ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว ฟื้นบำรุงพร้อมเติมเต็มความชุ่มชื้น
เจาะลึกฟิลเลอร์ปรับสภาพผิวดีอย่างไร ? เชื่อว่าหลายคนคงเคยประสบพบเจอกับปัญหาผิวแห้งกร้าน เสียความชุ่มชื้น แต่งหน้าไปก็ไม่ติดทนนาน อีกทั้งยังมีในเรื่องความหมองคล้ำเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งการฉีดสารเติมเต็มไฮยาลูรอนิก แอซิดเข้าไปนี้ก็จะเข้ามาช่วยฟื้นบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึกและตรงจุด ทำให้ผิวของเรากลับมาสดใสอิ่มฟูดูสุขภาพดีได้อีกครั้ง สำหรับใครที่กำลังมองหาตัวช่วยในการกู้คืนคุณภาพผิวการฉีด Filler ถือเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์เลยทีเดียวค่ะ
ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว (Skin Booster) เป็นการฟื้นบำรุงผิวด้วยการฉีดสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid ที่มีโมเลกุลขนาดเล็กเข้าไปแก้ไข พร้อมกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ใต้ชั้นผิวได้อย่างยาวนาน ซึ่งหลังจากที่ฉีดเข้าไปแล้ว สารเติมเต็มนี้ก็จะส่งผลให้ผิวมีความเต่งตึงเรียบเนียน ดูอิ่มฟู และมีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น ปรับคุณภาพผิวให้ดูสุขภาพดี นอกจากนี้ ตัวสารยังสามารถสลายได้เองโดยไม่เหลือสารตกค้างไว้ในร่างกาย มีความปลอดภัยสูง
ฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว ช่วยอะไรบ้าง
- ฟื้นฟูปัญหาผิวที่มีความแห้งกร้านให้กลับมาชุ่มชื้น ฉ่ำวาว
- กระชับรูขุมขนให้ตื้นขึ้น ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียน
- ลดเลือนริ้วรอยแห่งวัยบนใบหน้า
- เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ทำให้ผิวหน้ามีความกระชับขึ้น
- แก้ไขรอยเหี่ยวย่นทั้งบริเวณลำคอและหลังมือ
- รักษาหลุมสิวได้ในบางกรณี (แพทย์จะเป็นคนประเมินแบบรายบุคคลอีกครั้ง)
ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว เหมาะกับใคร
- ฟื้นฟูปัญหาผิวที่มีความแห้งกร้านให้กลับมาชุ่มชื้น ฉ่ำวาว
- กระชับรูขุมขนให้ตื้นขึ้น ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียน
- ลดเลือนริ้วรอยแห่งวัยบนใบหน้า
- เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ทำให้ผิวหน้ามีความกระชับขึ้น
- แก้ไขรอยเหี่ยวย่นทั้งบริเวณลำคอและหลังมือ
- รักษาหลุมสิวได้ในบางกรณี (แพทย์จะเป็นคนประเมินแบบรายบุคคลอีกครั้ง)
ฟิลเลอร์เพื่อการปรับสภาพผิว ฉีดที่บริเวณไหนได้บ้าง
ฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิวสามารถนำมาฟื้นบำรุงได้ทั่วทั้งใบหน้า รวมไปถึงลำคอและมือ หรือถ้าใครต้องการแก้ไขในจุดไหนมากเป็นพิเศษ ก็สามารถปรึกษาแพทย์ เพื่อให้แพทย์ได้วางแผนการรักษาและสามารถเน้นย้ำการรักษาเฉพาะจุด เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นได้ค่ะ
- ผิวหน้า – ปรับผิวให้ดูเรียบเนียน กระจ่างใส และเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิว
- รอบดวงตา – แก้ไขความหมองคล้ำและลดเลือนริ้วรอยรอบดวงตาหรือตีนกา
- หน้าผาก – ลดเลือนริ้วรอยแห่งไวให้ตื้นขึ้น
- ริมฝีปาก – ลดริ้วรอยบริเวณมุมปากหรือทั่วริมฝีปาก
- ลำคอ – ปรับผิวบริเวณลำคอให้ดูเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น
- หลังมือ – แก้ไขความหย่อนคล้อยให้กลับมาสุขภาพดี
ฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว ยี่ห้อไหนดี
ตอนนี้ มีหลายยี่ห้อต่างก็ผลิตรุ่นที่ใช้สำหรับฟื้นบำรุงผิวโดยเฉพาะมาให้เลือกฉีด ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็จะมีโมเลกุล คุณสมบัติ และการแสดงผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไป ตามกระบวนการผลิตที่ไม่เหมือนกัน โดยในบทความนี้ จะแนะนำยี่ห้อที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาของไทย และเป็นยี่ห้อที่ได้รับความนิยมในวงการความงามของไทยและต่างประเทศค่ะ
Juvederm
ยี่ห้อแรกที่จะมาแนะนำ เป็นแบรนด์จากประเทศสหรัฐอเมริกา ยี่ห้อนี้จะโดดเด่นในเรื่องของกระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยี Hylacross และ Vycross ให้สารเติมเต็มมีความหลากหลาย สามารถนำมาฉีดแก้ไขปัญหาหรือเติมเต็มเฉพาะจุดได้ดียิ่งขึ้น ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ฉีดแล้วไม่เป็นก้อน และยังให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานอีกด้วยค่ะ
Restylane
แบรนด์จากประเทศสวีเดนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจนได้ 2 เทคโนโลยีการผลิต ได้แก่ NASHA technology และ OBT technology ทำให้ได้คุณสมบัติที่สามารถนำมาปรับใช้เพื่อแก้ไขปัญหาผิวได้ตามความต้องการของผู้เข้ารับบริการ ตัวสารเติมเต็มยังมีความคงตัวและปลอดภัยไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้หลังฉีด
Belotero
ยี่ห้อดังสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์นี้ บอกได้เลยว่าเป็นตัวตึงเรื่องของการช่วยฟื้นบำรุงผิวเลยทีเดียวค่ะ ซึ่งเป็น Filler งานผิวตัวแรกของโลกที่นำเอา Hyaluronic Acid และ Glycerol เข้ามาไว้ด้วยกัน ทำให้มันช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการฟื้นบำรุงผิวได้ดีมากยิ่งขึ้น ทำให้ผิวมีความแข็งแรงอย่างล้ำลึก สามารถปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ พร้อมกระชับผิวปรับรูขุมขนให้เรียบเนียน
Neuramis
นิวรามิสเป็นแบรนด์ดังสัญชาติเกาหลีใต้ ที่หลายคนรู้จักเป็นอย่างดี เพราะในปัจจุบันมีการส่งออกไปแล้วหลายประเทศทั่วโลก ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา เกาหลี และไทย จุดเด่นของมันก็คือ นำมาใช้เติมเต็มวอลลุ่มให้กับผิวหรือปรับริมฝีปากให้ดูอวบอิ่ม แต่ไม่เหมาะสำหรับนำมาช่วยในเรื่องของการปรับสภาพผิวเท่าที่ควรค่ะ
Yvoire
อ่านว่า “อีโวร์” เป็นอีกหนึ่งแบรนด์คุณภาพพรีเมี่ยมจากประเทศเกาหลีใต้ ที่ผ่านมาตรฐานระดับยุโรป และได้รับความไว้วางใจกว่า 44 ประเทศทั่วโลก สามารถนำมาตอบโจทย์ทุกการแก้ไขปัญหาผิว ไม่ว่าจะเป็นการการแก้ไขริ้วรอยร่องลึก ทำให้ผิวดูเรียบเนียนอิ่มฟูและเต่งตึง ฉีดไปแล้วดูเป็นธรรมชาติ ไม่ไหลเป็นก้อน และคงอยู่ในชั้นผิวได้นาน
Revolax
เป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับจากฝั่งยุโรปเป็นอย่างมาก และล่าสุดก็พึ่งได้เข้ามาเปิดตัวในประเทศไทย โดยได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเลยทีเดียว สำหรับจุดเด่นของรีโวแลกซ์นั้น ก็จะเป็นในเรื่องของเนื้อเจลที่มีความเรียบเนียน เกลี่ยง่าย ไม่ไหลออกจากตำแหน่งที่ฉีดและให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
Teoxane
