คางสองชั้น
เจาะลึกการฉีดฟิลเลอร์คางและข้อควรรู้ก่อนฉีด
คางเป็นอีกบริเวณหนึ่งที่ช่วยปรับให้ใบหน้าละมุนได้สัดส่วน การฉีดฟิลเลอร์คางจึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยปรับรูปหน้าได้ ก่อนที่จะเลือกฉีด Filler คางที่ไหนดี มาทำความรู้จักหัตถการ Filler คางนี้เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจกันดีกว่าค่ะ ว่าฉีดแล้วช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง หรือสามารถปรับรูปทรงคางให้เข้ากับรูปหน้าได้อย่างไรโดยที่ไม่ต้องผ่าตัด จะตอบโจทย์ความต้องการได้มากขนาดไหน หรือมีข้อควรรู้และข้อปฏิบัติอย่างไรบ้าง เนื้อหาในบทความนี้เราได้รวบรวมข้อมูลรายละเอียดและคำถามเกี่ยวกับการทำหัตถการฟิลเลอร์คางมาไว้ให้แล้วค่ะ
ฟิลเลอร์คาง คือ อีกหนึ่งหัตถการที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน เพิ่มมิติให้หน้าดูยาวเรียวสวยขึ้นด้วยการฉีด HA-Filler ของแท้ เข้าไปใต้ผิวหนังบริเวณคาง เพื่อเข้าไปปรับทรง ปั้นรูปคางใหม่ให้รับกับใบหน้าของแต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป Fillerคางปรับรูปหน้าเป็นการทำเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดูดีเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องพักฟื้นก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
การฉีด Filler คางช่วยอะไร
เมื่อพูดถึงเรื่องของการปรับรูปหน้า หลายคนคงคิดถึงการผ่าตัดศัลยกรรม หรือการทำหัตถการอย่างอื่นที่เป็นการยกหน้าหรือดึงหน้าขึ้น เพื่อให้ใบหน้าได้รูปทรงตามที่ต้องการ โดยมองข้ามจุดหนึ่งที่สำคัญของการฉีด Filler คางเพื่อปรับรูปหน้า ซึ่งสัดส่วนของหน้าที่เรียกว่าสัดส่วนใบหน้าทองคำที่สมบูรณ์แบบนั้น ประกอบด้วยใบหน้าส่วนบน ใบหน้าส่วนกลาง และใบหน้าส่วนล่าง โดยต้องมีความรับกันพอดี 1:1:1 ไม่มีส่วนใดมากเกินกว่ากัน ในส่วนของคางจึงถูกรวมไว้ในใบหน้าส่วนล่าง ที่สามารถช่วยปรับเปลี่ยนใบหน้าให้เกิดความสมดุลขึ้นได้
คางแบบไหนที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์
ถือได้ว่าคางเป็นอีกหนึ่งจุดที่นำสายตา ช่วยทำให้ใบหน้าดูเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด คนไข้หลาย ๆ ท่านก็มักจะฉีดฟิลเลอร์คางพร้อมกับปรับกรอบหน้าหรือบริเวณกรามไปด้วย เพื่อให้ได้คางที่สมส่วนรับกับใบหน้า โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินให้ว่ารูปหน้าของคนไข้เหมาะกับทำอะไรบ้าง รวมถึงนำความต้องการของคนไข้มาประกอบการวิเคราะห์หาทรงคางที่เหมาะกับใบหน้าคนไข้มากที่สุด ซึ่งทรงคางก็มีหลายแบบด้วยกัน ไปดูกันดีกว่าค่ะว่ามีทรงไหนบ้าง
หรือที่เรียกว่าเหนียง สามารถเกิดขึ้นได้กับทั้งคนที่มีน้ำหนักตัวเยอะ รวมไปถึงคนผอมได้ด้วยเช่นกัน เกิดขึ้นได้จากทั้งการที่มีไขมันสะสมเยอะและการหย่อนคล้อยของผิวที่ทำให้ผิวห้อยลงมา
คางบุ๋ม
มีสาเหตุมาจากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อบริเวณคาง จนเกิดเป็นก้อนขึ้นมา ทำให้เกิดเป็นร่องตรงกลางที่คาง รวมไปถึงคาง 2 ข้างไม่เท่ากัน ในบางรายอาจเกิดลักษณะของผิวบริเวณคางไม่เรียบเนียน เป็นคลื่นคล้ายผิวเปลือกส้ม
คางสั้น คางตัด
เกิดจากกระดูกคางที่มีลักษณะสั้น หรือมีลักษณะตัดตรง จนทำให้หน้าดูกลม หน้าดูสั้น ไม่สมส่วน หน้าจึงดูไม่ละมุน
คางใหญ่ คางเหลี่ยม
ทำให้ใบหน้าดูบาน กรามดูกว้าง ไม่สมส่วน มักจะมาพร้อมกับลักษณะของคางสั้น หน้าจึงไม่มีความสมดุล ทำให้หน้าดูกว้างและบานออก
คางแบบไหนที่ไม่เหมาะในการฉีด
