การยุบตัวของกระดูกบริเวณร่องแก้ม
ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
ก่อนจะเลือกฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มที่ไหนดีให้ผลลัพธ์ออกมาดูดีและมีราคาถูก เราจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ร่องแก้มอย่างละเอียดก่อนเสมอ เพื่อจะได้มีข้อมูลสำหรับใช้พิจารณา และจะได้มีตัวช่วยสำหรับประกอบการตัดสินใจ สำหรับใครที่กำลังหาข้อมูล รับรองว่าบทความนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักและตอบทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับหัตถการนี้แน่นอนค่ะ
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม คือ การเติมสารไฮยาลูรอนิค แอซิดไปยังบริเวณร่องแก้ม (ร่องบริเวณปลายจมูกยาวไปจนถึงมุมปาก) ช่วยให้ร่องนั้นดูตื้นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดย filler ร่องแก้มจะทำหน้าที่เติมเต็มส่วนที่เป็นร่องลึกให้ตื้นขึ้น ทั้งยังช่วยกักเก็บน้ำไว้ในชั้นผิว ทำให้ผิวมีความอิ่มฟู ยกกระชับ เรียบเนียนขึ้น จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยปรับใบหน้าให้ดูเรียบเนียนและอ่อนเยาว์ลง
นอกจากนี้ การฉีดฟิลเลอร์บริเวณร่องแก้มยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวได้อีกด้วย ทำให้ผิวบริเวณที่ฉีดชุ่มชื้นและแข็งแรงขึ้น และที่สำคัญยังสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำ ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นอีกด้วยค่ะ
ร่องแก้มลึกเกิดจากอะไร
ปัญหาร่องแก้ม มักพบบ่อยในกลุ่มคนที่อายุ 25 ปีขึ้นไป และพบบ่อยในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย อันเป็นเหตุให้ใบหน้าดูโทรม ผิวหน้าดูหย่อนคล้อย ดูแก่กว่าวัย และจะเพิ่มความลึกมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น โดยปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดร่องแก้มมีอยู่ด้วยกัน 6 สาเหตุดังนี้
ลักษณะของร่องแก้มที่เกิดจากสาเหตุนี้ ร่องแก้มจะยังไม่ลึกมาก มักพบในคนที่อายุ 20-30 ปี สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ในตำแหน่งร่องแก้มเพียงอย่างเดียว โดยใช้เทคนิคฉีดในชั้นกระดูกใต้กล้ามเนื้อและฉีดในจุดที่ต่ำกว่าร่องแก้มเล็กน้อย
การยิ้มบ่อย ๆ
การยิ้มบ่อย ๆ จะทำให้กล้ามเนื้อที่ดึงร่องแก้มแข็งแรงเกินไปจนเกิดเป็นร่องลึกขึ้น ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์กับเทคนิคการฉีดกดกล้ามเนื้อ ซึ่งมีข้อดีที่สามารถควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อได้บางส่วน ร่องแก้มจึงดูตื้นขึ้นได้ค่ะ ทั้งยังไม่ทำให้ใบหน้าเราดูแข็งตึงด้วย
ผิวแห้ง
หากผิวของเรามีลักษณะแห้งผาก ขาดความชุ่มชื้น หรืออาจเกิดได้จากการตากแดดบ่อย ๆ ปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลให้ชั้นผิวของเราบางลงจนเกิดรอยพับได้ง่าย ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ชั้นผิว ทำได้โดยการเลือกใช้ฟิลเลอร์โมเลกุลเล็ก เพราะฟิลเลอร์ชนิดนี้จะสามารถเก็บรายละเอียดในผิวชั้นตื้นได้ดี ไม่ทำให้เป็นก้อน
กรอบหน้าและกระดูกสันกรามยุบ
สาเหตุนี้เกิดจากการที่กรอบหน้าและกระดูกสันกรามยุบตัวลง ส่งผลให้โครงสร้างที่ทำหน้าที่พยุงหน้าไปด้านหลังหายไป เนื้อแก้มจึงหย่อนลงมากองจนเกิดเป็นร่องแก้มและร่องน้ำหมากชัดขึ้น
สภาพผิวที่เสื่อมลง
เมื่ออายุมากขึ้น คอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวก็จะผลิตได้น้อยลง ส่งผลให้ผิวเกิดความหย่อนคล้อย ไม่กระชับ จนเกิดเป็นร่องแก้มได้ค่ะ
การยุบตัวของกระดูกใต้ตา
เมื่อร่างกายเริ่มเสื่อมสภาพจากอายุที่มากขึ้น กระดูกใต้ตาก็เป็นอีกหนึ่งบริเวณที่จะกร่อนตัวลง ทำให้เนื้อแก้มด้านบนหย่อนลงมากองที่เหนือร่องแก้ม จึงทำให้ร่องแก้มดูลึกขึ้น
ปัญหานี้ สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดสารฟิลเลอร์บริเวณร่องแก้มควบคู่ไปกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา โดยใช้เทคนิคฉีดยกผิวในชั้นกระดูกเพื่อดึงโครงสร้างผิวโดยรวมทั้งหมดให้เรียบเนียนและสม่ำเสมอขึ้น
การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มช่วยอะไร
คุณสมบัติของการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เป็นการฉีดเพื่อเติมเต็มร่องลึก ลดเลือนริ้วรอย และยกกระชับผิวบริเวณที่ฉีด หลังทำจะสังเกตได้ทันทีว่าริ้วรอยร่องแก้มดูจางลง ผิวที่หย่อนคล้อยก็ดูกระชับขึ้น เพราะคุณสมบัติของฟิลเลอร์ที่มีลักษณะเป็นเนื้อเจล มันจึงสามารถช่วยเติมเต็มช่องว่างของเซลล์ผิวหนัง รวมถึงเติมเต็มร่องลึกจากการยุบตัวของกระดูก ทำให้ร่องต่าง ๆ ดูตื้นขึ้น ผิวดูอิ่มฟู กระชับ เต่งตึง
ยิ่งไปกว่านั้น ฟิลเลอร์ยังทำหน้าที่ช่วยกักเก็บน้ำในชั้นผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวของเราชุ่มชื้นและแข็งแรงขึ้นอีกด้วยค่ะ
ร่องแก้มที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์
การฉีด filler ร่องแก้มสามารถใช้แก้ปัญหาได้ในกรณีเหล่านี้
- ร่องแก้มลึกจากปัญหาการยุบตัวของกระดูก อันเกิดจากอายุที่มากขึ้น
- ร่องแก้มลึกจากปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ
- ร่องแก้มลึกจากการยิ้มหรือแสดงสีหน้าบ่อย ๆ
- ร่องแก้มลึกจากปัญหาผิวขาดความชุ่มชื้น หรือผิวเสื่อมสภาพลง
- ร่องแก้มจากปัญหากรอบหน้าและกระดูกสันกรามยุบ
- ร่องแก้มลึกจนเห็นร่องน้ำหมาก (ร่องบริเวณมุมปาก)
- ริ้วรอยเล็ก ๆ บริเวณร่องแก้ม
Filler ร่องแก้มเหมาะกับใครบ้าง
การเติม filler ร่องแก้มเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาร่องแก้มลึกด้วยเหตุปัจจัยต่าง ๆ รวมถึงมีปัญหาริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย อันทำให้ร่องแก้มดูชัดขึ้นจนขาดความมั่นใจ และตอบโจทย์อย่างมากสำหรับคนที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูเด็กลงโดยไม่ต้องผ่าตัด ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว และไม่มีเวลาพักฟื้น
แต่ฟิลเลอร์บริเวณร่องแก้มก็ใช่ว่าจะสามารถฉีดได้ทุกคนนะคะ สำหรับคนในกลุ่มต่อไปนี้ ควรปรึกษาแพทย์อย่างใกล้ชิดก่อนตัดสินใจฉีด
- สตรีมีครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
- ผู้ที่มีภาวะผิวหนังอักเสบจากการฉีดฟิลเลอร์
- ผู้ที่มีประวัติแพ้สาร HA หรือแพ้ยาชา
- ผู้ที่อยู่ในภาวะเลือดไหลไม่หยุด
เลือกฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มยี่ห้อไหนดี
การเลือกฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ยี่ห้อไหนดี แนะนำให้เลือกชนิดฟิลเลอร์ตามสภาพปัญหาและสภาพผิวของเราค่ะ โดยคุณหมอจะเป็นผู้ให้คำแนะนำก่อนฉีดอยู่แล้ว ซึ่งสภาพปัญหาสามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภท
เนื้อและกระดูกบริเวณใต้ตายุบตัวลง
คนที่มีปัญหานี้ ควรเติมฟิลเลอร์ที่บริเวณใต้ตาเพื่อดึงเนื้อแก้มบางส่วนขึ้นไปก่อน โดยเลือกฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวสูง ใช้ฉีดเสริมกระดูกได้ จากนั้นค่อยเติมฟิลเลอร์บริเวณร่องแก้มทีหลัง ผลลัพธ์จะได้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นค่ะ
กระดูกใต้ปีกจมูกยุบตัวลง
ปัญหานี้ ควรเลือกเนื้อฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการขยับของร่องแก้ม เพราะบริเวณนี้จะมีการขยับบ่อยกว่าใต้ตา
กล้ามเนื้อที่ดึงร่องแก้มทำงานเยอะ
คนที่มีปัญหานี้แนะนำให้ฉีดโบท็อกร่วมด้วยเพื่อแก้ไขปัญหาค่ะ
สภาพปัญหาผิวชั้นบนที่แห้งและบาง
ควรเลือกฟิลเลอร์ที่เนื้อมีความเรียบเนียนและกระจายตัวได้ดี เพราะเป็นการฉีดในผิวชั้นตื้น จะได้ลดปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อนค่ะ
โดยยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสำหรับฉีดร่องแก้มหลัก ๆ จะมี 4 ยี่ห้อด้วยกันดังนี้
Juvederm
เป็นฟิลเลอร์จากอเมริกา ซึ่งรุ่นที่เหมาะสำหรับฉีดร่องแก้ม เช่น
- Juvederm-Ultra-Plus รุ่นนี้เนื้อจะมีลักษณะนิ่มและฟู ใช้ฉีดเติมร่องลึกได้ ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 12 เดือนขึ้นไป**
- Juvederm-Voluma รุ่นนี้เนื้อจะแข็งและฟูปานกลาง โมเลกุลมีขนาดใหญ่ มีความยืดหยุ่นสูง ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 18 เดือนเป็นอย่างน้อย**
- Juvederm-Volift เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่มที่มีความละเอียด จึงเหมาะสำหรับคนผิวบาง นิยมใช้ฉีดเพื่อเก็บรายละเอียดร่องแก้ม ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
Restylane
