ฟิลเลอร์แก้มตอบ
ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ

ปัญหาหน้าโทรมเพราะเนื้อแก้มหาย ทำให้แก้มตอบ โหนกแก้มจึงชัดขึ้น อยากฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบแต่ก็ไม่รู้จะเลือกที่ไหนดี รวมถึงหลาย ๆ คนก็ยังไม่ทราบว่าปัญหาแก้มตอบส่งผลอะไรบ้าง มีสาเหตุเกิดจากอะไร แล้วฟิลเลอร์แก้มตอบจะเข้าไปแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร บอกเลยค่ะว่าฉีดฟิลเลอร์เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะทำแล้วเห็นผลการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นหลังทำทันที (ผลการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละรายบุคคล) ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมกันได้เลยในบทความนี้ค่ะ

เลือกเนื้อหาที่ต้องการอ่าน

ฟิลเลอร์แก้มตอบ คืออะไร

ฟิลเลอร์แก้มตอบ คือ การใช้สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic-Acid (ไฮยาลูรอนิก แอชิด) ฉีดเข้าไปบริเวณแก้มที่ยุบตัวลง เนื้อหาย ดูเป็นแอ่ง ทำให้โหนกแก้มเด่นชัดขึ้น แก้มตอบ หน้าจึงดูโทรม ไม่สดใส เติมเต็มพื้นที่ว่างใต้ชั้นผิวหนังบริเวณนั้นให้อิ่มฟูเต็มขึ้น ทั้งยังช่วยลดโหนกแก้มให้ดูเล็กลงได้อีกด้วย ช่วยให้หน้าดูละมุนหวาน ได้สัดส่วนมากขึ้น

แก้มตอบเกิดจากอะไร

ใบหน้าที่ดูโทรม ไม่สดใส โหนกแก้มที่สูงเด่นชัด ทำให้หน้าดูไม่ละมุนอย่างที่ต้องการ ซึ่งเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุด้วยกัน ไปทำความเข้าใจเบื้องต้นกับปัญหาแก้มตอบกันค่ะ

อายุที่เพิ่มขึ้น

เมื่ออายุของเราเพิ่มขึ้น ผิวของเราจึงเกิดการเสื่อมสภาพคอลลาเจนใต้ชั้นผิวลดน้อยลง ไขมันเริ่มหายไป กระดูกเกิดการยุบตัวลงทำให้เกิดเป็นแอ่งขึ้น แก้มจึงตอบ ยิ่งทำให้หน้าดูแก่มากยิ่งขึ้น

กรรมพันธุ์ครอบครัว

แก้มตอบจากกรรมพันธุ์ที่เกิดจากสาเหตุของโครงสร้างกระดูก โครงสร้างหน้าที่เป็นลักษณะเฉพาะของคนในครอบครัวที่ส่งต่อกันมา เช่น โหนกแก้มสูง เนื้อแก้มน้อย หรือกระดูกบริเวณแก้มยุบตัว เป็นต้น

การลดน้ำหนักที่เร็วเกินไป

บางเคสเกิดปัญหาแก้มตอบจากการลดน้ำหนักลงอย่างรวดเร็วจนทำให้ผอมเกินไป ส่งผลกระทบกับบริเวณต่าง ๆ ของร่างกายเกิดการสูญเสียไขมันไป แก้มจึงดูตอบมาก ใบหน้าดูซูบ ทำให้หน้าโทรม ไม่สดใส

การทำทันตกรรม

การทำทันตกรรม เช่น การจัดฟันหรือถอนฟัน อาจจะไม่ใช่เหตุผลทางตรง แต่ว่าส่งผลทางอ้อมในเรื่องของการทานอาหารที่ลำบากขึ้น ทำให้ไขมันที่สะสมในร่างกายลดลง นอกจากนั้นฟันที่ถูกจัดให้ลงตำแหน่งเนื้อบริเวณแก้มจะยุบลงไปตามตำแหน่งของฟันที่ถูกดึงให้เข้าที่ ทำให้โหนกแก้มเด่นชัดขึ้น ปัญหาแก้มตอบยิ่งชัดเจนมากกว่าเดิม

ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ ช่วยอะไรบ้าง

การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ เป็นการฉีด Hyaluronic-Acid เข้าไปใต้ชั้นผิวเพื่อเข้าไปทดแทนส่วนที่สูญเสียไป จนทำให้เกิดช่องว่างหรือการยุบตัวของผิว สารเติมเต็มจะเข้าไปช่วยพยุงผิวให้กลับมาเต่งตึง หน้ายกกระชับขึ้น เรียบเนียน ไม่เป็นแอ่ง นอกจากนั้นยังช่วยให้หน้าดูเด็กลง ปรับลุครูปหน้าละมุนสวย ช่วยลดโหนกแก้มให้ดูเล็กลง ตกแต่งให้ใบหน้าได้รูป ดูมีมิติ ได้สัดส่วนมากขึ้น จึงเป็นการช่วยปรับโหงวเฮ้งให้ดีขึ้น เสริมความมั่นใจทุกมุมมองได้อีกด้วย การฉีด filler แก้มตอบยังเข้าไปช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้เส้นใยคอลลาเจนใต้ชั้นผิวแน่นมากขึ้นด้วยค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ เสริมโหงวเฮ้ง