ลักษณะคางที่ไม่เหมาะสำหรับฉีดฟิลเลอร์ คือ คนที่มีรูปคางสั้นมาก ๆ เพราะหากเติมเต็มเพิ่มความยาวคางเกิน 1 เซนติเมตร แม้ใช้ผลิตภัณฑ์หรือยี่ห้อที่ได้มาตรฐาน ก็อาจทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ดูไม่เป็นธรรมชาติ หรือเกิดปัญหาคางยาว ผิดรูป ห้อยย้อยลงมาได้ ดังนั้นผู้ที่มีปัญหาคางสั้นมาก ๆ แนะนำให้ใช้วิธีการเสริมคางด้วยการผ่าตัดน่าจะตอบโจทย์มากกว่าค่ะ
ลักษณะคางที่ดีและไม่ดี
นอกจากคางที่สวยสมส่วมที่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้เราได้แล้ว เรื่องของโหงวเฮ้งและความเชื่อก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่หลายคนให้ความสำคัญ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อแต่ละบุคคล โดยเราสามารถเลือกทรงคางที่ชอบให้ตรงกับโหงวเฮ้งที่ดี เพื่อให้รับกับใบหน้าของเราทั้งยังช่วยบ่งบอกถึงอุปนิสัย และเสริมความเฮงได้อีกด้วย ไปดูลักษณะคางที่ดีและคางที่ไม่ดีว่ามีแบบไหนกันบ้างค่ะ
ลักษณะของคางที่ดี
- คางกลมมน บ่งบอกถึงว่าเป็นคนที่มีความโอบอ้อม เป็นคนที่ใจดี ถ่อมตัว
- คางนูน (ต้องเป็นการนูนจากเนื้อคางไม่ใช่กระดูกนูนปูดออกมา) บ่งบอกว่าเป็นคนมีวาสนา ฉลาด รักสวยรักงาม มีเสน่ห์ ใจกว้าง
ลักษณะของคางที่ไม่ดี
- คางสองชั้น มีความเชื่อบ่งบอกว่าเป็นคนที่เกียจคร้าน ไม่ค่อยกระตือรือร้น มีความรับผิดชอบน้อย
- คางแหลม มีลักษณะนิสัยไม่ค่อยประนีประนอม ทำทุกอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตน
- คางหลบ คางสั้น มีนิสัยไม่ค่อยเข้าสังคม มีมนุษย์สัมพันธ์ต่ำ ไม่ค่อยอดทน ขี้กังวล
การเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสมในการฉีดคาง
ควรเลือกฉีดฟิลเลอร์คาง ยี่ห้อไหนดี ถือเป็นเรื่องที่สำคัญอยู่ไม่น้อย เพราะแต่ละยี่ห้อก็มีรุ่นที่แตกต่างกันออกไปมากมาย โดยการเลือก Filler คางยี่ห้อไหนดี ควรต้องอยู่ภายใต้การดูแลของคุณหมอผู้มีความเชี่ยวชาญเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์และมีประสบการณ์ที่มากพอ จึงจะเลือกยี่ห้อที่มีโมเลกุลที่เหมาะสมกับปัญหา รวมไปถึงสภาพผิวที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละรายบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีที่สุด ปลอดภัย และเหมาะกับคนไข้แต่ละคน
Restylane
ฟิลเลอร์ที่มีหลากหลายรุ่นคุณสมบัติให้เลือกใช้ตามความต้องการ สามารถช่วยเติมเต็มในส่วนต่าง ๆ ได้ดี ทั้งปรับรูปหน้า สร้างมิติ เติมเต็มผิวให้เรียบเนียน ยกกระชับ ไม่หย่อนคล้อย รวมถึงรุ่นที่ช่วยบูสต์ผิวให้กระจ่างใสขึ้นอีกด้วย โดยมีรุ่นที่แนะนำสำหรับฉีดคางเพียงรุ่นเดียว
- Restylane-Lyft เป็นรุ่นที่มีขนาดโมเลกุลใหญ่ เหมาะใช้ปรับแต่งรูปหน้า ช่วยยกกระชับ เก็บกรอบหน้า เติมเต็มโวลุ่มช่วยให้หน้าดูคมชัด มีมิติมากขึ้น สามารถปั้นทรงขึ้นรูปได้ดีอีกด้วย
Juvéderm
อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติหลายรุ่นด้วยกัน ถูกพัฒนาขึ้นด้วยเทคโนโลยีเฉพาะที่ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการขยับและยึดเกาะได้ดี โมเลกุลมีความอุ้มน้ำสูง จึงสามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมกับปัญหาที่หลากหลาย แตกต่างไปในแต่ละรายบุคคลไม่ว่าจะเป็นช่วยยกกระชับ เพิ่มมิติให้ใบหน้า หรือเติมเต็มให้ผิวเรียบเนียนกระจ่างใส สามารถช่วยตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างครบถ้วน
- Juvéderm-Voluma เป็นรุ่นที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ ช่วยปรับรูปหน้า ยกกระชับ เติม V-Shape ให้กรอบหน้าชัดขึ้น หน้าเรียวดูมีมิติมากขึ้น สามารถนำไปใช้ฉีดคางได้
