ถุงใต้ตาเป็นหนึ่งในปัญหาที่คอยกวนใจ ทำให้ใบหน้าแลดูแก่ก่อนวัย พร้อมแนะนำเทคนิควิธีลดถุงใต้ตา วิธีแก้ถุงใต้ตา เพราะเป็นอีกหนึ่งตำแหน่งที่เป็นจุดเด่นบนใบหน้า ซึ่งหน้าเราจะดูเด็กสดใสหรือดูแก่ก่อนวัย ก็ต้องวัดกันตรงนี้ค่ะ แต่ก็ไม่วายพบเจอกับปัญหาต่าง ๆ บริเวณใต้ตาทั้งริ้วรอย ร่อยย่น รอยคล้ำ เกิดเป็นถุงบริเวณใต้ตา แก้ไขยาก ถึงแม้ว่จะใช้เครื่องสำอางปิดก็ยังมองเห็นอยู่ดี และยังดูเหนื่อยโทรม ในบทความนี้จึงขอพาทุกคนไปทำความรู้จักว่ามีลักษณะแบบไหนกันบ้าง มีที่มาจากสาเหตุอะไรบ้าง และวิธีการลดปัญหาอย่างได้ผลทั้งวิธีที่ทำได้ด้วยตัวเอง รวมถึงวิธีทางการแพทย์ที่ทำแล้วเห็นผลรวดเร็ว ไม่ต้องผ่าตัด และยังช่วยเคลียร์ครบทั้งเรื่องรอยดำ เส้นริ้วรอย ช่วยให้หน้าดูเด็กลงค่ะ
ถุงใต้ตา (Lower Eyelid Bags) จะเป็นลักษณะที่ผิวหนังบริเวณใต้ตานูนป่องขึ้นมา จนมองเห็นเป็นถุงที่บวมและเกิดขึ้นบริเวณขอบตาล่าง โดยเกิดจากกระเปาะถุงไขมันใต้ตาขนาดใหญ่ที่ตกลงมา ซึ่งมีความหย่อนคล้อยบริเวณใต้ตาจนเห็นได้ชัด รวมถึงมีเนื้อที่ค่อนข้างกว้างตกลงมา และมักจะมีปัญหาผิวใต้ตาที่ดำคล้ำ ริ้วรอยร่องลึกตามมาด้วย ถึงแม้ว่าภาวะนี้จะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่กลับส่งผลต่อความสวยงาม ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยเหมือนคนอดนอน หน้าโทรม แลดูแก่ก่อนวัย ไม่สดใส
นอกจากนี้ การปล่อยให้เกิดปัญหาถุงบริเวณใต้ตานาน ๆ ผิวหนังและเส้นเอ็นกล้ามเนื้อบริเวณเปลือกตาด้านล่างที่เคยพยุงกระเปาะถุงไขมันและของเหลวไว้ ก็จะเสื่อมโทรมตามอายุที่มากขึ้น ถุงที่เกิดบริเวณใต้ตาจะเริ่มห้อยย้อยตกลงมาเรื่อย ๆ จนเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น เราจึงควรเริ่มกลับมาใส่ใจดูแลผิวบริเวณรอบดวงตากันตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อไม่ให้ปัญหาถุงใต้ตารุนแรงยิ่งขึ้นจนทำให้เสียเซลฟ์ค่ะ
เช็กให้ดี! ถุงใต้ตามีทั้งแบบเทียมและแบบแท้
หลายคนมักเข้าใจผิดว่า ปัญหาถุงใต้ตาที่เกิดขึ้นนั้นเหมือนกันหมดทุกคน หรืออาจเข้าใจว่าคนสูงอายุเท่านั้นถึงจะมีปัญหานี้ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วถุงที่เกิดบริเวณใต้ตาจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท โดยแต่ละประเภทนั้นมีสาเหตุที่มาที่ไปแตกต่างกัน ดังนี้
1. ถุงใต้ตาเทียม
ถุงใต้ตาเทียมเป็นชนิดที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว ซึ่งมักเกิดจากการทำพฤติกรรมบางอย่างที่ทำให้ใต้ตาบวม เช่น การร้องไห้บ่อย การที่ชอบขยี้ตา การใช้สายตาหนักเป็นระยะเวลานาน พักผ่อนไม่เพียงพอ อดนอน หรือในรายที่มีปัญหาเรื่องระบบไหลเวียนเลือดผิดปกติ ทำให้มีอาการบวมได้ง่ายกว่าปกติค่ะ นอกจากนี้ คนที่ชอบทานอาหารรสชาติจัด เค็มจัด รวมถึงการดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดได้ค่ะ