บอกก่อนว่า ตามความเชื่อตั้งแต่โบราณ ลักษณะเด่นของโหงวเฮ้งที่ดีเลยก็คือ บริเวณช่วงแก้มจะต้องดูอิ่มเอิบรับกับสันกรามได้พอดี ไม่มีร่องแก้ม ร่องมุมปาก ผิวเต่งกระชับไม่หย่อนคล้อย หากใครที่มีรูปหน้าในลักษณะเช่นนี้ จะช่วยเสริมในด้านการเงิน เพิ่มเสน่ห์และมีคนคอยอุปถัมภ์ช่วยเหลืออยู่เสมอ ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบก็ค่อนข้างตอบโจทย์ได้ดีเลยทีเดียว เพราะสารเติมเต็มของ HA Filler จะเข้ามาเติมในจุดที่ยุบตัวลง หรือจุดที่มีร่องบุ๋มให้ดูฟูขึ้น นอกจากจะช่วยเสริมตามหลักโหงวเฮ้งได้ดีแล้ว ยังช่วยปรับให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลงด้วยค่ะ

แก้มตอบแบบไหนที่เหมาะกับการฉีด

คงมีหลายคนที่สงสัยว่า ต้องมีปัญหาแบบไหนถึงจะสามารถฉีดได้ หรือเหมาะกับใคร บอกเลยว่าสามารถทำได้ทั้งคนที่มีปัญหาแก้มตอบหนัก ๆ ไปจนถึงคนที่ต้องการปรับรูปหน้า ปรับโหงวเฮ้งก็ทำได้เช่นกันค่ะ อยากเติมเต็มใบหน้าให้เต่งตึง เติมเนื้อแก้มที่ยุบหายไปให้กลับคืนมา ช่วยให้หน้าสดใสขึ้น หรือในรายที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูละมุน ลดโหนกแก้ม ก็สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น สามารถเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นหลังทำทันที (ขึ้นอยู่กับแต่ละรายบุคคล) โดยสามารถเข้ามาหาคุณหมอเพื่อปรึกษาถึงความต้องการในการฉีด filler แก้มตอบ และรับการประเมินปัญหาใบหน้าจริงของคนไข้ จะช่วยให้เราได้คำตอบและข้อมูลที่ละเอียดครบถ้วนมากที่สุดค่ะ

การเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ฉีดแก้มตอบที่เหมาะสม

ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ เพราะฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อก็มีรุ่นที่แยกย่อยออกไปตามคุณสมบัติที่ไม่เหมือนกัน มีขนาดโมเลกุลที่เล็ก – ใหญ่แตกต่างกัน โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินเลือกใช้คุณสมบัติให้เหมาะกับปัญหา สภาพผิว และความต้องการของคนไข้แต่ละคนที่ไม่เหมือนกันได้เป็นอย่างดี ไปดูกันดีกว่าว่าฟิลเลอร์ยี่ห้อไหน หรือคุณสมบัติแบบไหนที่เหมาะกับการแก้ปัญหาแก้มตอบค่ะ

Restylane

Restylane

เป็นฟิลเลอร์ที่มีด้วยกันหลากหลายรุ่นและคุณสมบัติ สามารถที่จะเลือกใช้ให้เหมาะกับปัญหาได้อย่างตอบโจทย์ มีทั้งโมเลกุลเล็ก และโมเลกุลใหญ่ สามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมกับปัญหาที่ไม่เหมือนกัน ทั้งปรับเพิ่มมิติให้หน้า หรือจะปรับสภาพผิวให้กระจ่างสดใสก็ทำได้ ซึ่งยี่ห้อนี้จะมีรุ่นแนะนำเบื้องต้นสำหรับแก้ปัญหาแก้มตอบดังนี้

  • Restylane-Defyne เป็นรุ่นที่เหมาะกับการยกกระชับ หรือใช้เติมเต็มกรอบหน้า ซึ่งสามารถใช้วางในชั้นผิวระดับกลาง และชั้นไขมันได้ดี ดูเป็นธรรมชาติ
  • Restylane-Lyft รุ่นที่ใช้ในการปรับรูปหน้า เพิ่มมิติให้หน้า ยกกระชับ ปรับกรอบหน้า ตกแต่งให้ใบหน้าดูดีได้สัดส่วนมากขึ้น
  • Restylane-Volyme เติมเต็มขมับ เพิ่มมิติให้ใบหน้า แก้ปัญหาแก้มตอบ ยกกระชับใบหน้า ปรับรูปหน้าให้ละมุนสวยได้อีกด้วย
Juvederm