เป็นฟิลเลอร์จากสวีเดน ซึ่งรุ่นที่เหมาะสำหรับฉีดร่องแก้มมีดังนี้
- Restylane-Volyme เนื้อเจลมีความนิ่มปานกลางและมีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับฉีดเติมในส่วนที่ยุบ โหล ลึก ตอบ ทำให้ชั้นผิวบริเวณนั้นอิ่มฟูขึ้น ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 18 เดือนขึ้น**
- Restylane-Defyne รุ่นนี้เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความนิ่มปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง ถูกออกแบบมาใช้เพื่อแก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึกจากการแสดงสีหน้า และใช้เพื่อฉีดเสริมกระดูกที่ยุบตัวในผิวชั้นลึก ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 18 เดือนอย่างน้อย**
- Restylane-classic รุ่นนี้เนื้อเจลมีอนุภาคใหญ่ เหมาะกับการแก้ปัญหาริ้วรอยระดับปานกลางถึงมาก สามารถใช้ฉีดร่องแก้มตื้น ๆ ได้ ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 12 เดือนเป็นอย่างต่ำ**
Belotero
เป็นฟิลเลอร์จากสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งรุ่นที่เหมาะสำหรับฉีดร่องแก้มมีเพียงรุ่นเดียว
Belotero-intense เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูง สามารถใช้แก้ปัญหาร่องลึกมาก ๆ จากการยุบตัวของเนื้อเยื่อผิวหนังอย่างบริเวณร่องแก้ม ผลลัพธ์สามารถอยู่นานประมาณ 18 เดือนเป็นอย่างน้อย**
Yvoire
เป็นฟิลเลอร์จากเกาหลีใต้ ซึ่งรุ่นที่เหมาะสำหรับฉีดร่องแก้มมีเพียงรุ่นเดียว
Yvoire-Volume-Plus เป็นฟิลเลอร์โมเลกุลขนาดกลาง ขึ้นรูปได้ดี ผลลัพธ์สามารถอยู่นานประมาณ 9-12 เดือนขึ้นไป**
**ระยะเวลาของผลลัพธ์จะแตกต่างออกไปตามปัจจัยส่วนบุคคล เช่น การดูแลตัวเองหลังฉีด เป็นต้น
การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มของแท้ดูยังไง
ฟิลเลอร์ที่ปลอดภัย คือ การฉีดสารเติมเต็มชนิดไฮยาลูรอนิค แอซิด (HA) เท่านั้นนะคะ ดังนั้นใครที่เจอโฆษณาว่าฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วอยู่ได้ถาวร หรือฉีดแล้วอยู่ได้หลายปี ส่วนใหญ่จะเป็นฟิลเลอร์ปลอมที่ผลิตจากซิลิโคนเหลวหรือพาราฟิน ซึ่งสารเหล่านี้เป็นอันตรายต่อร่างกาย ไม่สามารถสลายออกจากร่างกายได้เหมือน HA-Filler
โดยเบื้องต้นวิธีตรวจสอบ HA-Filler ของแท้จะสามารถทำได้ดังนี้
- สังเกตที่กล่องฟิลเลอร์ หากเป็นของแท้นำเข้าถูกต้อง ต้องมีการระบุราคาบนกล่อง มีวันหมดอายุ และต้องมีฉลากภาษาไทยติดอยู่
- กล่องต้องปิดผนึกเรียบร้อย รอยปรุไม่ฉีกขาด
- ภายในกล่องต้องมีเอกสารกำกับเป็นภาษาไทยอยู่
- เลขล็อตสินค้าที่ข้างกล่องและที่หลอดต้องระบุตรงกัน
- ฟิลเลอร์ 1 หลอดหรือ 1 cc ไม่สามารถแบ่งใช้กับคนอื่นได้
ในส่วนนี้ เพื่อความมั่นใจเราสามารถให้แพทย์แกะกล่องให้ดูต่อหน้าก่อนฉีด และสามารถเก็บกล่องกลับไปตรวจสอบที่บ้านได้ เพื่อจะได้มั่นใจว่าฟิลเลอร์ที่เราฉีดเข้าไปเป็นของแท้
อันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์ของปลอม
ก่อนอื่นขออธิบายก่อนว่า ฟิลเลอร์ปลอมที่เราคุ้นหูกันนี้ มีหลายรูปแบบเลยค่ะ ทั้งในแบบซิลิโคนเหลว และแบบที่เป็นฟิลเลอร์ไม่บริสุทธิ์ที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการเก็บที่ได้ประสิทธิภาพ นำเข้ามาอย่างไม่ถูกต้องหรือเป็นของหิ้ว ซึ่งเมื่อเราฉีดเข้าไปแล้ว มันจะไม่สามารถสลายตัวได้เองเหมือนของแท้ อีกทั้งยังทิ้งสารตกค้างไว้ในร่างกายอีกด้วย ส่งผลให้เกิดอาการแพ้รุนแรง สารเติมเต็มไหลเป็นก้อน มีการอักเสบติดเชื้อ และจะต้องทำการผ่าตัดเพื่อขูดออกในทันที เพราะหากปล่อยไว้นาน อาจทำให้ผิวหนังมีการยุบตัวจนทำให้ใบหน้าผิดรูปได้เลยค่ะ
ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดก็ควรฉีดกับคลินิกที่ทำให้มั่นใจได้ถึงความปลอดภัย มีมาตรฐานที่ดี ไม่มีการแกะกล่องก่อนให้บริการ และต้องให้เรานำกล่องฟิลเลอร์มาตรวจสอบแหล่งที่มาได้ทุกชิ้น เพื่อความปลอดภัยอย่างสูงสุดค่ะ
ข้อดี-ข้อเสียของการฉีด Filler ร่องแก้ม
ข้อดีและข้อเสียของการฉีด filler ร่องแก้มมีดังนี้
ข้อดี
- ช่วยให้ร่องแก้มตื้นขึ้น ใบหน้าจึงดูยกกระชับ ดูอ่อนกว่าวัย
- ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ทำให้ผิวสุขภาพดี ทั้งยังสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวได้