2. ถุงใต้ตาแท้
ส่วนภาวะของถุงใต้ตาแท้นั้น มักจะพบได้ในคนที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป โดยส่วนมากมักจะเกิดจากกรรมพันธุ์ที่ได้รับถ่ายทอดมาจากคนในครอบครัว มักจะมีโอกาสเกิดมากกว่าคนทั่วไปค่ะ สังเกตได้จากพ่อแม่พี่น้องในครอบครัวที่มีประวัติการเกิดถุงบริเวณใต้ตา ซึ่งอาจเกิดจากระบบต่อมไร้ท่อทำงานผิดปกติ ทำให้ไขมันและของเหลวไหลกองรวมกันที่กระเปาะถุงใต้ตา รวมถึงสาเหตุของอายุที่มากขึ้นที่ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย มีไขมันตกลงมา ทำให้เห็นเป็นถุงที่ชัดเจนมากบริเวณใต้ตา
รู้หรือไม่! อายุน้อยก็มีถุงใต้ตาได้
โดยปกติแล้ว คนเราทุกคนมีถุงใต้ตาอยู่แล้วค่ะ เพียงแต่ว่าในวัยอายุน้อย ๆ นั้น เราจะมีกล้ามเนื้อที่บริเวณเปลือกตาที่คอยยกหรือพยุงตัว ไม่ให้ไขมันและของเหลวไหลมาบริเวณกระเปาะใต้ตา ทำให้ผิวบริเวณใต้ตามีความเรียบเนียน เต่งตึง ดูกระจ่างใส แต่ใช่ว่าในคนอายุน้อยจะไม่มีปัญหานี้นะคะ อย่างที่บอกไว้ในตอนต้นว่าภาวะของถุงใต้ตาแท้นั้นสามารถพบได้ในอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป ซึ่งบางคนนั้นมีความผิดปกติของกล้ามเนื้อเปลือกตาที่มีความอ่อนแอ ทำให้พวกไขมันและของเหลวต่างไหลมากองรวมกันบริเวณใต้ตา จนเกิดเป็นถุงบวมนูนขึ้นบริเวณใต้ตาได้นั่นเองค่ะ แต่ทั้งนี้ ในวัยที่ยังไม่สูงมากนักและมีปัญหานี้ สามารถดูแลตัวเองตั้งแต่เนิ่น ๆ ด้วยการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดถุงบริเวณใต้ตา บำรุงและฟื้นฟูผิวรอบดวงตาด้วยผลิตภัณฑ์ครีมหรือเซรั่มที่ดูแลผิวใต้ตาโดยเฉพาะ การนวดใต้ตาเป็นลดอาการบวม ก็จะช่วยลดและชะลอความเสื่อมของผิวหนังใต้ตาได้ดีกว่าคนที่อายุเยอะ ๆ ค่ะ
9 วิธีแก้ปัญหาถุงใต้ตา หน้าดูสดใส เด็กลง
1. เลือกใช้อายครีมบำรุงใต้ตา
ในช่วงวัย 20 ปี ก็สามารถเริ่มต้นดูแลตัวเองง่าย ๆ ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ หรืออายครีมทาบำรุงบริเวณรอบดวงตาและใต้ตา หรือหากมีถุงใต้ตาแล้ว ควรเลือกใช้อายครีมที่มีคุณสมบัติช่วยคงความชุ่มชื่นให้ผิว ลดเลือนริ้วรอย ลดความหย่อนคล้อยเหี่ยวย่น เมื่อทาเป็นประจำหรือเริ่มทาตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็จะช่วยลดปัญหานี้ได้
2. เติมความชุ่มชื่น
