ผิวที่หย่อนคล้อย ผิวย้อยลงมา ไม่เต่งตึง กระชับ สามารถทำให้ใบหน้าเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นได้ ยิ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นบนใบหน้าด้วยนั้น ยิ่งเด่นชัด ยากที่จะปกปิด เช่น ปัญหาหางคิ้วตก หางตาหย่อน ก็เป็นอีกหนึ่งตัวการสำคัญที่ทำให้ใบหน้าดูไม่สดใส หน้าดูแก่กว่าวัย เพราะใต้ชั้นผิวหนังของเรานั้นมีส่วนประกอบหลายอย่างที่ช่วยพยุงผิวให้เต่งตึง อิ่มฟู เข้าที่ไว้ หากองค์ประกอบเหล่านี้เกิดการเปลี่ยนแปลงย่อมส่งผลให้เกิดปัญหาขึ้นได้ เช่น ขมับยุบ ขมับตอบ ดูเป็นแอ่ง จึงนำมาสู่ปัญหาต่าง ๆ ตามมา ไปดูกันดีกว่าค่ะว่าสามารถเกิดขึ้นได้จากอะไรบ้าง
ต้นเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาหางคิ้วตก หางตาหย่อน
เมื่อเกิดปัญหาผิวไม่กระชับขึ้น จึงทำให้ใบหน้าดูห้อยย้อย ดวงตาไม่สดใส เห็นชั้นตาพับ หน้าดูเศร้า เสียความมั่นใจ เมื่อหางคิ้วและหางตาตก ย่อมแสดงให้เห็นถึงว่าบริเวณด้านบนขึ้นไป เช่น หน้าผาก ขมับ ย่อมมีการหย่อน หรือเกิดการยุบตัวลง แต่ก่อนที่เราจะไปหาวิธีแก้ไข เราควรรู้จักสาเหตุกันก่อนดีกว่าค่ะ เพื่อจะได้หาวิธีที่เหมาะสมกับปัญหามากที่สุด ผลลัพธ์จะได้ออกมาดีที่สุดดูเป็นธรรมชาติ
- กล้ามเนื้อบริเวณรอบดวงตา – กล้ามเนื้อที่อยู่ในแต่ละตำแหน่งนอกจากจะช่วยพยุงผิวด้วยแล้ว ยังเป็นส่วนที่ช่วยให้ใบหน้าขยับตามอารมณ์ หรือการแสดงสีหน้า เมื่อกล้ามเนื้อเกิดการคลายตัวลงก็ส่งผลให้ผิวบริเวณนั้นหย่อนคล้อยลงได้ด้วยเช่นกัน
- ไขมันยุบตัว – อีกหนึ่งส่วนที่ช่วยให้ผิวดูเต่งตึง เมื่อเกิดการสลายไปย่อมทำให้เกิดการยุบตัวของผิวดูเป็นแอ่ง บริเวณนั้นดูตอบลง เช่น ขมับยุบ เป็นแอ่ง ทำให้ผิวบริเวณใกล้เคียงเกิดการหย่อนคล้อยได้เช่นกัน
- คอลลาเจนหาย – เส้นใยคอลลาเจนที่แน่นขึ้นย่อมทำให้ผิวกระชับ เต่งตึง เมื่อเกิดการสลายตัวหรือสร้างได้น้อยลง ผิวบริเวณนั้นย่อมหย่อนคล้อย ผิวไม่เต็ม ไม่อิ่มฟูอย่างที่เป็น
- มลภาวะ – อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องพบเจอในชีวิตประจำวันซึ่งหลีกเลี่ยงได้ยาก และเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาผิว โดยสามารถส่งผลไปถึงใต้ชั้นผิวได้ด้วยเช่นกัน
- อาหารที่รับประทาน – เป็นอีกสิ่งสำคัญที่หลายคนมองข้าม โดยสิ่งที่เรานำเข้าสู่ร่างกายไม่ว่าจะเป็นอาหาร เครื่องดื่ม รวมถึงบุหรี่ เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่สามารถส่งผลเสียกับร่างกายและผิวได้เช่นกัน หากนำเข้าสู่ร่างกายในปริมาณที่มากเกินความพอดี เช่น การดื่มแอลกอฮอล์มีผลทำให้ผิวเสื่อมโทรมลง ไม่เพียงแค่ผิวชั้นนอกเท่านั้น ยังส่งผลกระทบไปถึงใต้ชั้นผิวลึกลงไปได้อีก หากเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์กับร่างกาย สารอาหาร แร่ธาตุ วิตามินต่าง ๆ ย่อมส่งผลกับระบบฟื้นฟู ซ่อมแซมของเซลล์ผิวได้เป็นอย่างดี