- ช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ บริเวณร่องแก้ม ทำให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนมากขึ้น
- สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังฉีด และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนได้ตั้งแต่การฉีดครั้งแรก
- เป็นวิธีที่สะดวก ใช้เวลาในการทำเพียงไม่กี่นาที
- ไม่ทิ้งบาดแผลหลังทำ ไม่ต้องพักฟื้น
- สามารถสลายออกจากร่างกายได้โดยไม่ทิ้งสารตกค้าง จึงไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดผลเสียในภายหลัง
- สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดเพิ่มหรือฉีดสลายโดยไม่เป็นอันตราย
- ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
ข้อเสีย
- จำเป็นต้องศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจทำ เพื่อหลีกเลี่ยงคลินิกเถื่อนหรือการฉีดฟิลเลอร์ปลอมซึ่งกำลังระบาดหนักมากในปัจจุบัน
- ผลลัพธ์ไม่ถาวร แต่สามารถฉีดเติมได้เพื่อคงผลลัพธ์ไว้โดยไม่เป็นอันตราย
เลือกฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มที่ไหนดี
เลือกฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ที่ไหนดีให้ปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ สามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้
- เลือกใช้บริการกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน นั่นคือต้องมีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลักแสดงชัดเจน สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นคลินิกที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุขจริง
- สภาพแวดล้อมของคลินิกน่าเข้าใช้บริการ มีการดูแลความสะอาด ห้องทำหัตถการครบครัน คลินิกมีป้ายชื่อแสดงชัดเจน
- เลือกรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์สูง และต้องตรวจสอบใบประกอบวิชาชีพแพทย์ก่อนเสมอเพื่อให้มั่นใจว่าเป็นแพทย์จริง
- ศึกษารีวิวก่อนใช้บริการ โดยเลือกดูรีวิวให้ครบทั้งแบบรูปภาพ วิดีโอ และไลฟ์สด เพื่อให้มั่นใจในผลลัพธ์มากขึ้น
- คลินิกต้องมีบุคลากรมืออาชีพคอยให้บริการ บุคลากรสามารถให้คำแนะนำได้อย่างเหมาะสม บริการยิ้มแย้มแจ่มใส และต้องมีการติดตามผลหลังทำอย่างสม่ำเสมอ
ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มราคาเท่าไหร่
โดยปกติการฉีด filler ร่องแก้มราคาจะขึ้นอยู่กับชนิดของสารเติมเต็มและปริมาณ cc ที่ฉีด ดังนั้นแม้จะฉีดฟิลเลอร์ในบริเวณร่องแก้มเหมือนกัน แต่ราคาของแต่ละคนก็ไม่จำเป็นต้องเท่ากันค่ะ
หากใครที่เคยศึกษาเกี่ยวกับฟิลเลอร์มาบ้าง จะทราบว่าฟิลเลอร์มีหลายยี่ห้อและหลายรุ่นมาก ซึ่งแต่ละรุ่นก็ถูกผลิตมาเพื่อตอบโจทย์ปัญหาที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นการเลือกชนิดสารเติมเต็ม ไม่ใช่อันนั้นถูกกว่าก็เลยจะฉีดรุ่นนั้นได้ แต่เราจำเป็นต้องดูสภาพผิว ดูสภาพปัญหาของเราเสียก่อนว่าเหมาะกับสารเติมเต็มรุ่นไหน ซึ่งในส่วนนี้คุณหมอจะเป็นผู้ประเมินและให้คำแนะนำเองค่ะ
อีกข้อหนึ่งจะเป็นเรื่องของปริมาณ cc ที่ใช้ เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ราคาจะคิดเป็น cc (1 cc เท่ากับฟิลเลอร์ 1 หลอด) ดังนั้นใครที่มีปัญหาร่องแก้มลึกมากจนต้องฉีดฟิลเลอร์ปริมาณหลาย cc ราคาก็จะสูงกว่าคนที่ฉีดเพียง 1-2 cc นั่นเอง
ในส่วนนี้ สำหรับใครที่อยากทราบว่าการทำ filler ร่องแก้มราคาที่แน่นอนเป็นเท่าไหร่ ก็สามารถข้ามาปรึกษาคุณหมอที่คลินิกได้เลยนะคะ ด็อกเตอร์เมฆคลินิกของเรามีบริการให้คำปรึกษาฟรีโดยคุณหมอ ทั้งยังสามารถเก็บไปตัดสินใจต่อที่บ้านได้ด้วย ไม่จำเป็นว่าปรึกษาแล้วต้องทำเลย เพียงเท่านี้เราก็จะได้ปรึกษาปัญหากับคุณหมออย่างตรงจุด ทั้งยังได้ทราบราคาที่แน่นอนสำหรับตัวเราเองแล้วค่ะ
เปรียบเทียบก่อนและหลังฉีด Filler ร่องแก้ม
ก่อนทำการฉีด filler ร่องแก้ม จะเห็นได้ว่าร่องแก้มดูลึกอย่างชัดเจน ในขณะที่ภาพหลังทำร่องแก้มดูตื้นขึ้น ผิวหน้าดูกระชับ ต้องขอบคุณรีวิวจากคนไข้จริงที่ไว้วางใจให้ด็อกเตอร์เมฆคลินิกช่วยดูแลมากค่ะ
รีวิวจากคนไข้ที่มาใช้บริการ