Juvéderm

เป็นอีกยี่ห้อที่มีคุณสมบัติให้เลือกใช้หลายรุ่น ทั้งที่สามารถดูแลเรื่องผิวพรรณไปจนถึงเพิ่มมิติ ปรับรูปหน้า มีทั้งเนื้อหนักและเนื้อเบา ทำให้คุณหมอสามารถที่จะเลือกปรับใช้ให้เนื้อฟิลเลอร์กลืนกลับผิว ช่วยให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ มีรุ่นแนะนำเบื้องต้นสำหรับแก้ปัญหาแก้มตอบดังนี้

  • Juvéderm-Ultra Plus เป็นรุ่นที่สามารถเติมเต็มร่องลึกได้ดี และยังช่วยเติมขมับยุบให้กลับมาละมุนสวย รวมถึงสามารถแก้ปัญหาแก้มตอบได้ดี
  • Juvéderm-Voluma สามารถใช้ได้หลากหลายทั้งยกกระชับ ฉ๊ดขมับ ฉีดคาง กรอบหน้าชัดขึ้น ปรับรูปหน้าให้มีวีเชพ รวมถึงใช้แก้ไขปัญหา บริเวณแก้มได้อีกด้วย
Belotero

Belotero

เป็นฟิลเลอร์ที่สามารถช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิว แก้ปัญหาผิวพรรณ ปรับรูปหน้า ถึงแม้อาจจะมีรุ่นให้เลือกน้อย แต่ก็ยังมีขนาดโมเลกุลที่แตกต่างกันให้เลือกใช้ได้อย่างตอบโจทย์ โดยรุ่นที่จะแนะนำเบื้องต้นสำหรับแก้ปัญหาแก้มตอบมีเพียงรุ่นเดียว

  • Belotero Volume มีคุณสมบัติที่สามารถใช้เติมเต็มคาง เติมขมับ ปรับรูปหน้า ทั้งยังฉีดบริเวณแก้มได้ดี
Neuramis

Neuramis

เป็นฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลให้เลือกใช้น้อย เพราะมีเพียง 3 รุ่นที่ผ่าน อย. ไทย โดยมีสองรุ่นที่เนื้อเหมือนกัน ต่างกันเพียงแค่ผสมยาชากับไม่ผสมยาชาเท่านั้น จึงทำให้ตัวเลือกของคุณสมบัติที่จะแก้ปัญหาอาจจะน้อย แต่สำหรับปัญหาแก้มตอบนั้นมีเนื้อโมเลกุลที่สามารถแก้ปัญหาได้ดีค่ะ ซึ่งรุ่นที่จะแนะนำเบื้องต้นสำหรับแก้ปัญหาแก้มตอบดังนี้

  • Neuramis-Deep เนื้อฟิลเลอร์มีความฟู เหมาะกับเติมเต็มในส่วนผิวชั้นลึก เติมเต็มร่องลึกบนใบหน้า ร่องแก้ม รวมไปถึงแก้ปัญหาแก้มตอบได้ดี
  • Neuramis-Deep-Lidocaine คุณสมบัติเหมือนกับรุ่น Deep แต่มีส่วนผสมของยาชา โดยเนื้อฟิลเลอร์มีความอิ่มฟู เติมร่องลึกต่าง ๆ บนใบหน้าได้ดี เติมเต็มแก้มตอบให้กลับมาเต่งตึง
Yvoire

Yvoire

เป็นผลิตภัณฑ์ที่ถึงแม้จะมีเพียง 3 รุ่น แต่ก็สามารถเลือกใช้โมเลกุลให้เหมาะสมได้ตามปัญหาที่ต้องการแก้ไข ฉีดได้ทั้งผิวชั้นลึกและผิวชั้นตื้นได้ดี มีทั้งปรับรูปหน้าและเติมเต็มผิวได้เช่นกัน โดยยี่ห้อนี้จะมีรุ่นแนะนำเบื้องต้นสำหรับแก้ปัญหาแก้มตอบดังนี้

  • Yvoire-Volume Plus มีคุณสมบัติขึ้นรูปได้ดี เรียบเนียน โดยมีขนาดโมเลกุลอยู่ในระดับกลาง ช่วยเพิ่มโวลุ่มให้กับผิว เติมเต็มร่องแก้ม และปากได้อีกด้วย
  • Yvoire-Contour เป็นฟิลเลอร์ที่ใช้เทคโนโลยี Duo Particle ผสมโมเลกุลขนาดใหญ่และเล็กเข้าด้วยกัน เซ็ตตัวได้ดี เพิ่มมิติให้ใบหน้า ยกกระชับ เติมเต็มกรอบหน้าได้ดี รวมถึงฉีดขมับหรือแก้มได้อีกด้วย

E.P.T.Q.