- Juvéderm-Volux เป็นอีกรุ่นที่มีขนาดโมเลกุลใหญ่ เนื้อมีความหนัก ขึ้นรูปง่าย ปั้นทรงได้ดี เหมาะกับฉีดใกล้บริเวณกระดูก สามารถเติมบริเวณกราม เพิ่มความคมชัดให้หน้าดูมีมิติ
Belotero
เป็นยี่ห้อที่ถึงแม้จะมีรุ่นฟิลเลอร์ให้เลือกน้อย แต่สามารถตอบโจทย์ความต้องการแก้ไขปัญหาได้ครบไม่แพ้ยี่ห้ออื่น ๆ แก้ไขปัญหาหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีโมเลกุลของฟิลเลอร์ที่แตกต่างกัน แพทย์จึงสามารถเลือกใช้ให้ตรงกับสภาพปัญหาที่ต้องการแก้ไข
- Belotero-Volume มีคุณสมบัติที่เหมาะกับการใช้ปรับรูปหน้า หรือเติมเต็มในบริเวณใกล้กระดูกและผิวชั้นลึก สามารถนำไปฉีดคางได้
Neuramis
ฟิลเลอร์ที่มีเทคโนโลยีการผลิตที่ช่วยให้เนื้อเจลมีความบริสุทธ์และปลอดภัยสูง ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ แต่ว่ามีเพียง 3 รุ่นที่ผ่าน อย. ไทย และมีขนาดโมเลกุลที่ใหญ่ เนื้อค่อนข้างแข็ง ทำให้บริเวณที่สามารถฉีดได้อาจจะไม่หลากหลายเท่ายี่ห้ออื่น ๆ แต่สามารถขึ้นทรงได้ดี ปั้นทรงได้ง่าย เหมาะกับฉีดในชั้นผิวลึกเพื่อสร้างฐาน ทำให้เป็นอีกยี่ห้อที่ยังคงได้รับความนิยม
- Neuramis-Deep เป็นผลิตภัณฑ์ที่เนื้อเจลมีความแข็งระดับปานกลาง เนื้อฟิลเลอร์มีความฟู สามารถใช้เติมเต็มร่องลึกต่าง ๆ บนใบหน้าได้ดี นำไปฉีดคางได้ แต่เป็นรุ่นที่ไม่มีส่วนผสมของยาชา
- Neuramis-Deep-Lidocaine มีคุณสมบัติเหมือนกับรุ่น Deep ที่แตกต่างจะเป็นเรื่องส่วนผสมที่มียาชา โดยตัวเนื้อสัมผัสมีความแข็งปานกลาง มีความอิ่มฟู สามารถเติมเต็มส่วนต่าง ๆ บนใบหน้าได้
- Neuramis-Volume Lidocaine เป็นสารเติมเต็มรุ่นที่มีเนื้อเจลแข็งที่สุด แต่มีคุณสมบัติที่สามารถกลืนเข้ากับผิวได้เป็นอย่างดี เนื้อเจลยืดหยุ่น สามารถปั้นขึ้นทรงได้ มีความคงตัวดี จึงสามารถนำมาฉีดคางได้ดี
Yvoire
เป็นฟิลเลอร์ที่มีอยู่ด้วยกัน 3 รุ่น ซึ่งมีคุณสมบัติโมเลกุลที่แตกต่างกัน แพทย์จึงสามารถเลือกใช้ให้เหมาะกับปัญหาได้ ตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันในแต่ละรายบุคคล ปรับรูปหน้าและแก้ปัญหาผิวได้อย่างดีขึ้นชัดเจน
- Yvoire-Contour มีการผสมกันของฟิลเลอร์ที่มีขนาดโมเลกุลใหญ่และเล็กไว้ด้วยกัน เป็นรุ่นที่ขึ้นทรงง่าย มีความยึดเกาะสูง และเซ็ตตัวได้ดี ช่วยยกกระชับผิว เติมกรอบหน้า เพิ่มความคมชัด หน้าดูมีมิติมากขึ้น ทั้งยังสามารถนำไปฉีดคางได้อย่างมีประสิทธิภาพ
EPTQ
ฟิลเลอร์ที่ตอบโจทย์ความต้องการด้วย 3 รุ่นที่มีความแตกต่างกันออกไป สามารถเลือกใช้ได้ตามปัญหาและตอบสนองความต้องการได้เป็นอย่างดี
- e.p.t.q. รุ่น s500 lidocaine มีขนาดโมเลกุลขนาดใหญ่ มีความแน่น เหมาะกับการนำไปใช้ฉีดผิวในชั้นลึก หรือในบริเวณที่อยู่ใกล้กับกระดูกเพื่อเพิ่มเติมฐานให้เต็มขึ้นได้สัดส่วน เช่น บริเวณกราม หรือเติมคาง เป็นต้น ทั้งยังช่วยยกกระชับกรอบหน้า ปรับรูปหน้าให้ดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ข้อดี-ข้อเสียของการฉีด Filler คาง
การฉีด filler คาง นอกจากจะต้องเข้าใจเรื่องของปัญหาแล้ว สิ่งที่ต้องทราบไว้เพื่อทำความเข้าใจอีกประเด็นหนึ่งคือ ข้อดีและข้อเสียเพื่อประกอบการตัดสินใจ รวมถึงให้ได้ทราบถึงสิ่งที่ต้องเตรียมตัวหลังฉีด ซึ่งสามารถนำไปต่อยอดในการวางแผนการดูแลรูปหน้าในอนาคตต่อได้อีกด้วย
ข้อดี