ทั้งหมดนี้คือ ส่วนหนึ่งของรีวิวฉีด filler ร่องแก้มจากคนไข้จริงที่มาใช้บริการฉีดสารฟิลเลอร์ที่ตำแหน่งร่องแก้มกับด็อกเตอร์เมฆคลินิก ซึ่งเสียงตอบรับการทำฟิลเลอร์ร่องแก้ม รีวิวส่วนใหญ่ล้วนบอกว่าพึงพอใจในผลลัพธ์ รู้สึกดีมากที่ได้ทำ เพราะมันสามารถช่วยแก้ปัญหาร่องแก้มอย่างเห็นผลจริง ร่องแก้มตื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าดูเด็กลงอย่างเป็นธรรมชาติ ดูรีวิวจากคนไข้จริงที่นี่
การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มจะเป็นอันตรายไหม
การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่ได้รับการยอมรับจากแพทย์ทั่วโลกว่ามีความปลอดภัยสูง เพียงแต่ต้องใช้บริการกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน รักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์ และต้องใช้ผลิตภัณฑ์ของแท้เท่านั้นนะคะ
เราจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับสามสิ่งนี้ โดยเฉพาะการเลือกแพทย์ เนื่องด้วยประสบการณ์ของแพทย์เป็นสิ่งสำคัญที่จะกำหนดว่าผลลัพธ์ที่ได้จะออกมาสวยงามและปลอดภัยหรือไม่ หากฉีดกับแพทย์ที่ขาดประสบการณ์ก็อาจเสี่ยงต่อการฉีดโดนเส้นเลือดสำคัญ เพราะบริเวณร่องแก้มจะมีเส้นเลือดใหญ่ที่เรียกว่า facial Artery ต่อกับ Angular Artery ซึ่งเป็นเส้นเลือดที่ต่อและเลี้ยงไปบริเวณในลูกตา จึงต้องใช้ความระมัดระวังในการฉีดค่อนข้างสูง ดังนั้น ถ้าจะถามว่าการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มจะเป็นอันตรายไหม หากเป็นการฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็จะช่วยลดความผิดพลาดในส่วนนี้ได้ค่ะ
หัตถการฟิลเลอร์ร่องแก้มใช้กี่ cc จึงจะเห็นผล
โดยทั่วไปการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเพียงแค่ 1-2 cc ก็สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจนแล้วค่ะ แต่ทั้งนี้ปริมาณ filler ร่องแก้มกี่ cc ในแต่ละบุคคลก็อาจแตกต่างไปตามปัจจัยอื่น ๆ ได้แก่
- ความหนักเบาของปัญหา สำหรับเคสที่ร่องแก้มลึกมาก ผิวมีความหย่อนคล้อยสูง (มักพบในคนไข้กลุ่มผู้สูงอายุ) ก็อาจต้องใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 3-4 cc จึงจะเห็นผล
- บริเวณที่ฉีด ในส่วนนี้ต้องอาศัยการประเมินของแพทย์ ดูว่าร่องแก้มของเราลึกมาจากสาเหตุอะไร และจำเป็นต้องฉีดบริเวณไหนร่วมด้วยไหม เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดูดี ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด ซึ่งหากฉีดจุดอื่นร่วมด้วย ก็อาจใช้ปริมาณฟิลเลอร์มากกว่า 1-2 cc ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีดเพิ่มค่ะ
การเตรียมตัวก่อนฉีด Filler ร่องแก้ม
ก่อนฉีด filler ร่องแก้ม ควรเตรียมตัวก่อนดังนี้
- ควรงดอาหารเสริมหรือยาบางชนิดเป็นเวลา 1 สัปดาห์ เช่น ยาแอสไพริน วิตามินอี น้ำมันปลา เป็นต้น
- งดทายาผลัดเซลล์ผิวและแว๊กซ์ขนบริเวณที่จะฉีดเป็นเวลา 1 สัปดาห์
- หากต้องการทำเลเซอร์บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ ควรทำก่อนอย่างน้อย 3 วัน
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดทำกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดอย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนทำ เช่น การทำคาร์ดิโอ การอบซาวน่า การนวดหน้า เป็นต้น
- หากมีโรคประจำตัว ยาที่ทานเป็นประจำหรือมีประวัติแพ้ยา ควรแจ้งแพทย์ก่อนทุกครั้ง
ขั้นตอนการฉีด
เมื่อตัดสินใจที่จะฉีด หลังจากปรึกษาแพทย์และเลือกชนิดของสารเติมเต็มที่จะใช้แล้ว ขั้นตอนหลัก ๆ ของการฉีดฟิลเลอร์จะมีดังนี้
- ผู้ช่วยแพทย์ช่วยทำความสะอาดผิวหน้า
- แปะยาชาเพื่อลดอาการเจ็บ
- เมื่อครบกำหนดเวลายาชาออกฤทธิ์ แพทย์จะทำการฉีดฟิลเลอร์ในท่านั่งหรือนอนเอียงในระดับที่หัวอยู่สูงกว่าหัวใจ เพื่อไม่ให้เลือดออกมากขึ้น
- ใช้เวลาในการฉีดเพียงไม่กี่นาที หลังจากนั้นสามารถออกไปทำธุระได้ตามปกติโดยไม่ต้องพักฟื้น
ข้อปฏิบัติหลังฉีด filler ร่องแก้ม
หลังฉีด filler ร่องแก้ม ควรดูแลตัวเองดังนี้ เพื่อให้สามารถเห็นผลลัพธ์ได้เต็มที่ ทั้งยังเป็นการถนอมให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้นอีกด้วยค่ะ
- ควรหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าช่วง 24 ชั่วโมงหลังฉีด แต่ถ้าจำเป็นจริง ๆ ก็สามารถแต่งได้ค่ะ เพียงแต่ควรละบริเวณรอยเข็มและเบามือตรงจุดที่ฉีด และที่สำคัญต้องอย่าลืมทำความสะอาดอย่างหมดจดหลังเสร็จงานนะคะ