ฟิลเลอร์ที่ผลิตโดยเทคโนโลยีเฉพาะซึ่งมีเพียง 3 รุ่น อาจจะเลือกโมเลกุลได้น้อยแต่ก็สามารถที่จะแก้ไขปัญหาในแต่ละรูปแบบได้ ซึ่งจะมีรุ่นแนะนำเบื้องต้นสำหรับแก้ปัญหาแก้มตอบดังนี้

  • e.p.t.q. รุ่น s300 lidocaine มีโมเลกุลระดับกลาง เหมาะกับฉีดหน้าผาก เติมขมับ ร่องแก้ม และริมฝีปาก รวมไปถึงแก้ปัญหาแก้มตอบได้อีกด้วย

ข้อดี - ข้อเสีย ของการฉีด

ข้อดี

การฉีดฟิลเลอร์สามารถช่วยให้หน้าดูสดใส ไม่โทรม เติมเต็มเนื้อแก้มที่ยุบหายไป ทั้งยังช่วยลดโหนกแก้มให้ดูเล็กลงได้อีกด้วย กลมกลืนดูเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นหลังทำทันที (ขึ้นอยู่กับแต่ละรายบุคคล) สามารถแก้ไขได้ง่าย ๆ โดยการฉีดยาสลาย

ข้อเสีย

ฟิลเลอร์นั้นมีข้อเสียอยู่เหมือนกันในส่วนความคงทนของผลลัพธ์จะไม่ถาวร และถ้าหากฉีดฟิลเลอร์ปลอมมาจะยิ่งทำให้แก้ไขได้ยากมาก ทำให้เกิดปัญหาตามมาที่รุนแรง เกิดอาการอักเสบ ติดเชื้อ ไหลย้อย ลุกลามไปถึงขั้นผิวหนังผิดรูป ต้องใช้การผ่าตัดหรือขูดออกเท่านั้น จึงจะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้

เปรียบเทียบกับฉีดไขมัน

ปัญหาแก้มตอบนอกจากจะสามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์แล้ว ก็ยังมีอีกหนึ่งวิธีที่สามารถทำได้เช่นเดียวกัน นั่นก็คือ การฉีดไขมัน แต่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่ามันแตกต่างจากการฉีด Filler ยังไง แล้วควรเติมแก้มตอบด้วยวิธีไหนถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่ากัน? เพื่อคลายข้อสงสัย เรามีตารางเปรียบเทียบความแตกต่างของทั้งสองหัตถการนี้มาฝากค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบที่ด็อกเตอร์เมฆคลินิกดีอย่างไร

เพราะที่ Doctor Mek Clinic เราเชื่อว่าการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบเปรียบเสมือนงานฝีมือที่ไม่ได้ใช้แค่ความรู้เพียงอย่างเดียว แต่ใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ในการออกแบบการรักษาให้กับคนไข้ในแต่ละเคส ดังนั้นทุก ๆ เคสแพทย์จะมีการประเมินอย่างละเอียดถึงปัญหาที่คนไข้ต้องการแก้ไข และผลลัพธ์ที่อยากได้ พร้อมดีไซน์การฉีดผสมผสานกับเทคนิค ‘Triple Layer Lift’ การฉีดฟิลเลอร์ในหลายระดับชั้น ตั้งแต่ชั้นผิวหนัง ชั้นไขมัน และชั้นกระดูก เพื่อมอบผลลัพธ์ที่ดีและมีประสิทธิภาพให้กับผู้มาใช้บริการ นอกจากเทคนิคการฉีดแล้ว เรายังให้บริการปรับรูปหน้าภายใต้มาตรฐานการดูแลอย่างใกล้ชิดโดย ‘คุณหมอเมฆ’ แพทย์ด้านผิวหนังและแพทย์ผู้สอนฟิลเลอร์ในการปรับรูปหน้า คงความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละคนไว้อย่างแม่นยำ และยังเป็นคลินิกที่สามารถคว้ารางวัลด้านความงามมาแล้วมากมายหลายสมัยติดต่อกัน

ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบราคาเท่าไหร่

ในเรื่องของราคาก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่หลายคนนึกถึงเป็นลำดับแรก ๆ โดยการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ ราคาจะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละยี่ห้อ ในแต่ละช่วง และปริมาณที่ใช้ ดังนั้นการเข้าไปปรึกษาคุณหมอเพื่อรับการประเมินเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะจะได้รับข้อมูลที่ครบถ้วน รวมถึงคุณหมอจะได้ประเมินจากหน้าจริงของคนไข้ ทำให้ทราบว่าต้องใช้จำนวนฟิลเลอร์เท่าไหร่ แต่สิ่งที่สำคัญคือ ไม่ควรเอาเรื่องของราคาถูกหรือแพงมาเป็นตัวตัดสินใจ ควรเลือกสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อตัวเราเอง