เทออกเซนเป็นแบรนด์นำเข้าจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่มาพร้อมคุณสมบัติพิเศษนั่นก็คือ ตัวสารเติมเต็มสามารถฉีดในตำแหน่งที่มีการเคลื่อนไหวบนใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเนื้อเจลสามารถยืดหยุ่นไปตามแรงเขยื้อน และกลับเข้าสู่สภาวะปกติได้เองโดยไม่ไหลเป็นก้อน และยังมีความยืดหยุ่นที่ดี
Mesofiller
เมโสฟิลเลอร์อีก 1 แบรนด์น้องใหม่จากประเทศสเปน ที่ผ่านกระบวนการผลิตชื่อว่าเทคโนโลยี Densimatrix ทำให้สารเติมเต็มมีความปลอดภัยสูง มีความเข้มข้นที่แตกต่างกัน ให้ความอิ่มฟูได้ดีแม้ฉีดในปริมาณน้อย แต่ยี่ห้อนี้จะเด่นในเรื่องของการฉีดจุดซ่อนเร้นโดยเฉพาะ
Ultra V Hyal Filler
ยี่ห้อสุดท้ายเป็นแบรนด์ที่ผ่านนวัตกรรมการผลิตแบบ R2 Technology โดยการประสาน HA 2 อนุภาคให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ทำให้เนื้อสารเติมเต็มสามารถยึดเกาะกับผิวของเราได้อย่างแข็งแรง คงรูปได้ดี และให้ผลลัพธ์ที่เรียบเนียนเป็นธรรมชาติ
ฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิวที่ด็อกเตอร์เมฆคลินิกดีอย่างไร
- ทุกเคสดูแลโดยทีมแพทย์และแพทย์ผู้สอนฟิลเลอร์ รู้หลักและเทคนิคการฉีดที่เหมาะสมกับคนไข้
- ผสานเทคนิคการฉีด Triple Layer Lift เป็นการแก้ไขปัญหาที่ลงถึงระดับผิวชั้นลึก
- มีการประเมิน วางแผน และออกแบบการรักษาแบบรายบุคคล เพื่อให้ได้การรักษาและผลลัพธ์ที่แม่นยำและตรงจุด
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นของแท้ผ่านการรับรองจากอย.ไทย และสามารถนำกล่องกลับไปเช็คได้ทุกกล่อง
- ได้รับความไว้วางใจจากคนไข้จนทำให้เป็นคลินิกที่สามารถกวาดรางวัลความงามมากมายหลายปีติดต่อกัน
- มีการติดตามผลหลังทำ พร้อมให้คำปรึกษาด้านปัญหาผิวอย่างใกล้ชิด
- มีการเดินทางสะดวกสบายใกล้รถไฟฟ้า ห้างสรรพสินค้า และถนนหลายเส้นทาง
ฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว ราคาเท่าไหร่
ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 9,900 บาท* โดยก่อนทำหัตถการ แพทย์จะเข้ามาประเมินการรักษาพร้อมพูดคุยเกี่ยวกับรายละเอียดเบื้องต้นที่คนไข้ต้องการแก้ไข หรือต้องการฟื้นฟูให้ดีขึ้น ดังนั้น ค่าบริการในแต่ละเคสอาจแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับปริมาณการฉีด และเทคนิคการรักษาของแพทย์ค่ะ
เปรียบเทียบก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว
จากภาพจะเห็นได้ว่า ก่อนฉีดสารเติมเต็มดูแห้งกร้าน สีผิวไม่สม่ำเสมอ และยังมีในเรื่องของริ้วรอยแห่งวัยเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งหลังจากฉีดสารเติมเต็มเข้าไปแล้ว ผิวหน้าดูมีความชุ่มชื้นและเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น (*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับรายบุคคล)
รีวิวความประทับใจจากคนไข้จริง
ความประทับใจของผู้ที่เคยเข้ามาฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิวกับด็อกเตอร์เมฆคลินิก หลายท่านเกิดความพึงพอใจต่อการรักษาและผลลัพธ์ที่ได้กลับไป ผิวหน้าที่ดูเรียบเนียนสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น make up ติดทนนาน ซึ่งเป็นผลมาจากคุณภาพผิวที่ดูแข็งแรงมากขึ้นด้วยนั่นเองค่ะ (*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับรายบุคคล) ดูรีวิวจากคนไข้จริงที่นี่
การเตรียมตัวก่อนใช้บริการ
- ควรงดรับประทานอาหารเสริมหรือยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด และมีส่วนผสมของการผลัดเซลล์ผิว