- ช่วง 48 ชั่วโมงแรก ไม่ควรออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกเยอะ รวมถึงการออกแดดด้วย เพราะอาจทำให้เกิดรอยแดงมากยิ่งขึ้น
- ไม่ควรนวด แกะ เกา คลึง หรือสัมผัสบริเวณที่ฉีด เพราะอาจทำให้ตัวยาเคลื่อนตำแหน่งไปยังบริเวณที่ไม่ต้องการได้
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะมีผลให้ยุบบวมช้า ทั้งยังทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้สั้นลง
- ในช่วง 4-5 วันแรก ควรดื่มน้ำเยอะ ๆ (ประมาณวันละ 1.5-2 ลิตร) เพราะฟิลเลอร์เป็นสารที่มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ การดื่มน้ำจึงช่วยให้ฟิลเลอร์เซ็ตตัวได้สวยขึ้น และทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้นอีกด้วย
- ช่วง 2 สัปดาห์แรก ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำอุ่นหรือน้ำร้อนบริเวณที่ฉีด รวมถึงการอบไอน้ำ การอบซาวน่า การอยู่หน้าเตาร้อน ๆ เพราะจะมีผลต่อการเซ็ตตัวของฟิลเลอร์
- งดการเลเซอร์ร้อนลงผิวชั้นลึกทุกชนิดเป็นเวลา 2 สัปดาห์
ผลข้างเคียงหลังฉีด Filler ร่องแก้ม
ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยจากการฉีด filler ร่องแก้ม จะเป็นเรื่องของอาการบวมจากยาชาหรือเนื้อฟิลเลอร์ที่ยังไม่ยุบตัวดี แต่อาการบวมนี้สามารถค่อย ๆ ยุบได้เองภายใน 2-3 วันค่ะ
นอกจากนี้ ผลข้างเคียงที่พบบ่อย โดยจะมีรอยเข็มหลังฉีดค่ะ จะเป็นจุดเล็ก ๆ ที่ถ้าไม่สังเกตก็แทบไม่เห็นเลย รอยเข็มนี้สามารถหายได้เองภายใน 2-3 วันแรกค่ะ
เปรียบเทียบกับการทำหัตถกรรมอื่น ๆ
การฉีดฟิลเลอร์ที่ร่องแก้ม
การฉีดฟิลเลอร์ที่บริเวณร่องแก้มสามารถช่วยเติมเต็มร่องแก้มลึกที่เกิดจากปัจจัยได้ครอบคลุมที่สุด ทั้งร่องแก้มจากการยุบตัวของกระดูกหรือจะร่องแก้มจากปัญหาผิว ทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังฉีด เห็นผลชัดเจนได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น ไม่มีผลข้างเคียงร้ายแรง และสามารถฉีดเพิ่มหรือฉีดสลายได้โดยไม่เป็นอันตรายค่ะ
การร้อยไหมดึงร่องแก้ม
หากเปรียบเทียบกับการฉีดฟิลเลอร์ การร้อยไหมสามารถแก้ไขปัญหาร่องแก้มได้เช่นเดียวกันค่ะ แต่ผลลัพธ์จะอยู่ได้ไม่นานเท่าและไม่สวยเท่า เนื่องจากเนื้อบริเวณร่องแก้มจะถูกดึงไปอยู่ตรงโหนกแก้ม หน้าจึงดูเหลี่ยมขึ้นเล็กน้อย ทั้งยังเสี่ยงต่ออาการบวมช้ำหลังทำอีกด้วย
โดยส่วนใหญ่ ร้อยไหมร่องแก้มจะช่วยแก้ไขปัญหาร่องแก้มลึกได้ในบางกรณีเท่านั้น เช่น มีร่องแก้มจากปัญหาผิวหย่อนคล้อย แต่ถ้ามีปัญหาร่องแก้มจากการยุบตัวของกระดูก การร้อยไหมจะไม่สามารถช่วยได้ค่ะ
Hifu (ไฮฟู่)
Hifu เป็นชื่อของเครื่องมือยกกระชับ ทำงานโดยการปล่อยพลังงานคลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงลงไปยังชั้นผิว หลังยิง Hifu ไปบริเวณร่องแก้มจะส่งผลให้แก้มเกิดการยกกระชับ ร่องลึกดูจางลงได้ค่ะ
การทำ Hifu จะเหมาะสำหรับคนที่กลัวการผ่าตัด กลัวเข็ม แต่ไม่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการผลลัพธ์เร่งด่วน เพราะหลังทำจะเห็นผลเพียง 20% หลังจากนั้น 3-4 เดือน จึงจะเห็นผลลัพธ์ได้อย่างเต็มที่ และจะได้ผลเฉพาะคนที่มีร่องแก้มจากปัญหาผิวเท่านั้นนะคะ โดยหลังทำไฮฟู่ผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์จึงให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่าค่ะ
การฉีดไขมันร่องแก้ม
การฉีดไขมันร่องแก้ม ถือเป็นการดูดไขมันส่วนเกินจากบริเวณอื่นของร่างกายมาฉีดเติมในส่วนที่ขาด นั่นคือบริเวณร่องแก้ม เพื่อให้ร่องลึกแลดูตื้นขึ้น ข้อดีของวิธีนี้จะเป็นการช่วยลดความเสี่ยงจากอาการแพ้ เนื่องจากเป็นการใช้ไขมันของตัวเองมาฉีด แต่ข้อเสียก็จะเป็นวิธีที่ยุ่งยาก ต้องฉีดมากกว่า 1 ครั้ง จึงจะเห็นผล และเสี่ยงต่อปัญหาผิวเป็นรอยคลื่น เนื่องจากไขมันเป็นสิ่งที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ตลอดเวลา ทำให้ผิวบริเวณที่ฉีดไม่เรียบเนียนค่ะ
โดยสรุปแล้ว การฉีดสารเติมเต็มฟิลเลอร์ในตำแหน่งร่องแก้มเป็นการแก้ปัญหาร่องแก้มที่ครอบคลุมที่สุด เห็นผลไวที่สุด ทั้งยังสะดวก มีความปลอดภัยสูง ผลลัพธ์มีความเป็นธรรมชาติ ดังนั้นแพทย์หลายท่านจึงแนะนำการฉีดฟิลเลอร์มากกว่าวิธีอื่น ๆ ค่ะ
คำถามที่พบบ่อย
