ฉีดฟิลเลอร์เปลือกตา
ฟิลเลอร์เปลือกตา

ฉีดฟิลเลอร์เปลือกตาที่ไหนดีให้ปลอดภัยและมีราคาถูก เชื่อเลยว่าเมื่ออายุมากขึ้น สิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ก็คือ ปัญหาตาโหลลึกจนทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย โดยเฉพาะบริเวณเปลือกตาบนที่เห็นเป็นร่องโหลลึกชัดเจน แต่ในปัจจุบันปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยฟิลเลอร์แล้วค่ะ สำหรับใครที่ไม่ทันเทรนด์ความงาม ไม่รู้ว่าฟิลเลอร์เปลือกตาคืออะไร เราไปไขข้อข้องใจพร้อมกันเลยดีกว่าค่ะ

เลือกเนื้อหาที่ต้องการอ่าน

ฟิลเลอร์เปลือกตา คืออะไร

ฟิลเลอร์เปลือกตา คือ การฉีดสารที่มีชื่อเรียกว่าไฮยาลูรอนิก แอซิดเข้าไปบริเวณเปลือกตาบนเพื่อช่วยเติมเต็มเบ้าตาที่ดูโหลลึกให้กลับมาเต็มอิ่ม ดูอ่อนกว่าวัย รวมทั้งช่วยแก้ไขปัญหาหนังตาหลายชั้นอันมีที่มาจากผิวหนังเริ่มหย่อนคล้อย โดยสารไฮยาลูรอนิก แอซิดที่ฉีดเข้าสู่ร่างกาย เป็นสารที่สร้างขึ้นเพื่อเลียนแบบสารประกอบคอลลาเจนที่มีอยู่แล้วในร่างกายมนุษย์ ดังนั้นจึงมีความปลอดภัยสูงมาก ไม่เสี่ยงต่ออาการแพ้ และไม่เสี่ยงต่อผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายค่ะ

แต่ข้อควรระวังคือ ควรเลือกทำหัตถการกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นนะคะ เนื่องจากเปลือกตาบนเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดอยู่เยอะมาก ทั้งยังเป็นบริเวณที่ใกล้กับอวัยวะสำคัญอย่างดวงตา ดังนั้นความชำนาญของแพทย์จึงสำคัญมากค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์เปลือกตาบน ช่วยอะไร

การฉีดสารเติมเต็มฟิลเลอร์บริเวณเปลือกตาได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มคนที่มีปัญหาโครงสร้างใบหน้าบริเวณเบ้าตาลึกโหล หรือคนที่มีปัญหาเปลือกตาบนเว้าลึกลงจากอายุที่มากขึ้น โดยหัตถการนี้สามารถช่วยเรื่อง

แก้ไขปัญหาตาหลายชั้น

สาเหตุมักมาจากไขมันในชั้นผิวฝ่อตัวลงจากอายุที่มากขึ้น ทำให้ชั้นตาพับลงกลายเป็นตาหลายชั้น ซึ่งเนื้อฟิลเลอร์จะทำหน้าที่ช่วยพยุงเปลือกตาแทนชั้นไขมันเหล่านั้น ปัญหาตาหลายชั้นหรือปัญหาเปลือกตาเหี่ยวจึงถูกแก้ไขได้แบบเห็นผลทันทีค่ะ

แก้ไขปัญหาชั้นตาไม่ชัด

ปัญหานี้มักเกิดจากพังผืดที่ทำหน้าที่ยึดชั้นตายึดไว้ไม่แน่นพอ จึงทำให้ตาดูปรือ ชั้นตาไม่ชัด หนังตาตก โดยการฉีดฟิลเลอร์สามารถช่วยตกแต่งเปลือกตาบนให้ชั้นตาดูชัดขึ้นได้ค่ะ

แก้ไขปัญหาตาลึกจากการทำศัลยกรรม

ในขั้นตอนทำศัลยกรรมตาสองชั้น ศัลยแพทย์จะผ่าตัดนำไขมันบริเวณชั้นตาออกบางส่วนเพื่อจะได้เย็บชั้นตาให้ติดกับผิวหนังได้ ซึ่งในบางกรณีแพทย์ก็ผ่าตัดนำไขมันออกมากเกินไป ทำให้เกิดปัญหาเบ้าตาลึกตามมา (มักเกิดปัญหาหลังผ่าตัดประมาณ 1-2 ปี) ในกรณีนี้ก็สามารถใช้ฟิลเลอร์เข้าไปเติมเบ้าลึกให้ดูเต็มได้ค่ะ

แก้ไขปัญหาชั้นตาไม่เท่ากัน

เกิดได้จากสองกรณีนั่นคือ ชั้นตาไม่เท่ากันตั้งแต่กำเนิด และชั้นตาไม่เท่ากันจากการทำศัลยกรรม ซึ่งจะสังเกตได้ว่าชั้นตาข้างหนึ่งไม่เท่ากับอีกข้าง ในกรณีนี้ การฉีดฟิลเลอร์จะช่วยตกแต่งชั้นตาที่สูงกว่าให้ลงมาเท่ากับอีกข้างได้ค่ะ

แก้ไขปัญหาตาลึกจากอายุ

เมื่ออายุมากขึ้น ชั้นไขมันที่ช่วยพยุงผิวไว้จะค่อย ๆ บางลง อีกทั้งกระดูกเบ้าตาก็จะกร่อนตัวลงเรื่อย ๆ สิ่งที่จะสังเกตได้ชัดเมื่อมีปัญหานี้คือ เปลือกตาบนเริ่มเหี่ยว เห็นเป็นตาหลายชั้นก่อนจะหายไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นเบ้าตาลึกโหล ทำให้ดูมีอายุมากกว่าเดิม โดยหลังฉีดฟิลเลอร์ เนื้อฟิลเลอร์จะช่วยพยุงเปลือกตาให้กลับมาเต็มขึ้น ใบหน้าจึงดูอ่อนเยาว์อีกครั้งค่ะ

แก้ไขปัญหาหัวตาลึก

สำหรับคนที่มีตาสองชั้นอยู่แล้ว เมื่ออายุมากขึ้นมักจะพบกับปัญหาไขมันบริเวณหัวตาหายไป ทำให้บริเวณหัวตาดูลึกกว่าส่วนอื่นอย่างชัดเจน ในกรณีนี้สามารถใช้ฟิลเลอร์ตกแต่งเข้าไปบริเวณช่วงหัวตา ให้หัวตาดูเต็มขึ้นได้ค่ะ ใบหน้าก็จะดูสดใสมากขึ้น