ฟิลเลอร์ที่ตำแหน่งคางเป็นการใช้สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid ฉีดเข้าไปใต้ชั้นผิวบริเวณคางเพื่อขึ้นทรงคางตามที่ต้องการ โดยสามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้าง ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ดูแข็งทื่อ สามารถแก้ไข ฉีดเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนทรงคางได้อย่างง่ายดายโดยที่ไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องพักฟื้นก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ไม่เกิดรอยแผลเป็น นอกจากนั้นใบหน้าของเรามีการเปลี่ยนแปลงไปตามแต่ละช่วงวัย ทำให้คางแบบเดียวนั้นอาจจะไม่ตอบโจทย์ไปได้ตลอด หรือในบางรายที่กำลังจะตัดสินใจผ่าตัดศัลยกรรมคาง แต่ยังลังเลว่าทรงคางแบบไหนจะเหมาะกับตัวเอง การเลือกฉีดสารฟิลเลอร์ที่ตำแหน่งคางจึงเป็นทางเลือกที่ดี เพื่อที่จะทำให้เราได้เห็นว่าทรงคางที่เหมาะกับหน้าเราคือทรงแบบไหนได้ชัดเจนมากขึ้น ก่อนที่จะตัดสินใจเข้ารับการศัลยกรรมคาง
ข้อเสีย
ข้อเสียของการฉีดสารฟิลเลอร์ที่ตำแหน่งคาง จะเป็นเรื่องของผลลัพธ์หลังการฉีดนั้นไม่ได้คงอยู่ถาวรเหมือนการผ่าตัดศัลยกรรม ทำให้อาจจะต้องทำการเติมฟิลเลอร์ในทุก ๆ 1–2 ปี ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่ใช้และการดูแลหลังฉีด ซึ่งจะช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานไม่สลายไปก่อนเวลาที่ควรจะเป็น
ฉีดฟิลเลอร์คางที่ด็อกเตอร์เมฆคลินิกดีอย่างไร
การปรับรูปคางด้วยการฉีดฟิลเลอร์คางที่คลินิกของเรา ไม่ได้ให้แค่ผลลัพธ์ที่ดูดีเพียงเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญในเรื่องของความปลอดภัยตามมาด้วย นั่นจึงทำให้เราเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจากอย.ไทย และนำเข้าผ่านบริษัทตัวยาแต่ละยี่ห้อโดยตรง ทำให้คุณภาพของ filler มีประสิทธิภาพไร้สิ่งปนเปื้อน พร้อมอยู่ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์ นำโดย ‘คุณหมอเมฆ’ แพทย์ด้านผิวหนัง และยังเป็นแพทย์ผู้สอนฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ปริมาณ ชนิดของสารเติมเต็มได้อย่างแม่นยำกับจุดที่คนไข้ต้องการแก้ไข อีกทั้งยังมีการรักษาด้วยเทคนิค “Triple Layers Lift” ผสานกับการใช้ศาสตร์และศิลป์ในการออกแบบรูปทรงให้กับคนไข้ ไม่ว่าคนไข้จะเข้ามาด้วยปัญหาผิวแบบใด หรือต้องการปรับรูปหน้าบริเวณไหน ก็สามารถจัดการดีไซน์ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูดีขึ้นเป็นธรรมชาติในทุก ๆ เคส จนได้รับรางวัลด้านความงามมาแล้วมากมายหลายปีติดต่อกัน
เปรียบเทียบศัลยกรรมคางกับการฉีดฟิลเลอร์บริเวณคาง
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ที่คาง
- เห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นหลังทำทันที (ขึ้นอยู่กับแต่ละรายบุคคล)
- ผลลัพธ์ละมุนสวยเป็นธรรมชาติ โดยคุณหมอสามารถปั้นทรงไปด้วยได้เลยในระหว่างที่ฉีดฟิลเลอร์ โดยที่ไม่ทำให้ผิวบริเวณนั้นช้ำหรือเกิดการระบมเพิ่มมากขึ้น
- ใช้เวลาทำสั้น ไม่ต้องพักฟื้นก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
- ช่วยให้เห็นทรงคางที่เหมาะสมกับใบหน้าก่อนที่จะเข้าทำการผ่าตัดศัลยกรรม
- สามารถฉีดเพิ่มเติมเพื่อปรับเปลี่ยนทรงคางได้ง่ายตามต้องการโดยไม่ต้องผ่าตัด
- หากต้องการแก้ไขก็สามารถทำได้ง่าย เพียงฉีดยาสลายฟิลเลอร์ โดยที่ไม่ต้องผ่าตัดหรือขูดออก
- ฟิลเลอร์สลายไปได้เองตามธรรมชาติ ไม่เกิดสารตกค้างในร่างกาย
- เข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ทำให้เส้นใยคอลลาเจนแน่นขึ้น ผิวบริเวณคางจึงเต่งตึงกระชับ ไม่เหี่ยวย่น
ข้อดีของศัลยกรรมคาง
- ผลลัพธ์หลังการผ่าตัดคงอยู่ถาวร เพราะเป็นการใส่ซิลิโคนแท่ง
- สามารถทำทรงคางให้ยาวหรือขยายความกว้างได้มากเท่าที่ต้องการ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวหนังของคนไข้ที่สามารถยืดหยุ่นได้อย่างเหมาะสม
ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์ที่คาง