ความชุ่มชื่นของผิวจะช่วยชะลอความเสื่อมของผิวพรรณได้ รวมถึงผิวบริเวณรอบดวงตา การเติมน้ำให้ผิวด้วยการทาครีมใต้ตาและการดื่มน้ำเยอะ ๆ ให้ได้วันละ 2-3 ลิตร หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดที่อาจทำให้ผิวเสื่อมและแห้งเสีย รวมถึงการเช็ดเครื่องสำอางรอบดวงตาอย่างเบามือ ก็จะช่วยถนอมผิวใต้ตาและคงความชุ่มชื่นไว้ได้
3. ประคบเย็น
วิธีลดถุงใต้ตาบวมด้วยการประคบเย็น เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่แนะนำเลยค่ะ ด้วยการใช้แผ่นเจลเย็น หรือผ้าชุบน้ำเย็น หรือถ้าไม่มีใช้ช้อนสแตนเลสแช่เย็น แล้วนำมาประกอบบริเวณดวงตาจะช่วยให้ผ่อนคลาย และยังลดอาการบวมของใต้ตาได้เป็นอย่างดี ใช้เวลาเพียง 10-15 นาที ทำเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง
4. ประคบอุ่น
การประคบอุ่นจะมีส่วนช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานเป็นปกติ ลดอาการบวม โดยการใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นบิดหมาด ๆ หรือใช้ถุงชาที่ชงแล้วและยังอุ่นอยู่ หรือสะดวกใช้สำลีชุบกับน้ำเกลือที่ผสมกับน้ำอุ่น แล้วนำมาประคบที่บริเวณดวงตา ก็จะช่วยในเรื่องของความผ่อนคลาย กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ลดความบวม ปรับผิวใต้ตาให้กลับมาเรียบเนียน
5. มาส์กด้วยแตงกวา
วิธีลดถุงใต้ตาแบบธรรมชาติด้วยแตงกวา ซึ่งจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื่น ทำให้ผิวสบาย ผ่อนคลาย ซึ่งนิยมนำมาใช้บำรุงผิวอยู่แล้วรวมถึงบริเวณใต้ตา แนะนำให้หั่นแตงกวาเป็นแผ่นชิ้นเล็กแล้วนำมาวางที่ดวงตา และยิ่งเป็นแตงกวาที่แช่เย็นมาแล้วก็จะยิ่งสบายผิวมากยิ่งขึ้น ใช้เวลามาส์กเพียง 15 นาที จะช่วยลดอาการบวมใต้ตาหรือถุงใต้ตาเทียมได้
6. นอนหลับพักผ่อนให้พอ
การพักผ่อนให้เพียงตามที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน จะช่วยทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างปกติ ระบบไหลเวียนเลือดดี และช่วยให้ดวงตากลับมาสวยงาม ผิวใต้ตากระจ่างใส ไม่หมองคล้ำ ลดอาการบวมของถุงบริเวณใต้ตา และยังช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าของร่างกายและผิวรอบดวงตา
7. ออกกำลังกายเป็นประจำ
หากออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำอย่างน้อย 3-5 วันต่อสัปดาห์ จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต ซึ่งนอกจากจะช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังช่วยให้ผิวพรรณกลับมาอ่อนวัย ผิวกระจ่างใส สุขภาพดี รวมถึงบริเวณใต้ตา ช่วยลดอาการบวม ฟื้นฟูผิว ลดการอักเสบ
8. นวดลดถุงใต้ตา