แก้ไขปัญหาเบ้าตาลึกตั้งแต่กำเนิด

จะสังเกตได้ว่าคนที่มีโครงหน้าไปทางฝรั่ง อาหรับ หรือแขก จะมีเบ้าตาที่ค่อนข้างลึก และจะเป็นแบบนี้ตั้งแต่ตอนอายุยังน้อย ๆ เลย นั่นเพราะมันเป็นปัญหาเบ้าตาลึกจากโครงสร้างของกระดูกเบ้าตาที่ได้รับการถ่ายทอดผ่านทางพันธุกรรม ซึ่งการฉีดสารเติมเต็มฟิลเลอร์ในบริเวณเปลือกตาก็จะช่วยให้เบ้าตาดูลึกน้อยลง ทำให้ใบหน้าดูสมูท ไม่ดูดุ และช่วยให้ภาพรวมของใบหน้าดูอ่อนเยาว์มากขึ้น

ใครควรฉีดฟิลเลอร์เปลือกตาบนบ้าง

สิ่งที่แน่นอนก็คือ การฉีดฟิลเลอร์บริเวณเปลือกตาเหมาะสำหรับคนที่อยากแก้ไขปัญหาโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีเวลาพักฟื้น ทั้งยังต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นจุดเด่นของการแก้ไขปัญหาด้วยฟิลเลอร์ แต่นอกเหนือจากนี้ สำหรับใครที่กำลังลังเลว่าจะเข้าปรึกษาแพทย์เพื่อฉีดฟิลเลอร์บริเวณเปลือกตาดีไหม สามารถทำการรีเช็กตัวเองได้ดังนี้ค่ะ

เริ่มเห็นกระดูกเบ้าตาเป็นโครงใต้ขอบคิ้วชัดเจน

เมื่อส่องกระจกจะเห็นว่าโครงด้านบนเบ้าตาลึกเข้าไปข้างใน หรือชั้นตาลึกมากจนทำให้ชั้นตาไม่ชัด ดูจางลง ทำให้ใบหน้าดูมีอายุ ดูเหนื่อยโทรม

ผู้ที่มีโครงสร้างชั้นตาแบบคนฝรั่งหรือแขก

เกิดจากลักษณะทางพันธุกรรม จะสังเกตได้ว่าผู้ที่มีโครงสร้างใบหน้าลักษณะนี้จะมีเส้นตาที่ชัดมาก ทั้งยังมีเบ้าตาลึกแบบสังเกตได้ชัด

ผู้ที่มีปัญหาตาไม่เท่ากันหรือตามีหลายชั้น

อันส่งผลให้ใบหน้าดูโทรม ดูเหนื่อยล้า ดวงตาดูไม่สดใส ซึ่งมักส่งผลกระทบถึงบุคลิกภาพ หลายคนจึงอยากแก้ไขปัญหาเหล่านี้ค่ะ

ผู้ที่มีปัญหาตาโหล เบ้าตาลึก

มักเห็นได้ชัดในผู้สูงอายุ เกิดจากไขมันเบ้าตาฝ่อตัวลงหรือกระดูกเบ้าตากร่อนตัวลงจากอายุที่มากขึ้น ทั้งยังทำให้เปลือกตาดูตก ไม่สดใส ใบหน้าจึงดูเศร้าค่ะ

สำหรับผู้ที่มีปัญหาเหล่านี้ สามารถเข้าปรึกษาแพทย์เพื่อให้ช่วยประเมินปัญหาก่อนได้นะคะ จะได้รู้ว่าปัญหาของเรามีสาเหตุมาจากข้อไหน และควรฉีดสารฟิลเลอร์บริเวณเปลือกตาด้วยเทคนิคไหนจึงจะเหมาะสมและตอบโจทย์ความต้องการของเรามากที่สุด

นอกจากการฉีดฟิลเลอร์บริเวณเปลือกตาจะสามารถปรับบุคลิกของเราให้ใบหน้าดูสดใส ดูอ่อนเยาว์ลง มันยังเป็นตัวช่วยสำหรับสาว ๆ ที่มีปัญหาเรื่องการแต่งหน้า ทำให้แต่งตาได้ง่ายขึ้นด้วยนะคะ สำหรับใครที่มีปัญหาแต่งตายาก ทาอายแชโดว์แล้วตกร่อง เป็นคราบ หรือบางคนที่ไม่สามารถทาอายแชโดว์สีเข้มได้เลยเพราะจะยิ่งทำให้เบ้าตาดูลึก หลังฉีดสารเติมเต็มฟิลเลอร์ในบริเวณเปลือกตา ปัญหาเหล่านี้ก็จะหมดไปด้วยค่ะ

เบ้าตาลึกและตาหลายชั้นเกิดจากอะไร

โดยส่วนมากปัญหาเบ้าตาลึก ตาหลายชั้น มักเกิดจากสาเหตุดังต่อไปนี้

เบ้าตาลึกจากกรรมพันธุ์

ในสาเหตุนี้จะพบว่ามีปัญหาเบ้าตาลึกตั้งแต่อายุยังน้อย แม้พยายามนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอก็ไม่สามารถช่วยบรรเทาได้ และมักเป็นร่วมกับปัญหาตาหลายชั้น อันเกิดจากโครงสร้างของกะโหลกที่ถ่ายทอดกันมาทางพันธุกรรมค่ะ

พฤติกรรมในชีวิตประจำวัน

การขยี้ตาบ่อยจนเกิดการเสียดสีบริเวณเปลือกตา ทำให้ไขมันบริเวณนั้นยุบตัวได้เร็วขึ้น ทั้งยังทำให้ผิวบริเวณเปลือกตาเหี่ยวย่น เสื่อมสภาพเร็วขึ้น

นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมอื่น ๆ อีก เช่น การพักผ่อนไม่เพียงพอ การใช้สายตาเยอะ หรือภาวะความเครียดจนทำให้ร่างกายเสื่อมโทรม เป็นต้น

ปัญหาหลังทำศัลยกรรมตาสองชั้น

หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมผ่าตัดทำตาสองชั้นมา แต่อยู่ดี ๆ ก็เริ่มมีตาชั้นที่สาม ทั้งเบ้าตายังลึกขึ้นเรื่อย ๆ นั่นเพราะเวลาทำศัลยกรรมตาสองชั้น ศัลยแพทย์จะต้องผ่าตัดนำไขมันที่เปลือกตาออก เพื่อจะได้เย็บตัวหนังให้ติดกับกล้ามเนื้อจนเกิดเป็นชั้นตาใหม่ ซึ่งในขั้นตอนนี้ หากศัลยแพทย์ไม่เชี่ยวชาญมากพอ ผ่าตัดนำไขมันออกเยอะเกินไป ก็จะเกิดเป็นปัญหาเบ้าตาลึกในอนาคตได้ค่ะ