- ผลลัพธ์อยู่ไม่ถาวร สามารถอยู่ได้ตั้งแต่ 1 – 2 ปี ขึ้นอยู่ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้และการดูแลตัวเองหลังทำ
ข้อเสียของศัลยกรรมคาง
- ใช้เวลาในการผ่าตัดและพักฟื้นนาน
- มีโอกาสทิ้งรอยแผลไว้หลังผ่าตัด ในรายที่ผิวเกิดแผลเป็นได้ง่ายมีโอกาสที่จะเกิดแผลเป็น คีลอยด์ ได้สูง
- แผลผ่าตัดหากดูแลไม่ดีมีโอกาสอักเสบหรือติดเชื้อได้สูงมากขึ้น
- หากต้องการแก้ไขทรงคางต้องทำการผ่าตัดเปลี่ยนทรงซิลิโคนเท่านั้น
- ในระหว่างที่ทำการใส่ซิลิโคนเข้าไปหากทรงคางยังไม่สวย แพทย์จะต้องทำการถอดออกมาเหลาเพื่อปรับทรงอีกครั้ง จึงอาจทำให้เนื้อเยื่อหรือผิวบริเวณนั้นบอบช้ำและระบมมากขึ้น
การฉีดฟิลเลอร์คางราคาเท่าไหร่
ในส่วนของค่าบริการนั้นก็แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่ใช้ ปริมาณที่ฉีด จึงทำให้ค่าบริการฉีดฟิลเลอร์คาง ราคาของแต่ละคนไม่เท่ากัน ดังนั้น คนไข้จึงควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์โดยตรง เพื่อที่แพทย์จะได้ทำการประเมินปัญหาจากหน้าจริงของคนไข้ และคำนวนปริมาณของฟิลเลอร์ที่ต้องใช้ได้อย่างแม่นยำ ซึ่งจะทำให้ทราบราคาที่แน่นอนว่าเป็นเท่าไหร่
โปรโมชั่นของการฉีดฟิลเลอร์คาง
โปรโมชั่นของการฉีดฟิลเลอร์คางนั้น มีอยู่เรื่อย ๆ แล้วแต่ช่วงเวลา โดยสามารถทักเข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ตลอดเลยค่ะ เพื่อที่จะได้ทราบถึงโปรโมชั่นดี ๆ ในช่วงเวลานั้น หรือรับสิทธิพิเศษต่าง ๆ ได้อีกด้วยค่ะ
เปรียบเทียบก่อนและหลังฉีด Filler คาง
มาถึงตรงนี้หลายคนคงรู้สึกอยากลองทำหัตถการ filler คางดูบ้าง มาดูตัวอย่างผลลัพธ์จากคนไข้เคสนี้กันค่ะ จะเห็นได้ว่าใบหน้าก่อนฉีดนั้นหน้าดูสั้น คางตัด รูปหน้าไม่ได้สัดส่วน หลังจากฉีดคางเสร็จแล้วเห็นได้ชัดเจนเลยว่าเกิดผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลงดีขึ้นทันทีหลังทำ ช่วยดึงให้โครงหน้าดูเรียวยาวสมส่วนมากขึ้น คางได้รูปเป็นธรรมชาติ ปรับให้รูปหน้าละมุนสวย ไม่ดูแข็ง ไม่ดูแบน ไม่ว่าจะหันหน้าตรงหรือหันข้าง มุมไหนก็เอาอยู่
[/col]รีวิวคนไข้จริงที่มาฉีดฟิลเลอร์คาง
เราได้รวบรวมรีวิวจากคนไข้จริงที่เข้ามาใช้บริการกับ Doctor Mek Clinic ซึ่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งของความประทับใจในบริการนี้ ที่ทำแล้วก็กลับเข้ามาทำซ้ำอีก เพราะเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นจริง ประทับใจจนอยากแนะนำบอกต่อการฉีดฟิลเลอร์คาง รีวิวเหล่านี้เป็นอีกเครื่องยืนยันถึงคุณภาพและฝีมือของคุณหมอเมฆได้เป็นอย่างดี ดูรีวิวจากคนไข้จริงที่นี่
ฉีดฟิลเลอร์ที่คางจะเป็นอันตรายไหม
การฉีดฟิลเลอร์คาง อันตรายไหม หากฉีดด้วย HA-Filler แท้ บอกได้เลยค่ะว่าไม่มีอันตราย เพราะไฮยาลูรอนิก แอซิด เป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายของเราอยู่แล้ว เมื่อฉีดเข้าสู่ใต้ผิวหนังจะสามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ จึงไม่เกิดสารตกค้าง ร่างกายไม่เกิดอาการแพ้ ต่างจากฟิลเลอร์ปลอมเมื่อฉีดเข้าสู่ใต้ชั้นผิวจะทำให้เกิดอาการอักเสบติดเชื้อรุนแรง ผิวหนังผิดรูป หากต้องการแก้ไขต้องทำการผ่าตัดหรือขูดออกเท่านั้น ทำให้เกิดความเสียหายกับชั้นผิวอย่างมากหลังการรักษาจึงอาจจะไม่กลับมาเป็นปกติได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ จึงต้องระวังอย่างมากในการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่เป็นของแท้เท่านั้น และแพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญมากพอ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัย
การฉีดฟิลเลอร์คางจะต้องใช้กี่ CC ถึงจะเห็นผล
การทำหัตถการนี้ ต้องใช้ฟิลเลอร์กี่ซีซี สำหรับในการฉีดคางนั้น โดยปกติมักจะเริ่มต้นที่ปริมาณการฉีดฟิลเลอร์คาง 1 CC หรือบางรายอาจที่จะต้องเพิ่มเป็น 2 CC ขึ้นอยู่กับแพทย์เป็นผู้ประเมิน เพราะปัญหา สภาพผิว กายวิภาคโครงสร้างหน้า และความต้องการของคนไข้แต่ละคนก็ต่างกันไป จึงควรปรึกษากับแพทย์โดยตรงเพื่อให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วน และแม่นยำมากที่สุด
การเตรียมตัวก่อนการฉีด
การเตรียมตัวก่อนฉีด filler คาง เป็นอีกสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันไม่ให้ในระหว่างขั้นตอนการทำเกิดปัญหาขึ้น หากเตรียมตัวก่อนฉ๊ดได้ก็จะทำให้ผลลัพธ์หลังการฉีด รอยเขียว รอยช้ำ หรืออาการบวมแดงแทบไม่เกิดขึ้นเลยหรืออาจเกิดขึ้นได้น้อยมากค่ะ
- งดการดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเข้ารับบริการฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพราะแอลกอฮอล์มีผลทำให้เกิดรอยช้ำได้ง่ายขึ้น
- งดวิตามิน ยา หรืออาหารเสริมที่มีผลเกี่ยวกับการไหลเวียนของเลือด เพราะจะเพิ่มโอกาสของการเกิดรอยช้ำได้ง่ายและมากขึ้น หรือถ้าหากจำเป็นต้องทานอย่างต่อเนื่อง ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนเข้ารับบริการทุกครั้ง
- หากมีประวัติแพ้ยาใด ๆ ก็ตาม ควรต้องแจ้งให้แพทย์ทราบทุกครั้งก่อนเข้ารับบริการ
- งดอาหารรสเค็มอย่างน้อย 1–2 วัน เพื่อช่วยลดอาการบวมให้น้อยลง
ขั้นตอนการฉีด Filler คาง
Doctor Mek Clinic ดูแลคนไข้ทุกเคสโดยคุณหมอเมฆ แพทย์ผู้สอนฟิลเลอร์และทีมแพทย์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ปลอดภัย และตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกัน โดยมีขั้นตอนการฉีด filler คาง ดังต่อไปนี้
- ประเมินปัญหา วิเคราะห์สภาพผิวรวมไปถึงโครงหน้า คำนวนปริมาณที่ใช้ เลือกโมเลกุลฟิลเลอร์ที่เหมาะสม และกำหนดตำแหน่งการวางฟิลเลอร์โดยคุณหมอเมฆและทีมแพทย์เป็นผู้ดูแลทุกเคส
- ทายาชาที่ผิวทิ้งไว้ 30 ถึง 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นฉีดยาชา
- ฉีดยาขาเพื่อช่วยบล็อกเส้นประสาทรับรู้ความรู้สึก ทำให้เกิดความผ่อนคลาย ไม่รู้สึกเจ็บ โดยฉีดทิ้งไว้ประมาณ 10–15 นาที
- หลังยาชาออกฤทธิ์ดีแล้ว คุณหมอจะเริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ตามตำแหน่งต่าง ๆ ที่ได้กำหนดไว้ตั้งแต่แรก และคุณหมอจะค่อย ๆ ปั้นแต่งทรงให้เข้ารูปไปด้วยในระหว่างการฉีด เพื่อให้รับกับโครงหน้าของคนไข้มากที่สุด โดยใช้ระยะเวลาตั้งแต่ 15 นาที ถึง 1 ชั่วโมง
ข้อปฎิบัติหรือข้อควรระวังหลังการฉีด
หลังการฉีดฟิลเลอร์คางไปแล้ว ยังมีสิ่งที่ควรรู้อยู่ด้วยเช่นกัน เพื่อช่วยให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานขึ้น ทั้งยังช่วยป้องกันและบรรเทาอาการบาดเจ็บที่จะเกิดขึ้นได้อีกด้วย เช่น อาการบวม รอยช้ำต่าง ๆ เป็นต้น วิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดคางมีอะไรบ้างไปดูกันค่ะ
- ไฮยาลูรอนิก แอซิด เป็นสารประเภทที่อุ้มน้ำได้ดี ดังนั้นหลังฉีดควรดื่มน้ำตามมาก ๆ เพื่อให้ฟิลเลอร์เซ็ตตัวได้เต็มที่และไวขึ้น ผลลัพธ์จะยิ่งสวยขึ้นไปอีกค่ะ
- ระวังไม่ให้บริเวณที่ฉีดสารฟิลเลอร์ในตำแหน่งคางเจอกับความร้อนสูงโดยตรง เพราะความร้อนส่งผลทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวได้ไวขึ้น เช่น งดการเข้าใกล้ความร้อนจากเตาอาหารหรือหม้อต้ม ความร้อนจากไดร์เป่าผม รวมไปถึงน้ำร้อนและซาวน่าก็ส่งผลถึงการสลายตัวของฟิลเลอร์ได้ไวขึ้นเช่นกัน