โปรโมชั่นของการฉีด

สำหรับโปรโมชั่นของการฉีด filler แก้มตอบจะแตกต่างกันออกไปแล้วแต่ช่วงเดือน เพราะจะมีการจัดโปรโมชั่นดี ๆ ให้เข้ากับช่วงเวลาหรือเทศกาล ณ เวลานั้น ๆ โดยคนไข้สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมทั้งเรื่องของโปรโมชั่น และข้อมูลของฟิลเลอร์แต่ละตัว สามารถทักเข้ามาสอบถามกับแอดมินได้เลยค่ะ

เปรียบเทียบก่อนและหลังฉีด Filler แก้มตอบ

เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น มาดูการเปรียบเทียบผลลัพธ์ทั้งก่อนทำและหลังทำการฉีด filler แก้มตอบกันดีกว่าค่ะ จากภาพที่นำมาเป็นตัวอย่างนี้จะเห็นได้ว่าก่อนทำสภาพของแก้มนั้นดูเป็นแอ่ง เนื้อยุบ แก้มซูบมาก หน้าจึงดูโทรม ดูแก่กว่าวัย ดูไม่สดใส โหนกแก้มดูเด่นมาก ยิ่งเสริมให้หน้าดูดุมากยิ่งขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับผลลัพธ์หลังทำแล้วจะเห็นได้ชัดเจนว่าเนื้อแก้มเต่งตึงเข้าที่ หน้าได้สัดส่วน ลดโหนกแก้มให้ดูเล็กลง หน้าจึงดูละมุนสวย หวานขึ้น ทั้งยังช่วยปรับผิวให้ดูกระจ่างใส หน้าจึงไม่หมองคล้ำ ไม่โทรม ช่วยเติมเต็มให้ใบหน้า

รีวิวจากคนไข้จริงที่มาใช้บริการ

เราได้รวบรวมส่วนหนึ่งของความประทับใจการทำหัตถการฟิลเลอร์แก้มตอบ รีวิวคนไข้จริงที่เข้ามาใช้บริการ ช่วยให้เห็นถึงผลลัพธ์และความพึงพอใจหลังทำ มาไว้ในนี้แล้วค่ะ เพื่อใช้เป็นข้อมูลเบื้องต้นประกอบการตัดสินใจ ดูรีวิวจากคนไข้จริงที่นี่

ฉีด Filler แก้มตอบอันตรายไหม

เรื่องของความอันครายกับการฉีด filler แก้มตอบ หากเป็น HA-Filler แท้ หลังฉีดเข้าไปในร่างกายแล้ว สารจำพวกไฮยาลูรอนิก แอซิด จะสลายไปได้เองตามธรรมชาติ ไม่เกิดการตกค้าง ไม่ทำร้ายผิว ทั้งยังเป็นการช่วยเสริมสร้างให้ผิวแข็งแรงมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าหากเป็นการฉีดฟิลเลอร์ปลอมเข้าไปย่อมเกิดผลลัพธ์ที่ร้ายแรงตามมา โดยอาจเกิดทั้งอาการอักเสบ ติดเชื้อ หรือเกิดการไหลย้อย เกิดพังผืดขึ้นใต้ชั้นผิวหนัง ทำให้เกิดการดึงรั้งใบหน้า ผิวหนังเกิดอาการผิดรูปขึ้นได้ค่ะ

ฉีด Filler แก้มตอบใช้กี่ cc ถึงเห็นผล

ในการฉีด filler แก้มตอบบริเวณที่เกิดปัญหา โดยมากจะใช้ฉีดข้างละประมาณ 1 หรือ 2 cc ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาของแต่ละคนที่แตกต่างกันไป บางรายที่ปัญหาหนัก เนื้อแก้มยุบหายไปมาก อาจจะต้องใช้ปริมาณที่เยอะ โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินปัญหาและคำนวนปริมาณของฟิลเลอร์ที่ใช้ให้เหมาะสมกับแต่ละรายบุคคล

การเตรียมตัวก่อนฉีด

ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนฉีด เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ควรทราบเบื้องต้น เพื่อจะช่วยให้ระหว่างทำการรักษาไม่เกิดผลข้างเคียง เรารวบรวมสิ่งที่ควรรู้มาไว้ให้ในนี้แล้วค่ะ