การลดน้ำหนักเร็วเกินไป

การลดน้ำหนักแบบเร็วมากจะส่งผลให้ไขมันบริเวณรอบดวงตาหายไปด้วย นั่นเพราะเดิมทีเปลือกตาของเราก็มีชั้นไขมันน้อยอยู่แล้ว หลังน้ำหนักลดลงจึงเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนว่าเบ้าตาลึกขึ้น เปลือกตาดูห้อยตก และมีปัญหาตาหลายชั้นตามมา

อายุที่มากขึ้น

พออายุมากขึ้น กระดูกเบ้าตาจะเริ่มกร่อนตัวลง ไขมันตรงเปลือกตาก็เริ่มฝ่อลงจนไม่มีตัวช่วยค้ำเปลือกตา อีกทั้งคอลลาเจนในชั้นผิวที่ค่อย ๆ ลดลงยังส่งผลให้ผิวบริเวณนั้นขาดความยืดหยุ่น ทำให้เกิดปัญหาถุงใต้ตาบริเวณขอบตาล่าง และปัญหาเบ้าตาลึกบริเวณเปลือกตาบนค่ะ

เปรียบเทียบการฉีดฟิลเลอร์เปลือกตากับฉีดไขมันเปลือกตา

ทั้งสองหัตถการนี้ให้ผลลัพธ์ที่คล้ายกัน แต่ขั้นตอนและวิธีการนับว่าต่างกันมากเลยค่ะ โดยสามารถแยกความต่างได้ดังนี้

การฉีดฟิลเลอร์เปลือกตา

เป็นการใช้สารเติมเต็มฉีดเติมหรือตกแต่งบริเวณเปลือกตาเพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ โดยมีจุดเด่นดังนี้

  • สารไฮยาลูรอนิก แอซิด ที่ใช้ฉีดมีความปลอดภัยสูง ไม่เสี่ยงต่อผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย
  • เห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
  • เป็นหัตถการที่เจ็บน้อย ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ทิ้งบาดแผลบนร่างกาย
  • เห็นความเปลี่ยนแปลงทันทีหลังทำว่าปัญหาได้รับการแก้ไข
  • ฟิลเลอร์สามารถสลายออกจากร่างกายได้ตามธรรมชาติเมื่อถึงกำหนดเวลา จึงไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย

เพราะ HA-Filler สามารถสลายตัวได้ตามกาลเวลา โดยข้อเสียของมันจะเป็นเรื่องของผลลัพธ์ที่จะไม่ถาวรค่ะ คนไข้จำเป็นต้องฉีดเติมเรื่อย ๆ หากต้องการคงผลลัพธ์ไว้

การฉีดไขมันเปลือกตา

การฉีดไขมันเปลือกตาเป็นการดูดเซลล์ไขมันส่วนเกินจากส่วนอื่นของร่างกายมาผ่านกระบวนการสกัดให้ไขมันมีขนาดเล็กลงและมีความเข้มข้นขึ้น ก่อนจะนำมาฉีดเติมเต็มบริเวณเปลือกตาบน โดยมีข้อแตกต่างจากการทำฟิลเลอร์ในบริเวณเปลือกตาดังนี้

  • ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี แต่จำเป็นต้องทำซ้ำมากกว่าหนึ่งครั้ง เพื่อให้เห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจน
  • เสี่ยงต่ออาการบวมช้ำ เนื่องจากเข็มที่ใช้ฉีดไขมันมีขนาดใหญ่กว่า นั่นเพราะเซลล์ไขมันมีขนาดใหญ่กว่าเนื้อฟิลเลอร์
  • มีขั้นตอนยุ่งยาก เนื่องจากต้องดูดไขมันจากบริเวณอื่นมาก่อน จึงเหมือนกับการเจ็บตัวสองครั้ง
  • ไขมันเป็นเซลล์ที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ ดังนั้นจึงเสี่ยงต่อปัญหาผิวเป็นคลื่น ไม่เรียบเนียนหลังฉีด และจำเป็นต้องฉีดหลายครั้ง เนื่องจากไขมันจะถูกร่างกายดูดซึมไปเรื่อย ๆ

เป็นวิธีที่ยุ่งยากเนื่องจากในการดูดไขมันแต่ละครั้ง ใช่ว่าเซลล์ไขมันที่ดูดออกมาจะใช้ได้ทั้งหมดร้อยเปอร์เซ็นต์

โดยสรุปแล้ว การฉีดสารฟิลเลอร์บริเวณเปลือกตาเป็นวิธีที่ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่แน่นอนกว่าการฉีดไขมันเปลือกตาค่ะ แม้ผลลัพธ์ของการฉีดไขมันจะอยู่ได้นานกว่า แต่จำเป็นต้องทำหลายครั้งจึงจะเริ่มเห็นผลชัดเจน ดังนั้นแพทย์ส่วนใหญ่จึงแนะนำวิธีฉีดฟิลเลอร์บริเวณเปลือกตามากกว่าค่ะ

การเลือกยี่ห้อฉีดฟิลเลอร์บริเวณเปลือกตาที่เหมาะสม

ปัจจุบัน ฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของประเทศไทยมีด้วยกันหลายยี่ห้อมาก แต่ละยี่ห้อก็มีจุดเด่น จุดด้อย และคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป ขอแนะนำสำหรับการทำหัตถการฟิลเลอร์เปลือกตา ยี่ห้อที่เหมาะสมมีดังนี้

Restylane

Restylane

เป็นฟิลเลอร์ที่นำเข้าจากประเทศสวีเดน โดดเด่นในเรื่องโมเลกุลที่มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างน้อยมาก ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความใกล้เคียงกับสารไฮยาลูรอนในร่างกายสูง จึงลดโอกาสของอาการแพ้ฟิลเลอร์ นอกจากนี้ ด้วยเทคโนโลยีเฉพาะของการผลิตฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้ ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีคุณสมบัติใช้งานได้หลากหลาย สามารถใช้งานได้ยืดหยุ่นครอบคลุมความต้องการของคนไข้ที่สุดค่ะ