- งดทำกิจกรรมที่ส่งผลให้เลือดมีการสูบฉีดอย่างน้อย 3-5 วันก่อนเข้ารับบริการ
- หลีกเลี่ยงการสครับผิว หรือแว็กซ์ขนตรงบริเวณที่ต้องฉีดสารเติมเต็ม
- งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่เป็นเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนเข้ารับบริการ
- ใครที่มีโรคประจำตัว มีการแพ้ยาชา หรือมีประวัติการแพ้ยา แนะนำให้แจ้งรายละเอียดให้แพทย์ทราบ เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
การดูแลตัวเองหลังใช้บริการ
- หลังฉีดไปแล้ว 48 ชั่วโมง แนะนำให้อยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศเย็น
- แนะนำให้ดื่มน้ำเปล่า 8-10 แก้ว เพื่อเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิว
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศร้อนทุกรูปแบบ
- งดพฤติกรรมที่มีผลต่อการทำร้ายผิว เช่น การสัมผัสใบหน้าแรง ๆ
- หลังฉีดสารเติมเต็มเป็นเวลา 1 เดือน ให้หลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์ที่มีความร้อนทุกชนิด
- แนะนำให้รับประทานอาหารที่เน้นผัก โปรตีน หรือรับประทานผลไม้ เพื่อให้รอยเข็มหรืออาการบวมเข็มฟื้นฟูได้เร็วขึ้น
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสจัด อาหารที่ให้ความร้อน อาหารดิบ หรืออาหารทะเล เป็นเวลา 3-5 วัน
มีผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิวไหม
ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากการฉีดสารเติมเต็มนั้น จะแยกออกเป็น 2 สาเหตุนั่นก็คือ
ผลข้างเคียงจากรอยเข็มที่ฉีด – จะมีอาการบวมหรือมีรอยแดงเกิดขึ้นเล็กน้อยตรงจุดที่ฉีด ซึ่งเป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเคสและเกิดขึ้นเป็นปกติ โดยมันจะหายและดีขึ้นภายใน 7-14 วัน ไม่เป็นอันตรายกับร่างกาย สามารถบรรเทาได้ด้วยการรับประทานยาตามที่แพทย์แนะนำ หรือรับประทานยาแก้ปวดลดบวมเพื่อบรรเทาอาการได้ค่ะ
ผลข้างเคียงจากความผิดปกติอื่น ๆ – เช่น หลังฉีดไปแล้ว 14 วัน อาการที่เกิดขึ้นยังไม่ดีขึ้น แต่กลับกลายเป็นความรุนแรงที่เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังมีการอักเสบหรือเกิดเป็นก้อน ในกรณีนี้ เกิดขึ้นจากความผิดปกติที่มาจากการได้รับสารเติมเต็มที่ไม่ได้มาตรฐาน และยังเกิดขึ้นได้จากการฉีดผิดตำแหน่ง หรือใช้ในปริมาณที่มากจนเกินไปค่ะ วิธีการแก้ไขก็คือ หากปัญหานี้เกิดจากความผิดพลาดในการรักษา สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์เดิมออก แต่ถ้าเป็นกรณีที่ได้รับสารเติมเต็มเถื่อน จะต้องผ่าตัดและทำการขูดออกเท่านั้น
ฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว อันตรายไหม
การฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับสภาพผิว ฟื้นบำรุงผิว ไม่เป็นอันตรายกับร่างกาย เนื่องจากสารเติมเต็มเป็นสารที่ผลิตออกมาเพื่อเลียนแบบสารที่มีอยู่ในธรรมชาติของร่างกายเรา ดังนั้น เมื่อฉีดเข้าไปแล้วมันจึงสามารถเข้ากันได้กับเซลล์ในร่างกาย นอกจากนี้ เมื่อระยะเวลาผ่านไป 6 เดือนถึง 2 ปี สารเหล่านี้ จะค่อย ๆ สลายหายไปเองตามธรรมชาติ ไม่เหลือสารตกค้างอยู่ในร่างกาย สำหรับอันตรายที่เกิดขึ้นจากการฉีด โดยส่วนใหญ่แล้วนั้น จะเกิดขึ้นจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน เป็นของเถื่อน หรือฉีดกับแพทย์ที่ไม่มีความชำนาญด้านการรักษา ฉีดไม่ตรงจุดกับปัญหาที่เกิดขึ้นจริง มันจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องให้ความสำคัญกับการเลือกใช้บริการคลินิกเสริมความงามที่ได้มาตรฐานค่ะ