นอกจากข้อมูลที่มีประโยชน์ทั้งหมดในข้างต้น เรายังได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยสำหรับคนที่สนใจเข้าใช้บริการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มมาฝากด้วยค่ะ
เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่ใช้เข็ม ดังนั้นจึงอาจมีความรู้สึกเล็กน้อยตอนเข็มจิ้มสู่ผิวหรือตอนที่ตัวยาเดินเข้าสู่ผิว แต่เป็นความเจ็บเล็กน้อยในระดับที่ทนได้ค่ะ ทั้งบางคนยังแทบไม่รู้สึกถึงความเจ็บเลย เพราะก่อนฉีดคุณหมอจะแปะยาชาให้ก่อนอยู่แล้ว แถมสารเติมเต็มบางรุ่นยังผสมยาชาอยู่ด้วย การฉีดฟิลเลอร์จึงไม่ได้เจ็บอย่างที่คิดค่ะ
ระยะเวลาของผลลัพธ์จะแตกต่างออกไปตามปัจจัยส่วนบุคคล ส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับยี่ห้อ/รุ่นของสารเติมเต็มที่ใช้ เทคนิคการฉีดของแพทย์ และการดูแลตัวเองหลังทำ แต่โดยเฉลี่ยผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มจะอยู่ได้นาน 12-18 เดือนค่ะ
การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังฉีด โดยสิ่งที่เห็นจะเป็นผลลัพธ์เพียง 70-80 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นนะคะ ก่อนจะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างเต็มที่ภายใน 2-3 สัปดาห์ เพราะในระหว่างนี้อาการบวมหลังฉีดจะค่อย ๆ ยุบลง เนื้อฟิลเลอร์ก็จะเซ็ตตัวและสมานรวมกับชั้นผิวได้ดีขึ้น ผลลัพธ์จึงแสดงผลได้อย่างเต็มที่ภายในช่วงเวลานี้
อาการบวมหลังฉีดร่องแก้มจะแตกต่างออกไปในแต่ละบุคคล บางคนไม่มีอาการบวมเลยก็มี แต่ถ้าใครมีอาการบวมก็ไม่ต้องตกใจไปค่ะ เพราะนี่เป็นผลข้างเคียงปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ ไม่เป็นอันตราย สามารถหายบวมได้เองภายใน 3-4 วัน
หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เนื้อฟิลเลอร์จะค่อย ๆ เซ็ตตัวและกลืนเข้ากับเนื้อเยื่อรอบ ๆ ซึ่งกระบวนการนี้จะใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ หลังฟิลเลอร์เซ็ตตัวโดยสมบูรณ์ก็จะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน ดังนั้นหลังฉีด ผลลัพธ์จะเข้าที่ภายใน 2-3 สัปดาห์ค่ะ
แนะนำให้นอนหงายและนอนหมอนสูงในช่วง 3-4 วันแรกค่ะ เพื่อหลีกเลี่ยงการกดทับในบริเวณที่ฉีด
หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงในช่วง 3-14 วัน ได้แก่
- อาหารหมักดองและอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ เพราะจะมีผลให้รอยเข็มเกิดการอักเสบหรือติดเชื้อได้
- อาหารรสเผ็ดจัด เนื่องจากจะมีผลให้เลือดสูบฉีดมาบริเวณใบหน้า ทำให้มีเลือดออกหรือยุบบวมช้าลง
- อาหารรสเค็มจัดหรืออาหารที่มีโซเดียมสูง เพราะจะทำให้ยุบบวมช้า
- อาหารที่ต้องอยู่หน้าเตาร้อน ๆ ทั้งชาบู หมูกระทะ จิ้มจุ่ม เพราะจะส่งผลต่อการเซ็ตตัวของฟิลเลอร์
- บุหรี่และเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ เพราะจะส่งผลให้ยุบบวมได้ช้าลง ทั้งยังทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้สั้นลงอีกด้วย
ปัญหาฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น การฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณที่เยอะเกินไป การฉีดผิดชั้นผิว การเลือกใช้สารเติมเต็มผิดประเภทหรือการฉีดด้วยเทคนิคที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้นปัญหาฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนสามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้น
แต่สำหรับใครที่ฉีดแล้วเกิดปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อน ไม่ต้องกังวลไปนะคะ หากเราฉีด HA-Filler ของแท้ก็สามารถแก้ไขได้ง่าย ๆ ด้วยวิธีฉีดยาสลาย วิธีนี้ไม่เป็นอันตรายทั้งยังสลายได้อย่างหมดจดอีกด้วยค่ะ
ช่วง 3-4 หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม อาจมีอาการบวมบริเวณที่ฉีดเล็กน้อย แต่สามารถยุบได้เองภายในเวลาไม่กี่วัน หลังยุบบวมจนเป็นปกติ ร่องแก้มที่เคยลึกชัดก็จะดูตื้นขึ้น ผิวที่หย่อนคล้อยก็จะยกกระชับ ซึ่งมันไม่ได้มีผลต่ออาการหน้าบานหรือแก้มบวมแต่อย่างใด แค่ผิวจะดูเรียบเนียนและเต่งตึงขึ้น ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มจึงไม่ทำให้แก้มใหญ่หรือหน้าบานค่ะ