Juvederm

Juvederm

เป็นฟิลเลอร์ที่นำเข้าจากอเมริกา ผลิตโดยบริษัท Allergan ซึ่งจุดเด่นของฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้คือ ความเรียบเนียนของเนื้อฟิลเลอร์ ซึ่งถูกผลิตโดยเทคโนโลยีเฉพาะที่ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีโมเลกุลยึดเกาะหนาแน่น ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้ จึงมีความเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน

Belotero

Belotero

เป็นฟิลเลอร์สัญชาติสวีเดนที่นำเข้าไทยโดยบริษัท เมิร์ซ เฮลธ์แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับรางวัลด้านความงามจากยุโรปถึง 2 รางวัลด้วยกัน โดยฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้มีรุ่นย่อย ๆ ที่สามารถเลือกใช้งานได้หลากหลาย จึงทำให้สามารถตอบโจทย์ได้แทบทุกปัญหา

Yvoire

YVOIRE

เป็นฟิลเลอร์ที่พัฒนาโดยประเทศเกาหลีใต้ มีจุดเด่นในเรื่องของเทคโนโลยีเฉพาะในการผลิตที่ทำให้เนื้อฟิลเลอร์ฉีดง่าย ผลลัพธ์ออกมาเรียบเนียน ไม่ย้อย ไม่เคลื่อนจากตำแหน่งฉีด ทั้งยังมีราคาย่อมเยาค่ะ

โดยฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อก็จะมีรุ่นย่อย ๆ แตกแขนงออกไปอีกจำนวนมาก นั่นเพราะแต่ละรุ่นถูกพัฒนาให้ใช้งานตามจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน ในส่วนนี้แพทย์จะเป็นผู้ประเมินจากปัญหาของเราเป็นหลักก่อน แล้วค่อยแนะนำยี่ห้อฟิลเลอร์หรือรุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะสมสำหรับเราให้ค่ะ

ข้อดี-ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์เปลือกตาบน

สำหรับข้อดีและข้อเสียของการฉีดสารเติมเต็มฟิลเลอร์ในบริเวณเปลือกตา สามารถแยกได้ดังนี้

ข้อดี

  • สามารถแก้ไขปัญหาเบ้าตาลึก ตาหลายชั้นได้อย่างเห็นผลชัดเจนแม้ทำเพียงครั้งแรก
  • เป็นวิธีที่เจ็บน้อย ไม่มีทิ้งรอยแผลเป็นหลังทำ มีเพียงรอยเข็มเล็ก ๆ เท่านั้น
  • เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง เนื่องจากไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีบาดแผลให้ต้องดูแลเป็นพิเศษ
  • เห็นความเปลี่ยนแปลงทันทีหลังทำ
  • เป็นวิธีที่ยืดหยุ่น สามารถฉีดเติมหรือฉีดสลายได้โดยไม่เป็นอันตราย
  • ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่ทำให้ใบหน้าดูแปลกไปจากเดิม
  • ไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย (ในกรณีใช้ฟิลเลอร์ของแท้และฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น)

ข้อเสีย

  • ผลลัพธ์ไม่ถาวร แต่สามารถฉีดเติมได้เรื่อย ๆ เพื่อคงผลลัพธ์ไว้โดยไม่เป็นอันตราย
  • หลังทำอาจมีอาการบวมเล็กน้อย (แต่บางคนก็ไม่บวมเลย แล้วแต่กรณี)

เลือกทำหัตถการฟิลเลอร์บริเวณเปลือกตากับที่ไหนดี

การเลือกฉีดฟิลเลอร์บริเวณเปลือกตาที่ไหนดีให้ผลลัพธ์ออกมาดูดี คุ้มค่าการเงินในกระเป๋ามากที่สุด สามารถพิจารณาง่าย ๆ โดยใช้หลักเกณฑ์เหล่านี้ค่ะ

คลินิกต้องได้มาตรฐาน

คลินิกที่ได้มาตรฐานเป็นคลินิกที่ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข ผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบได้จากเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก ว่าเป็นคลินิกที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องหรือไม่ หรืออีกหนึ่งวิธีที่สามารถตรวจสอบได้คือ การนำชื่อคลินิกไปค้นหาในเว็บไซต์ของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หากพบชื่อก็แปลว่าคลินิกนั้นได้รับใบอนุญาตถูกต้อง

มีรีวิวจากคนไข้จริง

รีวิวจากคนไข้จริงที่เป็นตัวบ่งบอกฝีมือของแพทย์ว่าทำผลลัพธ์ออกมาน่าพึงพอใจหรือไม่ แต่ที่สำคัญรีวิวต้องมีความน่าเชื่อถือ ครบทั้งแบบรูปภาพ วิดีโอ และไลฟ์สด รวมถึงต้องมีการอัปเดตเป็นปัจจุบันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้คนไข้ที่กำลังสนใจใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ

ตรวจสอบสภาพแวดล้อมของคลินิก

แน่นอนว่าความสะอาดต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง ในกรณีนี้หมายถึงพื้นที่และการจัดเก็บอุปกรณ์ ทุกอย่างต้องถูกต้องตามหลักสุขอนามัย

ให้บริการโดยบุคลากรมืออาชีพ

บุคลากรให้การต้อนรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมให้บริการลูกค้าด้วยรอยยิ้ม และสามารถตอบข้อสงสัยของผู้สนใจเข้ารับบริการได้

เลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์

อย่างที่เราย้ำเสมอว่าเปลือกตาเป็นบริเวณที่ค่อนข้างอ่อนไหว เนื่องจากเป็นส่วนที่บอบบางและมีเส้นเลือดเยอะมาก ดังนั้นแพทย์จะต้องมีความรู้ความเข้าใจเรื่องกายวิภาคบนใบหน้าเป็นอย่างดี ทั้งยังต้องแม่นยำเรื่องคุณสมบัติของสารเติมเต็มชนิดต่าง ๆ เพื่อจะได้แนะนำคนไข้ให้เลือกใช้ได้อย่างเหมาะสม และที่สำคัญต้องอย่าลืมตรวจสอบใบประกอบวิชาชีพว่าเป็นแพทย์จริงหรือไม่ ซึ่งสามารถทำได้โดยการนำรายชื่อแพทย์ไปค้นหาในเว็บไซต์ของแพทยสภา

การฉีดฟิลเลอร์เปลือกตาราคาเท่าไหร่

เราต้องขออธิบายก่อนว่าราคาค่าบริการไม่อาจระบุอย่างแน่นอนได้ นั่นเพราะราคาจะแตกต่างออกไปตามปัจจัยต่าง ๆ จึงทำให้แม้ฉีดบริเวณเดียวกัน แต่ราคาของแต่ละคนก็จะไม่เท่ากัน ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาฟิลเลอร์มีดังนี้