  • ก่อนเข้ารับบริการควรงดทานอาหารเสริม วิตามิน หรือยาบางชนิดที่มีผลทำให้เลือดหยุดไหลช้า
  • ก่อนเข้ารับบริการงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายใน 24 ชม. เพราะแอลกอฮอล์มีผลทำให้เลือดเกิดการสูบฉีดมากขึ้นกว่าปกติ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาระหว่างการฉีดฟิลเลอร์จึงควรงดไปก่อน
  • ควรพูดคุยรายละเอียดกับคุณหมอให้ครบถ้วน เช่น มีโรคประจำตัวหรือเคยแพ้ยาอะไรมาบ้าง รวมถึงหากมียาที่จำเป็นต้องทางเป็นประจำควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนเสมอ

ขั้นตอนการฉีด Filler แก้มตอบ

มาถึงขั้นตอนการฉีด filler แก้มตอบในบริเวณที่เกิดปัญหา คุณหมอเมฆและทีมแพทย์ Doctor Mek Clinic จะเป็นผู้ดูแลคนไข้ทุกเคส รวมถึงประเมินปัญหา วิเคราะห์กายวิภาคของใบหน้าคนไข้แต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป เพื่อให้สามารถเลือกโมเลกุลของฟิลเลอร์ได้เหมาะสม วางตำแหน่งฟิลเลอร์ได้อย่างแม่นยำ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ชัดเจน ปลอดภัย เป็นธรรมชาติ เห็นการเปลี่ยนแปลงหลังทำได้ตั้งแต่ครั้งแรก (ขึ้นอยู่กับรายบุคคล)

  • เริ่มด้วยการทายาชาที่ผิวทิ้งไว้ 30 ถึง 1 ชั่วโมง เมื่อครบตามเวลาแล้วคุณหมอจะฉีดยาชาอีกครั้งประมาณ 10 – 15 นาที เพื่อช่วยบล็อกเส้นประสาทบนใบหน้าช่วยให้รู้สึกสบาย ไม่เจ็บขณะทำการฉีดฟิลเลอร์ และป้องกันการเกิดอาการช้ำหลังทำ
  • เมื่อยาชาออกฤทธิ์เต็มที่แล้ว จะเป็นการเริ่มทำการฉีดฟิลเลอร์ตามจุดต่าง ๆ ที่คุณหมอได้ทำการวิเคราะห์และกำหนดไว้แล้ว โดยใช้เวลาในการรักษาอยู่ที่ประมาณ 15 นาที ถึง 1 ชั่วโมง แล้วแต่จุดที่ฉีดและปัญหาที่แตกต่างกันไปตามแต่ละรายบุคคล โดยคุณหมอจะทำการดูใบหน้าองค์รวมในระหว่างทำไปด้วย เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมารับกับโครงหน้าของคนไข้มากที่สุด เป็นธรรมชาติ หน้าไม่ดูโป๊ะ

ข้อปฏิบัติหรือข้อควรระวังหลังการฉีด

นอกจากฟิลเลอร์แท้ที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน รวมถึงฝีมือของคุณหมอที่ทำการรักษาแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผลลัพธ์ออกมาดีและแสดงประสิทธิภาพออกมาได้อย่างเต็มที่นั้นก็คือ การดูแลตัวเองหลังฉีดค่ะ

  • สารจำพวก Hyaluronic-Acid เป็นสารจำพวกอุ้มน้ำ ดังนั้นหลังฉีดจึงควรดื่มน้ำตามมาก ๆ เพื่อให้ฟิลเลอร์เกิดการเซ็ตตัวได้ดีขึ้น และแสดงผลลัพธ์ออกมาได้สวยมากยิ่งขึ้น
  • ความร้อนเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวได้ไวขึ้น ดังนั้นหลังฉีดในช่วงแรก จึงควรงดกิจกรรมที่ต้องปะทะกับความร้อนโดยตรง เช่น การเข้าซาวน่า การอาบน้ำร้อน และการรับประทานอาหารที่ต้องนั่งอยู่หน้าเตาหรือหม้อต้มร้อน ๆ เป็นเวลานาน ๆ รวมไปถึงความร้อนจากไดร์เป่าผมที่ต้องทำการจ่ออยู่กับที่เป็นเวลานาน อาจจะต้องพยายามหลบหรือเบี่ยงออกให้ห่างจากบริเวณแก้มที่ฉีดฟิลเลอร์มา
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ ควรหลีกเลี่ยงการนวด กด สครับ หรือการสัมผัสลงน้ำหนักแรง ๆ บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ เพราะอาจส่งผลให้เกิดการผิดรูปทรงหรือเกิดการเคลื่อนตำแหน่งของฟิลเลอร์ได้ ควรรอให้สารเติมเต็มเซ็ตตัวเต็มที่เสียก่อน
  • งดการออกกำลังกายที่ต้องออกแรงหรือเคลื่อนไหวหนัก ๆ เพราะจะทำให้เกิดการสูญเสียเหงื่อเยอะ ร่างกายจึงขาดน้ำ เสียความชุ่มชื่นในผิวไป และแรงกระเทือนจากการเคลื่อนไหวหนัก ๆ อาจมีผลทำให้ฟิลเลอร์เกิดการเคลื่อนตัว เสียรูปทรงได้ จึงควรรอให้ฟิลเลอร์เซ็ตตัวเต็มที่เสียก่อน