- อายุที่เพิ่มขึ้น – ในแต่ละปีที่อายุเพิ่มขึ้น นั่นย่อมส่งผลกับระบบร่างกาย และผิวพรรณอย่างแน่นอน ทำให้เซลล์ผิวเกิดการเสื่อมตัวลง การผลิตคอลลาเจน การฟื้นฟู รวมถึงการซ่อมแซมผิวทำได้น้อยลง ซึ่งเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงสิ่งนี้ได้เลย
ฟื้นฟูหน้าพังให้ผิวกลับมาอิ่มฟู เต็มขึ้น ใบหน้าได้รูปสมส่วน
บอกเลยค่ะว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับใบหน้า มีหลากหลายวิธีแก้ไข จะช่วยได้มากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับระดับของปัญหาและวิธีแก้ไขด้วยค่ะ เพราะแต่ละวิธีก็สามารถช่วยได้ในแต่ละระดับที่แตกต่างกัน ไปดูกันค่ะว่ามีวิธีไหนที่จะช่วยให้ปัญหาหางตาตก หางคิ้วตก ที่เกิดขึ้นจากบริเวณขมับตอบได้บ้าง
การแต่งหน้า – เป็นการแก้ไขที่ปลายเหตุ ช่วยได้ชั่วคราวเท่านั้นค่ะ เพราะเมื่อล้างเครื่องสำอางออกแล้วหน้าก็จะกลับมาเหมือนเดิม และหากเราไม่ชำนาญมากพอจะยิ่งไปเน้นหางตากับหางคิ้วที่ตกให้ดูชัดมากยิ่งขึ้นไปอีก โดยบริเวณขมับตอบสามารถใช้เครื่องสำอางทำให้ดูเต็มขึ้นได้ค่ะ แต่หากเข้ามาดูใกล้ ๆ ก็จะเห็นว่าบริเวณขมับและหางตาดูไม่เป็นธรรมชาติเท่าที่ควร
เทปดึงหน้า – อีกเทรนด์ฮิตของสาว ๆ ที่ต้องการดึงหางตา หางคิ้ว และยกหน้าให้ดูกระชับขึ้นชั่วคราว เป็นการใช้เทปดึงให้ผิวตึงขึ้น ถึงแม้จะหน้าตึงแต่ขมับก็ยังคงดูตอบลงอยู่เช่นเดิม รูปหน้าจึงยังดูไม่ละมุน ไม่สมส่วน โดยหากระหว่างวันเทปดึงหน้าหลุด ผิวก็จะกลับมาหย่อนเหมือนเดิม
การผ่าตัด – ดึงหน้าด้วยการศัลยกรรมสามารถช่วยให้ใบหน้าดูตึงขึ้น กระชับขึ้นได้ แต่ก็ไม่สามารถช่วยเติมส่วนที่ยุบหรือตอบให้กลับมาอิ่มฟูขึ้นได้ รวมถึงใช้เวลาทำนาน หลังทำต้องมีการพักฟื้น หากต้องการแก้ไขก็ต้องทำการผ่าตัด หน้าตึงจริงค่ะ แต่หลายจุดยังตอบอยู่ หน้าจึงไม่ละมุนอย่างที่ควรจะเป็น
อย่าเพิ่งหนักใจกันไปค่ะ ปัญหาขมับตอบ จนทำให้หางตาตก หางคิ้วหย่อน สามารถแก้ไขได้ง่าย ๆ ด้วยฟิลเลอร์ขมับ หนึ่งในวิธีการที่ดีที่สุดในการฟื้นฟูและเติมเต็มผิว ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวให้กลับคืนมา เส้นใยคอลลาเจนแน่นขึ้น ผิวจึงเต่งตึงกระชับ นอกจากนั้นยังสามารถวางตำแหน่งฟิลเลอร์ในชั้นกระดูก รวมไปถึงชั้นผิวต่าง ๆ ที่แตกต่างกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยปรับใบหน้าให้เข้ารูปสมส่วน หน้าละมุน ดูหวาน เป็นธรรมชาติ ผิวเต่งตึงกระชับมากขึ้น หน้าจึงไม่ดูแข็ง หันมุมไหนก็เอาอยู่ หลังทำสามารถเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้ทันที (ขึ้นอยู่กับแต่ละรายบุคคล) ไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตและแต่งหน้าทำงานได้ตามปกติ หากทำแล้วอยากแก้ไขหรืออยากเติมเพิ่มก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องผ่าตัด นับว่าเป็นอีกวิธีที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน มีประสิทธิภาพสูง และปลอดภัยมาก ๆ ค่ะ