ยี่ห้อ/รุ่นของสารเติมเต็มที่ใช้

เนื่องเพราะฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ/แต่ละรุ่นมีราคาที่แตกต่างกัน แพทย์จำเป็นต้องวิเคราะห์สภาพผิวและประเมินปัญหาของคนไข้แบบรายบุคคล ก่อนจะแนะนำสารเติมเต็มรุ่นที่เหมาะสมกับคนไข้แต่ละท่านค่ะ

ปริมาณ cc ที่ฉีด

ราคาฟิลเลอร์จะคำนวณเป็น cc ดังนั้นหากฉีดหลาย cc ราคาก็จะแพงขึ้น ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้เป็นหลัก หากคนไข้ต้องการแก้ปัญหาที่ค่อนข้างเยอะหรือแก้ปัญหาหลายจุด ปริมาณ cc ที่ใช้ก็จะเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาสูงขึ้นกว่าคนที่ฉีดแก้ปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ค่ะ

แต่ไม่ต้องเป็นกังวลไปนะคะ ที่ด็อกเตอร์เมฆคลินิกของเรามีบริการให้คำปรึกษาฟรีโดยทีมแพทย์ หากคนไข้ท่านไหนต้องการสอบถามปัญหาและประเมินราคาก็สามารถเข้ามาที่คลินิกเพื่อให้คุณหมอให้คำแนะนำได้ค่ะ นอกจากจะไม่มีค่าใช้จ่ายแล้ว คนไข้ยังสามารถเก็บไปตัดสินใจที่บ้านต่อได้ ไม่จำเป็นต้องปรึกษาแล้วด่วนตัดสินใจทำเลยค่ะ

เปรียบเทียบก่อนและหลังฉีด Filler เปลือกตา

เปรียบเทียบผลลัพธ์ก่อนและหลังฉีดสารฟิลเลอร์ในบริเวณเปลือกตา หลังฉีดจะเห็นได้ชัดว่าเบ้าตาที่โหลลึกดูเต็มขึ้น ทำให้โครงสร้างใบหน้าโดยรวมดูสมูท ดวงตาดูสดใส ใบหน้าดูเด็กลงอย่างเห็นได้ชัดค่ะ

รีวิวจากคนไข้ที่มาใช้บริการ

รีวิวจากคนไข้จริงที่มาใช้บริการฉีดฟิลเลอร์บริเวณเปลือกตากับด็อกเตอร์เมฆคลินิก คนไข้ส่วนใหญ่ต่างพึงพอใจในผลลัพธ์และให้เสียงตอบรับในทางเดียวกันว่าประทับใจมาก หลังเติมฟิลเลอร์ที่เปลือกตาแล้วใบหน้าดูสดใสขึ้น ดูเหนื่อยโทรมน้อยลง และชอบที่ทำให้ใบหน้าดูเด็กลงด้วย ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ไว้วางใจให้ด็อกเตอร์เมฆคลินิกของเราดูแลนะคะ ดูรีวิวจากคนไข้จริงที่นี่

การฉีดฟิลเลอร์เปลือกตาบนอันตรายไหม

การฉีดฟิลเลอร์บริเวณเปลือกตาจะปลอดภัยแบบไร้กังวลได้นั้น จำเป็นต้องอาศัยทั้งความเชี่ยวชาญของแพทย์และมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ที่ใช้ค่ะ อย่างที่เราทราบกันดีว่าดวงตานับเป็นอวัยวะสำคัญที่มีเส้นเลือดเยอะมาก ทั้งยังมีความบอบบาง ดังนั้นหากฉีดโดยแพทย์ที่ขาดประสบการณ์ ก็อาจเสี่ยงต่อปัญหาร้ายแรงอื่น ๆ ตามมาได้

ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า การฉีดฟิลเลอร์ที่บริเวณเปลือกตาเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยหากฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ของแท้ ก่อนตัดสินใจจึงควรศึกษาข้อมูลอย่างถี่ถ้วนก่อนเสมอเพื่อความปลอดภัยนะคะ

ฉีด Filler เปลือกตาใช้กี่ cc ถึงเห็นผล

ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ในการฉีดฟิลเลอร์ตำแหน่งเปลือกตา โดยทั่วไปเพียง 1-2 cc ก็สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจนแล้วค่ะ แต่ในที่นี้ แพทย์จะประเมินจากปัญหาของคนไข้เป็นหลักนะคะ ในกรณีที่คนไข้มีปัญหาตาหลายชั้น ชั้นตาไม่เท่ากัน ก็สามารถใช้ฟิลเลอร์เพียง 1 cc เพื่อแก้ไขปัญหาได้ค่ะ แต่หากคนไข้ท่านไหนมีปัญหาเบ้าตาลึกมาก ก็อาจใช้ฟิลเลอร์ปริมาณ 2 cc เพื่อเติมชั้นตาให้ดูเต็มขึ้นค่ะ

ในส่วนนี้เราไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะแพทย์จะประเมินร่วมกับเราอยู่แล้วว่าหลังฉีดผลลัพธ์จะออกมาประมาณไหน คนไข้พอใจไหม ก่อนที่แพทย์จะปรับให้ตามความเหมาะสมเพื่อให้ตรงกับความต้องการของคนไข้มากที่สุดค่ะ

การเตรียมตัวก่อนฉีด Filler เปลือกตา

การเตรียมตัวก่อนฉีดสารเติมเต็มฟิลเลอร์ที่ตำแหน่งเปลือกตาก็จะไม่ต่างจากการฉีดฟิลเลอร์ทั่วไปมาก หลังศึกษาข้อมูลอย่างถี่ถ้วนและนัดกับทางคลินิกเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่เราควรปฏิบัติก่อนไปพบคุณหมอ ได้แก่