ผลข้างเคียงหลังฉีด Filler แก้มตอบ

หากทำหัตถการด้วย HA-Filler แท้ การเกิดผลข้างเคียงแทบจะไม่มีเลยค่ะ อาจมีเพียงรอยเข็มเป็นจุดเล็ก ๆ หรือรู้สึกตึง ๆ หน่วง ๆ นิดหน่อย ในบางรายอาจจะมีอาการบวมบริเวณที่ฉีดเล็กน้อย และจะหายไปได้เองภายใน 3 – 4 วันหลังฉีด แต่หากแพทย์ผู้ทำการรักษาไม่ชำนาญเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์และมีประสบการณ์น้อย อาจทำให้เกิดอาการบวม เขียวช้ำ เพราะอาจจะไปโดนเส้นเลือดฝอยแตก หรือในบางรายอาจเกิดอาการเป็นก้อนนูน ผิวไม่เรียบเนียนขึ้นได้ ทำให้เสียความมั่นใจ แต่ก็สามารถทำการแก้ไขได้ด้วยการฉีดยาสลายฟิลเลอร์ค่ะ

การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ ฉีดซ้ำเรื่อย ๆ ได้ไหม

แน่นอนว่า การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่คงทนถาวร ส่วนมากจะอยู่ที่ราว ๆ 6-18 เดือน ดังนั้น เมื่อมันสลายตัวไปแล้ว ก็สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้อีกค่ะ ซึ่งเมื่อกลับมาฉีดซ้ำ ควรเว้นระยะห่างไว้สัก 2-4 สัปดาห์ สำหรับปริมาณที่ควรฉีดในแต่ละครั้ง ส่วนมากจะอยู่ที่ 1-2 cc ซึ่งแต่ละคนจะใช้ปริมาณที่ไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่าของเดิมที่มีอยู่นั้น สลายไปมากน้อยแค่ไหน รวมไปถึงความกว้างหรือความลึกของแก้มแต่ละคน ซึ่งแพทย์จะต้องมีการประเมินก่อนฉีดทุกครั้งค่ะ

คำถามที่พบบ่อย

เราได้รวบรวมคำถามส่วนหนึ่งที่พบบ่อยมาก ๆ ซึ่งคนไข้มักจะอินบ๊อกซ์ข้อความเข้ามาถามกันเป็นประจำ จึงได้นำเอามาไว้เป็นข้อมูลเบื้องต้นเพื่อช่วยแก้ข้อสงสัย หรือความกังวลใจที่อาจไม่รู้จะไปถามที่ไหน ในบางรายอาจยังไม่กล้าที่จะถาม ไปดูกันค่ะว่ามีข้อไหนที่เราสงสัยอยู่บ้าง

การฉีดฟิลเลอร์ที่บริเวณแก้มตอบนั้น บอกเลยว่าไม่เจ็บค่ะ เพราะมีการทายาชาที่ผิวและฉีดยาชาบล็อกเส้นประสาทความรู้สึกไว้ จึงทำให้ไม่รู้สึกเจ็บขณะที่ฉีดฟิลเลอร์ค่ะ

สำหรับความคงทนของฟิลเลอร์ที่ฉีดบริเวณแก้มตอบนั้น ขึ้นอยู่กับโมเลกุลของแต่ละรุ่นที่คุณหมอเลือกใช้ ซึ่งผลลัพธ์มีความคงอยู่ได้นานไม่เท่ากัน ตั้งแต่ 8 เดือน ถึง 2 ปี ซึ่งต้องให้คุณหมอเป็นผู้ประเมินเลือกใช้ฟิลเลอร์ให้เหมาะสมกับแต่ละรายบุคคลค่ะ

หลังฉีดสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ มากถึง 80 เปอร์เซ็นต์ (ขึ้นอยู่กับแต่ละรายบุคคล) และจะเห็นผลลัพธ์เต็มที่สวยมากขึ้นเมื่อครบ 1 เดือน

โดยปกติแล้วหลังฉีดอาจจะมีอาการบวมขึ้นได้บ้างเพียงเล็กน้อย แต่ไม่ได้บวมมากขนาดที่น่ากังวล แล้วจะหายไปได้เองภายใน 2 – 3 วัน