ใช้นิ้วกลางและนิ้วนางแตะนวดกดเบา ๆ ที่บริเวณใต้ตา ซึ่งสามารถทำร่วมกับการทาอายครีม โดยเริ่มนวดที่กลางใต้ตาแล้วลากนิ้วเคลื่อนไปทางหัวตาถึงหางตา 10 ครั้งต่อข้าง เมื่อทำอย่างเป็นประจำและต่อเนื่องจะช่วยลดอาการบวมของถุงบริเวณใต้ตาได้ หรือในรายที่ยังไม่มีปัญหานี้ ก็สามารถนวดเพื่อป้องกันและชะลอการเกิดของถุงขึ้นบริเวณใต้ตาได้ดีค่ะ
9. ใช้เทคนิคทางการแพทย์ ด้วยสารเติมเต็ม
ในรายที่มีปัญหาถุงใต้ตาแท้ อาจเคยใช้มาแล้วหลากหลายวิธีที่ทำได้ด้วยตัวเอง หรือวิธีข้างต้นที่ได้แนะนำ แต่ก็ยังไม่ได้ผล ซึ่งต้องพึ่งวิธีหรือเทคนิคทางการแพทย์ที่ช่วยแก้ไขปัญหานี้ ทั้งจากสาเหตุของกรรมพันธุ์และอายุที่มากขึ้นได้ โดยหนึ่งในเทคนิคที่ได้รับความนิยมเนื่องจากไม่ต้องผ่าตัด นั่นก็คือ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
เป็นเทคนิคการใช้สารเติมเต็มในกลุ่มของกรดไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) เติมผิวให้เรียบเนียนขึ้น แก้ปัญหาถุงใต้ตา นอกจากนี้ ยังช่วยเคลียร์ปัญหาเรื่องรอยคล้ำใต้ตา ริ้วรอยร่องลึก ปรับผิวรอบดวงตาให้สดใส หน้าดูเด็กลง ซึ่งเป็นเทคนิคที่หลายคนให้ความสนใจรวมถึงบอกต่อกันเยอะ เพราะสะดวก เห็นผลได้เลยหลังทำ ไม่ต้องผ่าตัด เหมาะกับคนที่มีปัญหานี้โดยเฉพาะและอยากหาวิธีลดถุงใต้ตา วิธีแก้ถุงใต้ตาด้วยเทคนิคที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อน และอยากได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว มีความปลอดภัย ทั้งนี้ ควรอยู่ภายใต้การดูแลรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง จึงจะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดแม่นยำ ไม่เสี่ยงกับผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ค่ะ (สอบถามเพิ่มเติมได้และรับการประเมินปัญหาใต้ตากับอาจารย์แพทย์สอนเทคนิคฉีดปรับรูปหน้าของประเทศไทย LINE : @doctormekclinic)
สรุป
ปัญหาถุงใต้ตาเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทุกเพศทุกวัย ยิ่งอายุน้อยก็ยิ่งต้องดูแลตัวเองตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อป้องกัน ชะลอการเกิดปัญหานี้ ด้วยการบำรุงฟื้นฟูผิวรอบดวงตาอย่างถูกวิธี หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงทำร้ายผิว ด้วย 9 วิธีแก้ถุงใต้ตา ซึ่งวิธีลดถุงใต้ตาที่เราแนะนำในวันนี้ เพื่อผิวใต้ตาที่เรียบเนียน กระจ่างใส ใบหน้าแลดูอ่อนวัย แต่หากใช้วิธีธรรมชาติด้วยตัวเองแล้วยังไม่เห็นผล อยากจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นแบบรวดเร็ว เห็นผลลัพธ์ได้จริง แนะนำให้พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการตรวจวิเคราะห์อย่างละเอียดและใช้เทคนิคการรักษาที่เหมาะสม เพื่อการแก้ไขอย่างตรงจุดและมีความปลอดภัยค่ะ