  • ช่วง 24 ชั่วโมงก่อนฉีด ควรงดดื่มแอลกอฮอล์และกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น การคาร์ดิโอ การอบซาวน่า การนวดหน้า เป็นต้น
  • งดทายาผลัดเซลล์ผิวบริเวณที่จะฉีด 1 สัปดาห์ก่อนทำ
  • ควรงดทานยาประเภทแอสไพริน, ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs รวมถึงวิตามินต่าง ๆ ประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนฉีด เพราะอาจส่งผลต่อการหยุดไหลของเลือด แม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์จะมีเพียงแค่รอยเข็มเล็ก ๆ แต่เพื่อความปลอดภัยที่สุดจึงควรป้องกันไว้ก่อนค่ะ
  • งดทานเค็ม 1 วัน เนื่องจากการทานอาหารที่มีโซเดียมเยอะจะส่งผลต่อการบวมของใบหน้าและดวงตาได้
  • ไม่ควรเลเซอร์บริเวณใบหน้าอย่างน้อย 3 วันก่อนฉีด
  • ในขั้นตอนซักประวัติ ควรแจ้งโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา และแจ้งชนิดยาที่ทานเป็นประจำแก่แพทย์อย่างละเอียด

ขั้นตอนการฉีด

การฉีดฟิลเลอร์บริเวณเปลือกตาเป็นหัตถการใช้เวลาทำเพียงไม่นาน โดยขั้นตอนหลัก ๆ มีดังนี้

  • เข้ารับการประเมินปัญหาจากแพทย์ และให้แพทย์ช่วยเลือกชนิดสารเติมเต็มที่เหมาะสมให้
  • ผู้ช่วยแพทย์เข้ามาทำความสะอาดใบหน้าบริเวณจุดที่จะฉีด
  • แปะยาชาทิ้งไว้เป็นเวลา 30-45 นาที
  • รอจนยาชาออกฤทธิ์ แพทย์จึงเริ่มฉีดฟิลเลอร์บริเวณเปลือกตา โดยขั้นตอนนี้จะใช้เวลาประมาณ 10-30 นาที ซึ่งระหว่างนี้คนไข้จะอยู่ในท่านั่งหรือนอนเอียงในระดับที่หัวอยู่สูงกว่าหัวใจเพื่อไม่ให้เลือดออกมากขึ้น
  • แพทย์ให้คำแนะนำเรื่องการดูแลตัวเองหลังฉีดเสร็จ

ข้อปฏิบัติหรือข้อควรระวังหลังการฉีด Filler เปลือกตา

หลังฉีดสารเติมเต็มฟิลเลอร์ที่ตำแหน่งเปลือกตา หากต้องการให้ผลลัพธ์ออกมามีประสิทธิภาพและคงอยู่ได้นานขึ้น เราจำเป็นต้องดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดดังนี้

  • ห้ามขยี้ตา รวมถึงแกะ เกา นวด บริเวณที่ฉีดเด็ดขาด
  • เลี่ยงการทาครีมบริเวณรอยเข็ม 1 คืน
  • ควรนอนหัวสูงกว่าหน้าอกและไม่ควรนอนตะแคงในช่วง 2-3 คืนแรก เพื่อป้องกันการกดทับใบหน้า
  • หลีกเลี่ยงการโดนความร้อน ทั้งความร้อนจากแสงแดดหรือความร้อนจากการใช้ชีวิตประจำวัน (เช่น การประกอบอาหาร หรือการกินอาหารหน้าเตาร้อน ๆ) อย่างน้อย 3 วันแรก เนื่องจากมีผลต่อการเซ็ตตัวของฟิลเลอร์
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสอากาศร้อนในช่วง 48 ชั่วโมงแรกหลังทำ เพราะจะทำให้ใบหน้ายิ่งบวมขึ้นจากการที่เลือดหมุนเวียนมายังบริเวณใบหน้ามากขึ้น
  • สามารถอยู่ในที่อากาศเย็น ๆ ได้ เพราะจะช่วยให้ใบหน้ายุบบวมเร็วขึ้น
  • งดเลเซอร์ร้อนบริเวณใบหน้า รวมถึงงดการทำทรีตเมนต์บริเวณใบหน้าช่วง 14 วันแรกหลังฉีด

ผลข้างเคียงหลังฉีด Filler เปลือกตา

การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูง ไม่มีผลข้างเคียงร้ายแรง ซึ่งอาการข้างเคียงที่พบได้จะเป็นอาการทั่ว ๆ ไป สามารถหายได้เองดังนี้

  • รอยเข็มหรือรอยแดงบริเวณที่ฉีด สามารถหายได้เองภายใน 2-3 วันแรกโดยในระหว่างนี้ จึงควรหลีกเลี่ยงการทาครีมหรือแต่งหน้าทับบริเวณรอยเข็ม
  • อาจมีอาการบวมเล็กน้อย (แต่ไม่ได้บวมเยอะจนถึงขั้นทำให้ตาบวมตุ่ยเหมือนโดนผึ้งต่อย) ซึ่งอาการบวมนี้จะยุบและเข้าที่ภายใน 7-14 วันหลังทำแล้ว
  • เปลือกตาเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดเยอะมาก มีผลให้เกิดรอยช้ำได้ง่าย ซึ่งสามารถหายได้เองภายใน 1 สัปดาห์
  • หาก 14 วันหลังทำ อาการบวมยังไม่ยุบลง จนกระทั่งมีความผิดปกติบริเวณที่ฉีด เช่น อาการคัน รอยบวมแดง แนะนำให้รีบพบแพทย์เพื่อประเมินอาการต่อไป เนื่องจากเป็นผลข้างเคียงที่ไม่ปกติ

แต่ทั้งนี้ ผลข้างเคียงเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ล้วนเป็นผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและใช้ผลิตภัณฑ์ของแท้เท่านั้นนะคะ เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเข้ารับการรักษากับแพทย์ที่ขาดความเชี่ยวชาญหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ผลข้างเคียงก็จะรุนแรงกว่านี้แน่นอนค่ะ

คำถามที่พบบ่อย

นอกจากข้อควรรู้ก่อนฉีดสารฟิลเลอร์ที่บริเวณเปลือกตาแล้ว วันนี้เรายังได้รวบรวมคำถามยอดฮิตต่าง ๆ ที่พบบ่อยมากสำหรับผู้ที่สนใจเข้ารับบริการมาฝากทุกท่านด้วยค่ะ

ก่อนฉีดฟิลเลอร์เปลือกตาจะมีการแปะยาชาทิ้งไว้ประมาณ 30-45 นาที ซึ่งขั้นตอนนี้สามารถลดอาการเจ็บได้เยอะมาก แต่ในกรณีที่บางคนมีผิวบอบบาง ไวต่อความรู้สึก ก็อาจรู้สึกเพียงเล็กน้อยขณะเนื้อฟิลเลอร์ถูกฉีดเข้าสู่ผิว แต่เป็นความเจ็บในระดับที่ทนได้ค่ะ

ฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่ไม่ได้ให้ผลลัพธ์ถาวร โดยเฉลี่ยแล้วสามารถอยู่ได้นาน 12-18 เดือนขึ้นอยู่กับชนิดของสารเติมเต็มที่เลือกใช้ และการดูแลตัวเองหลังทำของแต่ละคนค่ะ

ฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ แต่จะเป็นผลลัพธ์เพียง 70-80 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นค่ะ เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะ เนื้อฟิลเลอร์จะเริ่มเซ็ตตัวกลืนกับผิวมากขึ้น รวมถึงอาการบวมจะค่อย ๆ ยุบลงจนเห็นผลลัพธ์อย่างเต็มที่ในที่สุด ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ใช้ระยะเวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์แล้วแต่บุคคลค่ะ

หากใครเพิ่งฉีดฟิลเลอร์เปลือกตาแล้วพบว่าบริเวณที่ฉีดมีอาการบวมเล็กน้อยก็ไม่ต้องตกใจไปนะคะ เพราะมันเป็นอาการข้างเคียงปกติหลังฉีดฟิลเลอร์ สามารถยุบลงได้เองภายใน 3-5 วันหลังจากที่ทำมาค่ะ

หลังฉีดฟิลเลอร์ แม้จะเห็นความเปลี่ยนแปลงทันที แต่นั่นก็ยังไม่ใช่ผลลัพธ์แบบร้อยเปอร์เซ็นต์นะคะ จำเป็นต้องรอให้อาการบวมยุบลงอย่างเต็มที่และรอให้เนื้อฟิลเลอร์เซ็ตตัวเข้าที่ดีก่อน ซึ่งกระบวนการนี้จะใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ ดังนั้นหลังฉีด ผลลัพธ์จะเข้าที่ภายใน 1-2 สัปดาห์ค่ะ

หลังฉีดฟิลเลอร์บริเวณเปลือกตา จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้เป็นเวลา 7-14 วัน

  • อาหารหมักดอง เนื่องจากอาหารเหล่านี้มีผลทำให้หลอดเลือดขยายตัว อาการบวมจึงยุบช้าลง
  • อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ เพราะจะมีผลให้รอยเข็มเกิดการอักเสบหรือติดเชื้อได้
  • อาหารรสจัดทั้งเผ็ดจัด หวานจัด เค็มจัด เพราะมีผลให้ยุบบวมช้าลง
  • อาหารที่ต้องอยู่หน้าเตาร้อน ๆ เช่น ชาบู หมูกระทะ จิ้มจุ่ม เป็นต้น เพราะความร้อนจะทำให้ผิวยืดหดมากกว่าปกติ จึงมีผลต่อการเซ็ตตัวของฟิลเลอร์
  • บุหรี่และเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ สองสิ่งนี้มีผลให้หลอดเลือดบนใบหน้าขยายตัว เลือดสูบฉีดเยอะขึ้น จึงมีผลให้ยุบบวมได้ช้าลง ทั้งยังทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้สั้นลงอีกด้วย

หลังฉีดแนะนำให้หลีกเลี่ยงการขยี้ตาโดยเด็ดขาด เนื่องจากการขยี้ตาจะส่งผลให้ฟิลเลอร์เคลื่อนออกจากจุดฉีดจนผิดตำแหน่งได้ ทั้งยังมีส่วนทำให้ผิวเปลือกตาคล้ำและผิวหนังรอบดวงตาเหี่ยวย่นได้ง่าย หรือถ้าใครมีอาการคันตา แนะนำให้แก้ปัญหาด้วยการหยอดน้ำตาเทียมเพื่อลดอาการระคายเคืองตาแทนค่ะ

ฉีดแล้วตาบอด เป็นความผิดพลาดจากการเลือกใช้บริการกับแพทย์ผู้ขาดความเชี่ยวชาญ หรือใช้ฟิลเลอร์ของปลอมที่ไม่สามารถสลายตัวได้ ซึ่งในกรณีข้างต้นนี้ส่งผลให้มีโอกาสฉีดผิดพลาดจนทำให้ฟิลเลอร์ไหลเข้าหลอดเลือดจนเกิดการอุดตัน ทำให้เสี่ยงต่ออาการตาพร่ามัวหรือตาบอดได้ แต่ถ้าเราอยู่ในความดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ใช้บริการกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของแท้ที่มีคุณภาพ ผลข้างเคียงร้ายแรงเหล่านี้ก็แทบจะไม่เกิดขึ้นเลยค่ะ

ช่วงหลังฉีดแรก ๆ หากจำเป็นต้องใส่ แนะนำให้ระมัดระวังเป็นพิเศษค่ะ ควรดูแลเรื่องความสะอาดของคอนแทกเลนส์ให้ดี และควรระวังไม่ให้มือไปกระทบโดนบริเวณที่ฉีดระหว่างใส่ค่ะ แต่ในวันเข้ารับบริการไม่แนะนำให้ใส่คอนแทกเลนส์นะคะ รอให้ฉีดเสร็จก่อนดีกว่าค่ะ

สำหรับผู้มีภาวะดวงตาแห้ง แนะนำให้เข้าปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อประเมินอาการก่อนว่าแห้งมากน้อยแค่ไหน หากมีอาการไม่มาก แพทย์ก็อาจจะให้หยอดน้ำตาเทียมเป็นระยะเวลาหนึ่งก่อนฉีด แต่ถ้าใครมีปัญหาตาแห้งมาก ๆ อาจต้องหยอดน้ำตาเทียมจนกว่าอาการจะดีขึ้นตามดุลยพินิจของแพทย์ จึงจะเริ่มฉีดฟิลเลอร์ได้ค่ะ

สำหรับผู้ที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์เปลือกตาก่อนทำเลสิก แนะนำให้รอฟิลเลอร์เข้าที่อย่างน้อย 2–4 สัปดาห์ก่อนค่ะ เพื่อป้องกันอาการบวมหลังทำหรืออาการเคืองตาที่อาจเกิดขึ้นได้ หลังฟิลเลอร์เข้าที่ดีแล้ว ก็สามารถเข้าพบแพทย์เพื่อปรึกษาเรื่องทำเลสิกต่อไปได้ค่ะ