หลังฉีดจะค่อย ๆ เริ่มเข้าที่ใน 1 – 2 สัปดาห์ และจะเซ็ตตัวเต็มที่หลังจากฉีดในระยะเวลา 1 เดือนค่ะ

สิ่งที่ควรงดไปก่อนหลังฉีดคือ แอลกอฮอล์และอาหารประเภทหมักดอง เพราะอาจทำให้แผลหายช้า รวมถึงเกิดการอักเสบเพิ่มมากขึ้นได้ ควรงดรับประทานไปก่อน 2 – 3 วัน เพื่อให้แผลสมานหายดีเสียก่อน

หากฉีดด้วย HA-Filler แท้ ไม่เกิดการตกค้างในร่างกายแน่นอนค่ะ เพราะสารจำพวกไฮยาลูรอนิก แอซิด เมื่อฉีดเข้าไปในร่างกายแล้วจะสลายไปได้เองตามธรรมชาติค่ะ

เมื่อเราฉีดฟิลเลอร์ที่เป็นของแท้เข้าไปในร่างกาย แล้วต้องการแก้ไขสามารถทำได้โดยการฉีดยาสลายได้เลยค่ะ เพราะเป็นฟิลเลอร์แท้จึงไม่ต้องผ่าตัด หรือขูดออกแต่อย่างใดค่ะ

อาจเกิดจากแพทย์ผู้รักษาไม่เชี่ยวชาญเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ ทำให้วางตำแหน่งในชั้นผิวไม่แม่นยำ รวมถึงมีประสบการณ์น้อยจึงเลือกโมเลกุลของฟิลเลอร์ไม่เหมาะสมกับสภาพผิว และปัญหาของคนไข้ที่แตกต่างกันไปในแต่ละรายบุคคล

ฟิลเลอร์แท้เมื่อฉีดเข้าไปใต้ชั้นผิวจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้เส้นใยคอลลาเจนใต้ผิวแน่นขึ้น บวกกับเทคนิคของคุณหมอในการวางตำแหน่งของฟิลเลอร์ ก็จะยิ่งช่วยให้หน้ายกกระชับ และไม่เกิดการไหลย้อยแน่นอนค่ะ

ฟิลเลอร์เป็นการฉีดเข้าไปเติมเต็มบริเวณเนื้อแก้มที่ยุบหายไป จนทำให้หน้าดูตอบ โหนกแก้มจึงชัดขึ้น เมื่อฉีดสารเติมเต็มเข้าไปจึงทำให้บริเวณนั้นได้เติมเต็มให้อิ่มฟูขึ้น ผิวเต่งตึง หน้าจึงดูละมุนมากขึ้น สดใส ไม่โทรม โหนกแก้มจึงดูเล็กลงไปด้วยค่ะ

สามารถเคี้ยวข้าวได้ตามปกติค่ะ เพราะฟิลเลอร์เป็นการเติมเต็ม ไม่เหมือนกับการฉีดโบที่เข้าไปหยุดการทำงานของกล้ามเนื้อ ทำให้การขยับลดน้อยลง ดังนั้นฟิลเลอร์แก้มตอบเมื่อฉีดแล้วจึงสามารถเคี้ยวข้าวได้ตามปกติค่ะ

ฟิลเลอร์เป็นการเติมเต็มด้วย Hyaluronic Acid ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวกระจ่างสดใส เต่งตึง กระชับ ปรับลุครูปหน้าให้แลดูละมุนได้สัดส่วนมากขึ้น จึงไม่มีผลทำให้ขยับหน้าไม่ได้ หรือไม่ทำให้หน้าดูแข็งแต่อย่างใดค่ะ

สามารถทำได้ค่ะ โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินปัญหาและวิเคราะห์กายวิภาคของโครงหน้าคนไข้ให้เหมาะสมรับกับใบหน้า ช่วยเพิ่มความละมุนสวย ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุดค่ะ

สรุป

การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ จะช่วยเปลี่ยนใบหน้าที่ดูซูบตอบให้อิ่มฟู ละมุนขึ้น ปรับให้ใบหน้าดูสดใสมีชีวิตชีวา ไม่ดูโทรมหรือดูมีอายุมากจนเกินไป ซึ่งการฉีดสารเติมเต็มนี้เป็นเทคนิคด้านความงามที่ให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ มีความปลอดภัย ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีและเห็นผลเร็วมากเลยจริง ๆ ค่ะ สำหรับใครที่สนใจฉีด Filler สามารถทักเข้ามาสอบถาม หรือถ่ายรูปหน้ามาให้แพทย์ช่วยประเมินการรักษาเบื้องต้นก่อนได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก นพ.วัชพล ธนมิตรามณี (คุณหมอเมฆ)​
นายแพทย์ด้านผิวหนังและแพทย์ผู้สอนฟิลเลอร์