หลังฉีดแล้วร่องแก้มไม่เต็มหรือเห็นผลลัพธ์ได้ไม่ดีเท่าที่ควร มักเกิดจากการที่แพทย์ฉีดผิดจุด ใช้เทคนิคการฉีดที่ไม่ถูกต้อง เช่น คนไข้มีปัญหาร่องแก้มจากการยุบตัวของกระดูก แต่แพทย์กลับฉีดแก้ไขแค่บริเวณผิวชั้นตื้น เป็นต้น ซึ่งเหตุการณ์นี้มักเกิดจากการฉีดกับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์นั่นเองค่ะ
ไม่มีทางค่ะ หลังฟิลเลอร์สลาย ผิวหน้าของเราจะค่อย ๆ กลับคืนสู่สภาพเดิมเหมือนตอนก่อนฉีด แถมหลายคนกลับมีสุขภาพผิวดีขึ้นกว่าตอนก่อนฉีดด้วยซ้ำ นั่นเพราะระหว่างที่เนื้อฟิลเลอร์ยังคงอยู่ มันจะทำหน้าที่คอยกักเก็บความชุ่มชื้นและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ดังนั้นแม้ฟิลเลอร์จะสลายไปแล้ว คอลลาเจนในชั้นผิวก็จะยังคงอยู่ ทำให้ผิวไม่ได้ดูเสื่อมโทรมเหมือนตอนก่อนทำ แต่ก็ไม่มีอิ่มฟูหรือเรียบเนียนเท่าตอนที่ฟิลเลอร์ยังไม่สลายค่ะ
หากใครที่มีปัญหาริ้วรอยร่วมด้วยและต้องการแก้ไขไปพร้อม ๆ กัน แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ เพื่อให้แพทย์ช่วยประเมินปัญหาและให้คำแนะนำก่อนฉีดแบบรายบุคคลนะคะ
ในเคสที่แพทย์วินิจฉัยว่าปัญหาร่องแก้มเกิดจากการยุบตัวของกระดูกใต้ตาและกระดูกร่องแก้มค่อนข้างมาก จนทำให้เนื้อแก้มด้านบนหย่อนลงมากองที่ร่องแก้มและเกิดเป็นร่องแก้มลึก ในกรณีนี้แนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์หน้าแก้มก่อนเพื่อดึงโครงสร้างผิวโดยรวมขึ้นไปข้างบน เนื้อแก้มที่มากองบริเวณหน้าแก้มจะได้น้อยลงตามไปด้วย แล้วหลังจากนั้นค่อยเติมฟิลเลอร์ร่องแก้มเพื่อให้ร่องแก้มตื้นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติค่ะ
แต่ถ้าใครที่มีปัญหาร่องแก้มจากสาเหตุนี้แล้วไม่อยากฉีดฟิลเลอร์หน้าแก้มร่วมด้วย ก็อาจทำให้ร่องแก้มมีสภาพแย่ลงกว่าเดิมได้ เพราะเนื้อจะยิ่งมากองบริเวณเหนือร่องแก้มจนดูเป็นก้อน ทำให้หน้าดูอูม ดูไม่เป็นธรรมชาติค่ะ โดยในส่วนนี้แพทย์จะเป็นผู้ประเมินให้เราเองค่ะว่าควรฉีดตรงจุดไหนบ้างเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดูดีที่สุด
การฉีดฟิลเลอร์เป็นการเติมเต็มร่องลึกให้ดูเต็มขึ้น และช่วยยกกระชับให้ผิวที่หย่อนคล้อยดูเรียบเนียนอีกครั้ง แต่ไม่ได้มีผลให้กล้ามเนื้อหรือผิวบริเวณนั้นแข็งตึงแต่อย่างใด ดังนั้นหลังฉีดจึงไม่มีผลกับการแสดงสีหน้า สามารถยิ้มได้อย่างเป็นธรรมชาติเหมือนเดิมค่ะ
ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก อาจสังเกตได้ว่าใบหน้ามีอาการบวมเล็กน้อย คลำแล้วรู้สึกได้ถึงก้อนใต้ผิว แต่นั่นเป็นเพราะเนื้อฟิลเลอร์ยังไม่ผสานรวมตัวกันกับเนื้อเยื่อของเราเท่าไหร่นัก จึงอาจคลำเจอก้อนได้ ถ้าใครพบปัญหานี้ก็ไม่ต้องไปกดหรือนวดคลึงมันนะคะ เพราะส่วนที่ดูเป็นก้อนจะค่อย ๆ หายไปเองภายใน 3 สัปดาห์หลัง เนื้อฟิลเลอร์เซ็ตตัวดีแล้วค่ะ
หากใครที่มีแพลนจัดฟันหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มสามารถทำได้นะคะ โดยแนะนำให้เข้าปรึกษาทันตแพทย์ก่อนตัดสินใจทำหัตถการค่ะ
สรุป
ร่องแก้มลึก ทำให้หน้าดูหย่อนคล้อย แก้มห้อย สามารถจัดการได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม หนึ่งในทางเลือกด้านความงามที่นำเอาสารเติมเต็ม HA Filler เข้ามาฉีดเพื่อเติมร่องลึกให้ดูเต็มขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ หลังฉีดไปแล้วเห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีดไม่ต้องรอนาน ไม่ต้องพักฟื้น ทำหัตถการฟิลเลอร์ร่องแก้มเสร็จสามารถกลับไปใช้ชีวิต ออกงาน ช้อปปิ้งได้ตามปกติ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ แต่อย่าลืมเลือกใช้บริการกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีความปลอดภัย มีแพทย์ที่มีทักษะรวมถึงประสบการณ์ และใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นของแท้ด้วยนะคะ หากใครมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับการฉีด Filler หรือต้องการปรึกษาปัญหาด้านความงาม สามารถทักเข้ามาได้ที่ช่องทางการติดต่อของ Doctor Mek Clinic ที่นี่เรามีทีมแพทย์พร้อมให้บริการ ใช้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิดค่ะ
ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก นพ.วัชพล ธนมิตรามณี (คุณหมอเมฆ)
นายแพทย์ด้านผิวหนังและแพทย์ผู้สอนฟิลเลอร์