ต้อลมเป็นอาการผิดปกติของเนื้อเยื่อบุตาขาว ส่วนใหญ่มักจะเกิดจากอาการตาแห้ง จะสังเกตได้ว่ามีขอบ ๆ เกิดขึ้นบริเวณเยื่อบุตาขาว หากใครที่ป่วยเป็นต้อลม อันที่จริงสามารถฉีดฟิลเลอร์ได้ค่ะ แต่จะไม่แนะนำสำหรับผู้ที่มีปัญหาตาแห้งมาก ๆ เพราะเสี่ยงต่อภาวะตาอักเสบหรือระคายเคืองตาได้ ดังนั้นจึงควรปรึกษาจักษุแพทย์และแพทย์ผิวหนังร่วมด้วยเพื่อประเมินอาการก่อนฉีดฟิลเลอร์นะคะ

ต้อหินเป็นการเสื่อมของขั้วประสาทตา มีน้ำในลูกตาเยอะ ส่งผลให้ความดันลูกตาสูงขึ้น ซึ่งถ้าคนไข้ยังคุมความดันตาไม่ได้ ไม่แนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ค่ะ นั่นเพราะหลังฉีดฟิลเลอร์จะมีอาการบวมเล็กน้อยประมาณ 2-3 วัน ซึ่งอาการตาบวมก็อาจส่งผลให้ความดันตาเพิ่มขึ้นได้ แต่หากใครที่สามารถควบคุมความดันตาได้ ก็สามารถปรึกษาจักษุแพทย์และแพทย์ผิวหนังเพื่อประเมินอาการก่อนฉีดนะคะ

ต้อกระจกมีสาเหตุมาจากเลนส์ตามีความเสื่อมหรือขุ่นไปตามอายุ ทำให้เห็นว่าเลนส์ตาขุ่นขึ้น หรืออาจมีสีเหลืองบริเวณนั้น ส่งผลให้คนไข้มีอาการตามัว ซึ่งภาวะต้อกระจกจะแบ่งความรุนแรงออกเป็น 4 ระดับ หากคนไข้มีภาวะต้อกระจกที่อยู่ในระยะ 1-2 ซึ่งความรุนแรงยังไม่มากนักก็สามารถฉีดฟิลเลอร์เปลือกตาได้ค่ะ เพราะยังไม่ส่งผลต่อความดันตา

แต่หากคนไข้เป็นต้อกระจกอยู่ในระยะที่ 3-4 เลนส์ตาเริ่มแข็งหรือมัวมาก ๆ ในกรณีนี้ไม่ควรฉีดค่ะ แต่ทั้งนี้ ควรปรึกษาจักษุแพทย์และแพทย์ผิวหนังก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์เสมอนะคะ

หลังฉีดฟิลเลอร์เปลือกตาสามารถกรีดตาหรือแต่งหน้าได้ตามปกติ แต่แนะนำว่าในช่วง 24 ชั่วโมงแรก ควรเว้นบริเวณรอยเข็ม และแนะนำให้กรีดอย่างระมัดระวัง เบามือให้มากที่สุด และต้องห้ามขยี้หรือกดทับบริเวณที่ฉีดเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เนื้อฟิลเลอร์เคลื่อนที่ออกจากบริเวณที่ฉีดได้

เมื่อฟิลเลอร์สลาย สภาพดวงตาของเราจะค่อย ๆ กลับไปเป็นปกติเหมือนตอนก่อนฉีดค่ะ แต่จะไม่มีทางสภาพย่ำแย่ลงกว่าเดิม นั่นเพราะระหว่างที่เนื้อฟิลเลอร์ยังคงอยู่ในชั้นผิว มันจะทำหน้าที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนภายใน ทั้งยังช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นไปเลี้ยงเนื้อเยื่อผิวบริเวณรอบ ๆ ดังนั้นหลาย ๆ คนแม้ฟิลเลอร์จะสลายแล้ว ก็ยังพบว่าสภาพผิวบริเวณนั้นดูดีขึ้นกว่าแต่ก่อน นั่นเพราะคอลลาเจนที่สร้างใหม่ยังคงหลงเหลืออยู่ในชั้นผิว แต่แค่สภาพจะไม่ได้เต็มอิ่ม ดูดีเท่าตอนที่ฟิลเลอร์ยังไม่สลาย

ในช่วง 2-3 วันแรก บริเวณที่ฉีดจะมีอาการบวมเล็กน้อย แต่ไม่ได้ถึงขั้นบวมตุ่ยอย่างเห็นได้ชัด และสามารถยุบบวมได้เอง จึงไม่จำเป็นต้องพักฟื้นค่ะ

สำหรับผู้ที่เพิ่งทำเลสิกมา แนะนำให้เว้นระยะห่างประมาณ 1 เดือน เพื่อให้แผลที่กระจกตาหายเป็นปกติก่อน หลังแผลปิดสนิทดีแล้วก็สามารถฉีดฟิลเลอร์เปลือกตาได้ตามปกติค่ะ

สำหรับบางกรณีที่คนไข้เคยศัลยกรรมตาสองชั้น เมื่อผ่านไป 1-2 ปี หลังทำแล้วพบว่าชั้นตาดูลึกขึ้น เบ้าตาดูโหลกว่าเก่า หรือเกิดปัญหาตาหลายชั้น กรณีนี้สามารถใช้ฟิลเลอร์เติมเต็มเบ้าตาให้กลับมาเต็มสวยเหมือนเดิมได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องเจ็บตัวผ่าตัดรอบสองเลย

ในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์เปลือกตาแล้วอยากทำศัลยกรรมตาในภายหลัง แนะนำว่าให้รอจนกว่าฟิลเลอร์จะสลายหมดจนเปลือกตากลับคืนสู่สภาพเดิมก่อนค่ะ แล้วหลังจากนั้นค่อยปรึกษาศัลยแพทย์เพื่อทำศัลยกรรมต่อไป

สำหรับใครที่มีปัญหาเบ้าตาลึก ตาหลายชั้น อันเกิดจากสาเหตุอายุที่มากขึ้นหรือเพราะโครงสร้างของใบหน้าที่เป็นมาตั้งแต่กำเนิด การฉีดฟิลเลอร์เปลือกตาก็สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้อย่างเห็นผลดี ที่สำคัญ Filler ยังเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย เห็นผลลัพธ์ได้เร็ว ทั้งยังเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรก แต่ข้อควรระวังคือ ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ เนื่องจากบริเวณเปลือกตาเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดจำนวนมาก ความเชี่ยวชาญของแพทย์จึงสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ดังนั้นต้องอย่าลืมเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตนเองเสมอนะคะ

ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก นพ.วัชพล ธนมิตรามณี (คุณหมอเมฆ)​
นายแพทย์ด้านผิวหนังและแพทย์ผู้สอนฟิลเลอร์