- งดการนวดหรือกดแรง ๆ บริเวณคาง รวมถึงการเท้าคางในช่วง 1 – 2 สัปดาห์หลังการฉีด เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดมาเสียทรงได้ ควรรอให้เซ็ตตัวเข้าที่เสียก่อน
- งดออกกำลังกายหนัก ๆ หรือกิจกรรมที่ออกแรงมาก ๆ นอกจากจะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำเยอะแล้ว อาจทำให้เกิดแรงกระเทือน อาจทำให้ฟิลเลอร์ที่ยังเซ็ตตัวไม่เต็มที่เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นได้
ผลข้างเคียงหลังฉีด Filler คาง
คงมีหลายคนที่ยังคงกังวลในเรื่องของผลข้างเคียงหลังฉีด filler คาง บอกได้เลยว่าถ้าหากเป็นการฉีดฟิลเลอร์แท้โดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ ไม่ต้องกลัวเรื่องของผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นเลย เพราะจะมีเพียงรอยเข็มจุดเล็ก ๆ เท่านั้น อาจจะมีอาการบวมนิดหน่อย หรือรู้สึกตึง ๆ เกิดขึ้นได้บ้าง ซึ่งจะหายไปได้เองภายใน 3–5 วัน แต่ในบางรายที่ฉีดฟิลเลอร์ปลอมมาอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ร้ายแรงตามมา เช่น การบวมที่รุนแรง รอยช้ำที่หนักกว่าปกติ อาจลุกลามไปถึงขั้นที่เกิดอาการอักเสบรุนแรง เกิดการติดเชื้อ เกิดการไหลย้อยของสิ่งที่ฉ๊ดเข้าไป ผิวหนังผิดรูป ต้องใช้วิธีการผ่าตัดหรือขูดออกเท่านั้น ทำให้ไม่สามารถกลับมาเป็นปกติได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
หลังฉีดทำหัตถการอื่น ๆ ได้ไหม
สามารถทำได้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นโบท็อก ร้อยไหม โปรแกรมเลเซอร์ หรือการฉีดฟิลเลอร์ในตำแหน่งอื่น ๆ แต่แนะนำให้คนไข้ปรึกษาแพทย์ให้ดีก่อนใช้บริการ เพื่อให้แพทย์ได้ประเมินการรักษาร่วมกับการวางแผนลำดับการรักษา พร้อมเว้นระยะห่างตามความเหมาะสมกับรูปหน้าและสภาพผิวของแต่ละคน แต่หากมีการฉีดสารเติมเต็มไปแล้ว แพทย์จะแนะนำให้งดการทำเลเซอร์ร้อนเป็นระยะเวลา 1 เดือน เพื่อป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์สลายตัวเร็วค่ะ
คำถามที่พบบ่อย
นอกจากข้อมูลข้างต้นแล้ว ยังมีข้อสงสัยอื่น ๆ อีกหลายข้อที่มักจะถามกันเข้ามาหลังไมค์บ่อย เราได้รวบรวมบางส่วนมาไว้ในนี้เพื่อช่วยตอบข้อสงสัยที่มี ไปดูกันค่ะว่ามีเรื่องไหนที่เราอาจจะมองข้าม เรื่องไหนที่ยังต้องการคำตอบ หรือข้อควรรู้เพิ่มเติมมีอะไรอีกบ้าง
ฉีดคางเป็นอีกวิธีที่ดีในการช่วยปรับรูปหน้าได้อย่างเห็นผลชัดเจนหลังทำทันที (ขึ้นอยู่กับแต่ละรายบุคคล) เพราะฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปใต้ชั้นผิวจะเข้าไปช่วยเสริมให้ใบหน้าได้สัดส่วนมากยิ่งขึ้น โดยที่ไม่ต้องผ่าตัด และก็ไม่ต้องพักฟื้นค่ะ ไม่ต้องกลัวเรื่องของรอยแผลเป็นเหมือนการผ่าตัดด้วยค่ะ
ปัญหาการฉีดฟิลเลอร์คาง เป็นก้อนนั้น สามารถเกิดขึ้นได้ค่ะ หากแพทย์ผู้ทำการรักษาไม่มีความเชี่ยวชาญเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์มากพอ อาจจะทำให้วางตำแหน่งในชั้นผิวไม่แม่นยำ รวมถึงเลือกโมเลกุลฟิลเลอร์ไม่เหมาะสมกับปัญหาและสภาพผิว จึงเกิดอาการเป็นก้อนขึ้นมาได้ค่ะ
ผลลัพธ์ของการฉีดอยู่ได้นานไหมนั้น ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่แตกต่างกันซึ่งมีโมเลกุลที่ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับแพทย์จะเป็นผู้วิเคราะห์เลือกใช้ตามที่เหมาะสมกับคนไข้แต่ละคนแตกต่างกันไป โดยมีระยะเวลาผลลัพธ์อยู่ได้นานตั้งแต่ 1–2 ปี
หลังฉีดคางจะเห็นผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลงดีขึ้นชัดเจนหลังทำทันทีประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ (ขึ้นอยู่กับแต่ละรายบุคคล) โดยจะเซ็ตตัวและเห็นผลลัพธ์อย่างเต็มที่ใน 1 เดือน
การฉีดคางกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์และมีประสบการณ์ที่มาก แทบจะไม่เกิดอาการข้างเคียงอะไรมากนัก โดยอาจจะมีการบวมรวมถึงตึง ๆ บริเวณที่ฉีดเล็กน้อยเท่านั้น และจะหายไปได้เองภายใน 3–5 วันค่ะ
ภายใน 1 สัปดาห์ฟิลเลอร์จะเริ่มค่อย ๆ เซ็ตตัวเข้าที่ โดยผลลัพธ์จะดีขึ้นไปเรื่อย ๆ ภายใน 1 เดือน โดยอย่าลืมดื่มน้ำตามมาก ๆ นะคะ จะยิ่งช่วยให้ฟิลเลอร์สวยมากขึ้นไปอีก
สำหรับการฉีดฟิลเลอร์คาง ข้อห้ามนั้นก็เหมือนกับฉีดฟิลเลอร์ทั่วไปค่ะ โดยควรงดอาหารประเภทของหมักดองไปก่อนในช่วง 3–5 วันแรกหลังฉีดคาง เพราะจะทำให้ไปกระตุ้นการอักเสบให้มากขึ้นและหายช้ากว่าที่ควรจะเป็นค่ะ
โดยปกติแล้วอาการของสิวขึ้นหลังจากการฉีด filler คางนั้น มักไม่เกิดขึ้น แต่ถ้าสิวขึ้นบริเวณคางที่ฉีดมาได้ไม่กี่วัน อาจจะต้องระวังเรื่องของการบีบหรือกดสิวนะคะ เพราะจะมีผลกับรูปทรงฟิลเลอร์เพราะยังไม่เซ็ตตัวเต็มที่
HA-Filler แท้ เมื่อฉีดเข้าไปใต้ชั้นผิวหนังแล้วสามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ ไม่มีการตกค้างค่ะ
บอกได้เลยว่าหลังฟิลเลอร์สลายไป ไม่ต้องกลัวว่าผิวจะเหี่ยวหรือคางจะเบี้ยวค่ะ เพราะเมื่อฉีด HA เข้าไปใต้ชั้นผิวจะเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน จึงทำให้เส้นใยคอลลาเจนเกาะกันแน่นขึ้น ถึงแม้ผลลัพธ์ที่เหลืออยู่หลังฟิลเลอร์สลายตัวไปแล้วจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็จะไม่กลับไปเหมือนเมื่อตอนก่อนฉีด ผิวจึงไม่เกิดการเหี่ยวหรือย่นขึ้นค่ะ
เรื่องของคางยืนเป็นมะม่วง หรือเหมือนคางแม่มดนั้น ขึ้นอยู่กับเทคนิคและประสบการณ์ของแพทย์ผู้ทำการรักษาค่ะ ดังนั้นการเลือกแพทย์จึงเป็นสิ่งที่สำคัญกับผลลัพธ์ที่จะออกมาด้วยเช่นกันค่ะ
ในส่วนของหน้าจะยาวไม่เป็นธรรมชาติ หรือคางจะแหลมเกินพอดีหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์กายวิภาคของโครงหน้าโดยแพทย์ผู้ทำการรักษา ที่จะต้องประเมินหาทรงคางที่รับกับใบหน้าของคนไข้แต่ละคนมากที่สุด
สามารถทำได้ค่ะ เพราะฟิลเลอร์ไม่ใช่สารที่คงอยู่ถาวร ไม่ได้แข็งเหมือนซิลิโคนแท่ง จึงสามารถผ่าตัดศัลยกรรมคางหลังจากที่เคยทำฟิลเลอร์คางมาแล้วค่ะ
หากต้องการทำศัลยกรรมคาง แต่เคยทำ filler คางมาก่อน ไม่ต้องขูดฟิลเลอร์ออกค่ะ ใช้เพียงแค่วิธีการฉีดยาสลายฟิลเลอร์เท่านั้น หรือสามารถที่จะรอให้ฟิลเลอร์สลายไปเองตามอายุการใช้งานได้เลยค่ะ
เคยผ่าตัดศัลยกรรมคางก็สามารถที่จะฉีดฟิลเลอร์คางได้ค่ะ ขึ้นอยู่กับแพทย์เป็นผู้ประเมินจากทรงคาง ขนาดคาง และความเหมาะสมรับกับใบหน้าของคนไข้
หลังจากทำ filler คางแล้ว หากต้องการที่จะฉีดโบท็อกซ์คางก็สามารถทำได้ค่ะ โดยโบคางจะเข้าไปช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ทำให้เพิ่มความยาวทรงคางลงมาได้อีก
สรุป
การฉีดฟิลเลอร์คางเป็นหัตถการที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการปรับปรับรูปคางให้ยาวขึ้นรับกับใบหน้า แก้ไขปัญหาคางสั้น คางบุ๋ม คางไม่เท่ากันได้ดี นอกจากนี้ การทำหัตถการฟิลเลอร์คางยังสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว ใครที่กลัวการผ่าตัดศัลยกรรมหรือไม่อยากพักฟื้นนาน แนะนำเลยค่ะ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือจองคิวฉีด Filler ติดต่อเข้ามาได้ที่ช่องทางการติดต่อของคลินิกได้เลยค่ะ เราให้บริการปรึกษาปัญหา และประเมินรูปหน้าฟรีกับทีมแพทย์ค่ะ
ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก นพ.วัชพล ธนมิตรามณี (คุณหมอเมฆ)
นายแพทย์ด้านผิวหนังและแพทย์ผู้สอนฟิลเลอร์