คำถามที่พบบ่อย
หลังฉีดกี่วันเห็นผล
สำหรับการฉีดเพื่อฟื้นฟูปรับสภาพผิวให้ดีขึ้น จะสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้หลังทำทันทีประมาณ 80% จะเห็นได้ว่าผิวมีความเรียบเนียนอิ่มฟูกว่าเดิม แต่ถ้าหากต้องการเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นแบบชัดเจน 100% จะต้องรอหลังฉีดไปแล้วราว ๆ 2 สัปดาห์ค่ะ (*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับรายบุคคล)
ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน
การคงสภาพของผลลัพธ์ในแต่ละเคส ไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนค่ะ เนื่องจากว่ามันขึ้นอยู่กับสภาพผิว ยี่ห้อที่ใช้ รุ่นที่ฉีด รวมไปถึงเทคนิคการรักษาของแพทย์ ที่ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้คงประสิทธิภาพแตกต่างกันออกไป โดยส่วนใหญ่แล้ว มันจะอยู่ได้ราว ๆ 6-12 เดือน และในบางเคสอาจอยู่ได้ยาวนานถึง 2 ปีเลยทีเดียว หลังจากนั้น สารเติมเต็มจะค่อย ๆ สลายไปตามธรรมชาติ
หลังฉีดหน้าจะบวมไหม กี่วันหายบวม
หลังฉีดจะมีอาการบวมเล็กน้อย ซึ่งเกิดจากรอยเข็มที่จิ้มลงไปใต้ชั้นผิว แต่ไม่เป็นอันตรายเลยค่ะ เพราะมันจะค่อย ๆ หายไปเองประมาณ 1-2 สัปดาห์ โดยในระหว่างนี้สามารถใช้การประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการ หรือรับประทานยาแก้ปวดลดบวมตามที่แพทย์แนะนำได้เลยค่ะ
หลังฉีดสามารถกลับไปแต่งหน้าได้ไหม
หากใครที่มีความจำเป็นในการใช้หน้า ก็สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติเลยค่ะ แต่ถ้าให้แพทย์แนะนำ ควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางไปก่อนเป็นเวลา 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกหรือสิ่งแปลกปลอมที่ติดมาจากเครื่องสำอางเข้ามารบกวนผิวหน้า หรือถ้าต้องการแต่งหน้าจริง ๆ แนะนำให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสตำแหน่งที่มีรอยเข็ม
สามารถทำร่วมกับโปรแกรมหรือหัตถการอื่น ๆ ได้ไหม
สามารถทำร่วมกับหัตถการดูแลผิวอื่น ๆ ได้ไม่ว่าจะเป็น การทำทรีทเม้นท์ที่ช่วยฟื้นฟูผิว แต่แนะนำว่าให้คนไข้ปรึกษาแพทย์ก่อนทำหัตถการว่า คนไข้ต้องการดูแลจุดไหน หรือมีความกังวลใจตรงไหนเป็นพิเศษ เพื่อให้แพทย์ได้วางแผนและลำดับการรักษาได้อย่างเหมาะสมค่ะ
สรุป
การดูแลฟื้นฟูผิวในปัจจุบัน นอกเหนือจากการทำโปรแกรมเลเซอร์หรือการฉีดวิตามินแล้ว ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว ก็เป็นวิธีการดูแลที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาผิวแห้งกร้าน ต้องการความชุ่มชื้น หรือมีปัญหาผิวหน้าเสื่อมโทรมลง วิธีนี้จะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว ดีกว่าการทาครีมบำรุงผิว สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาปัญหาผิว หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Filler สามารถทักเข้ามาปรึกษาได้ที่ LINE : @doctormekclinic เราพร้อมให้คำปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ
ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก นพ.วัชพล ธนมิตรามณี (คุณหมอเมฆ)
นายแพทย์ด้านผิวหนังและแพทย์ผู้สอนฟิลเลอร์