้ำโดยด่วน นอกจากนี้ ภาวะขาดน้ำก็มีส่วนเช่นกัน
- ภาวะขาดสารอาหาร อาการจะคล้าย ๆ กับภาวะขาดน้ำ ซึ่งปากแห้งก็เป็นหนึ่งในอาการที่พบได้ นอกจากนี้ยังมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น กระดูกเปราะ ฟันผุ เป็นต้น ใครมีอาการตามนี้แนะนำให้รีบพบแพทย์โดยด่วนเลยค่ะ
- ริมฝีปากระคายเคืองจากผลิตภัณฑ์บางชนิด เช่น ลิปสติก แปรงสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก เป็นต้น จึงควรสังเกตอาการว่าปกติทาลิปตกร่องอยู่แล้ว หรือเพิ่งมาเป็นในช่วงใช้ผลิตภัณฑ์ใดเป็นพิเศษหรือไม่
- การใช้ยาหรืออาหารเสริมบางชนิด เช่น วิตามินเอ เรตินอยด์ หรือยาเคมีบำบัด เป็นต้น เพราะผลข้างเคียงอาจทำให้ปากแห้งได้
- โรคเรื้อรังหรือโรคผิวหนัง อันส่งผลให้ริมฝีปากแห้งหรือระคายเคืองจนทาลิปตกร่อง เช่น โรคผิวหนังอักเสบ โรคแพ้ภูมิตัวเอง เป็นต้น
ทาลิปตกร่องแก้ไขยังไงดี
เมื่อทราบสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาทาลิปตกร่องแล้ว สิ่งที่อยากแนะนำคือ ให้หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านั้นเพื่อไม่ให้ปัญหาหนักขึ้นหรือเรื้อรังมากกว่าเดิม จากนั้นก็ไปดูวิธีแก้ไขกันค่ะ ซึ่งสามารถทำได้ง่าย ๆ ตามนี้เลย
สครับริมฝีปากอย่างสม่ำเสมอ
วิธีนี้จะช่วยกำจัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพแล้วให้หลุดออก ทำให้ผิวริมฝีปากเรียบเนียนมากขึ้น หลังสครับจะพบว่าปากเนียนนุ่ม ไม่เป็นขุยเหมือนเก่า โดยอาจใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับสครับปากโดยเฉพาะ หรือใช้ของจากธรรมชาติอย่างน้ำตาลผสมน้ำผึ้งก็ได้ แนะนำให้สครับปากสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เมื่อทำอย่างต่อเนื่องสามารถลดปัญหาทาลิปตกร่องได้
มาสก์ปากก่อนนอน
วิธีนี้สามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากได้อย่างดี เพราะส่วนใหญ่ลิปมาส์กจะมีสารสกัดที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากอย่างจัดเต็ม แต่เพราะเนื้อลิปมาส์กมักมีความเหนอะสูง จึงแนะนำให้มาส์กเฉพาะตอนกลางคืนก่อนนอน หลังมาส์กทิ้งไว้ทั้งคืน ตื่นเช้ามาก็จะพบว่าริมฝีปากชุ่มชื้นขึ้นมาก สามารถแต่งหน้าทาลิปแบบไม่ต้องกลัวตกร่องเลย
ลิป Primer ช่วยชีวิต
การทาลิป Primer บาง ๆ ทั่วริมฝีปากก่อนแต่งหน้า ช่วยลดปัญหาการทาลิปตกร่องได้ เนื่องจากเนื้อลิป Primer จะเปรียบเสมือนเบสที่ช่วยให้ริมฝีปากเรียบเนียนเสมอกัน เมื่อทาลิปสติกอื่น ๆ ทับลงไปจึงช่วยป้องกันการตกร่องได้
พกลิปบาล์มให้เป็นนิสัย
ลิปบาล์มเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่ช่วยบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้น เมื่อรู้สึกว่าปากแห้งระหว่างวันจึงควรใช้ลิปบาล์มเพื่อเติมความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก รวมถึงใช้ทาทิ้งไว้ก่อนแต่งหน้าด้วย ริมฝีปากจะได้ชุ่มชื้นก่อนทาลิป แต่ทั้งนี้ การเลือกซื้อลิปบาล์มก็ควรระวังส่วนผสมบางอย่างที่อาจทำให้ปากแห้งเป็นขุยกว่าเดิม เช่น เมนทอล ดังนั้นจึงควรเลือกลิปบาล์มที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติจะดีที่สุดค่ะ
ดื่มน้ำเปล่าเยอะ ๆ
ปัจจัยหลักในการเติมความชุ่มชื้นให้ร่างกายก็คือ น้ำเปล่า การดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายจะทำให้ผิวพรรณชุ่มชื้น ริมฝีปากไม่แห้งแตกเป็นขุย นับเป็นการเติมความชุ่มชื้นจากภายในสู่ภายนอกค่ะ
เช็ดลิปสติกออกด้วยรีมูฟเวอร์ทุกครั้ง
วิธีนี้จะเป็นวิธีทำความสะอาดริมฝีปากแบบที่ไม่ทำร้ายให้ริมฝีปากแห้งเป็นขุยกว่าเดิม เนื่องจาก make up remover สามารถเช็ดคราบลิปสติกได้อย่างหมดจดและรวดเร็ว ไม่ต้องเช็ดซ้ำ ๆ แรง ๆ ให้เป็นการทำร้ายริมฝีปากมากกว่าเดิม
แก้ไขปัญหาทาลิปตกร่องด้วย HA Filler เติมความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก
ฟิลเลอร์ปากเป็นหัตถการที่กำลังนิยมในขณะนี้ นอกจากจะสามารถปรับแต่งรูปทรงปากได้สวยดั่งใจ หน้าที่หลักของมันก็คือ การกักเก็บความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก ทำให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม ชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา ทั้งยังแก้ไขปัญหาริ้วรอยบริเวณริมฝีปาก ทำให้ริมฝีปากเรียบเนียน ทาลิปไม่ตกร่อง จุดเด่นของการเติมความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากด้วยวิธีนี้คือ ริมฝีปากจะดูชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังฉีดโดยไม่ต้องกลัวว่าจะทิ้งรอยแผลหลังทำ และนอกจากสารไฮยาลูรอนิก แอซิดจะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ใต้ผิวได้ตลอดเวลาแล้ว มันยังช่วยสร้างเส้นใยคอลลาเจน ปกปิดความหมองคล้ำของริมฝีปาก ทำให้ริมฝีปากแลดูสุขภาพดีอยู่เสมออีกด้วยค่ะ
หลังฉีดผลลัพธ์จะสามารถอยู่ได้นานประมาณ 8-12 เดือน (ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล) ก่อนจะสลายออกจากร่างกายได้เองโดยไม่ทิ้งสารตกค้าง จึงไม่เป็นอันตราย หลังสลายก็ไม่ทำให้ริมฝีปากแห้งกว่าเดิมด้วย การฉีดฟิลเลอร์ปากจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีแก้ปัญหาทาลิปตกร่องระยะยาวที่อยากแนะนำเลยค่ะ