ช่วงนี้มีการทยอยเปิดตัวยี่ห้อใหม่ ๆ กันเยอะมาก ซึ่ง Mesofiller ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์น้องใหม่มาแรง เมโสฟิลเลอร์ส่งตรงมาจากประเทศสเปน ซึ่งกำลังจะมาเป็นดาวดวงใหม่แห่งวงการสารเติมเต็ม ด้วยความโดดเด่นของตัวผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีการผลิตที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะ ทำให้ได้สารเติมเต็มที่มีประสิทธิภาพสูง รวมถึงยังเป็นยี่ห้อแรกและยี่ห้อเดียวที่ผ่านการรับรองจากอย. ไทย สำหรับการฉีดที่บริเวณจุดซ่อนเร้นของคุณผู้หญิงโดยเฉพาะอีกด้วย เรียกได้ว่าตอบโจทย์ครอบคลุมทุกปัญหาผิว เติมเต็มและฟื้นฟูให้ผิวกลับมาอ่อนเยาว์ วันนี้ ใครที่ไม่อยากพลาดเทรนด์ความงามตัวใหม่มาแรง เดี๋ยวเรามาทำความรู้จักกับแบรนด์น้องใหม่นี้กันให้มากขึ้นว่าคืออะไร มีกี่รุ่น กี่แบบ เหมาะกับใครบ้าง ช่วยเรื่องอะไร แตกต่างจากยี่ห้ออื่น ๆ อย่างไร และราคาเท่าไหร่ เพื่อเป็นข้อมูลที่จะมาเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจกันค่ะ
ทำความรู้จัก Mesofiller คืออะไร
Mesofiller (เมโสฟิลเลอร์) คือ ผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มในกลุ่มของกรดไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid หรือ HA) ที่อยู่ภายใต้บริษัท mesoestetic ซึ่งมีเทคโนโลยีการผลิตสารเติมเต็มที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของบริษัทที่เรียกว่า “Densimatrix Technology” ช่วยให้ได้สารเติมเต็ม HA แบบ Cross-linked Hyaluronic Acid 100% (non-free HA) โดยเป็นเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อการแก้ไขปัญหาผิวได้ทุกจุดอย่างครอบคลุม นำมาใช้เติมเต็มผิวหน้าเพื่อแก้ไขจุดบกพร่องและปัญหาต่าง ๆ เช่น ริ้วรอย ร่องลึก ผิวตอบ (Loss Volume) ผิวหย่อนคล้อย ปัญหาถุงใต้ตา และความหมองคล้ำใต้ตา นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับคุณภาพในด้านมาตรฐานการผลิต ความปลอดภัย และสามารถให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงค่ะ
จุดเด่นของเมโสฟิลเลอร์ที่ครองใจแพทย์ชั้นนำของโลก
สำหรับ Mesofiller เป็นสารเติมเต็มที่มีความโดดเด่น ซึ่งมีเทคโนโลยีและกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน รวมถึงได้รับการพัฒนามาเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มที่มีประสิทธิภาพสูง มีความปลอดภัย และมีหลากหลายรุ่น ตอบโจทย์กับปัญหาผิวได้อย่างครอบคลุมและตรงจุด จึงทำให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญชั้นนำของโลกต่างก็แนะนำและเลือกใช้กันอย่างแพร่หลายค่ะ
เทคโนโลยีการผลิตที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะ
เป็นผลิตภัณฑ์สารเติมเต็ม HA ที่ผ่านเทคโนโลยีการผลิตที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะที่เรียกว่า Densimatrix Technology ทำให้ได้กรดไฮยาลูรอนิก แอซิด ที่มีความบริสุทธิ์สูงในรูปแบบโครงสร้าง Cross-linked ทั้งหมด 100% หรือกรดไฮยาลูรอนิก แอซิด ที่ผ่านกระบวนการทำให้คงตัวและมีสายพันธะเกาะเกี่ยวกันแบบหนาแน่น ได้เนื้อสารเติมเต็มที่ฟู ซึ่งแม้ว่าจะฉีดในปริมาณที่น้อยกว่ายี่ห้ออื่น ๆ ทั่วไป ก็ยังสามารถให้ผลลัพธ์ที่ดี นอกจากนี้ เนื้อเจลยังมีความสม่ำเสมอ ไม่จับตัวกันเป็นก้อน คงรูปได้ดี จึงช่วยให้ผลลัพธ์หลังฉีดออกมาสวยเนียนเป็นธรรมชาติ
สารเติมเต็มที่ปลอดภัยกับร่างกาย
ด้วยกระบวนการผลิตพิเศษของเมโสฟิลเลอร์ ทำให้ได้สารเติมเต็ม HA ที่มีความบริสุทธิ์สูง เข้ากันได้ดีกับร่างกาย เนื่องจากมีการทำให้ค่า BDDE เหลือน้อยกว่า 0.05 ppm. จากค่ามาตรฐานที่ FDA กำหนดไว้ไม่เกิน 2 ppm. และยังเป็นค่า BDDE ที่ต่ำมาก ๆ เมื่อเปรียบกับยี่ห้อตัวอื่น ๆ จึงช่วยลดโอกาสการแพ้ และมีความปลอดภัยสูง
เนื้อสารเติมเต็มมีหลากหลายโมเลกุล
เป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ได้เนื้อที่มีหลายโมเลกุล หรือหลายความเข้มข้น ซึ่งจะถูกแบ่งออกเป็นแต่ละรุ่นที่ต่างกัน เหมาะสำหรับเลือกใช้ในการเติมเต็มผิวได้ทุกจุด และสามารถตอบโจทย์ทุกปัญหาผิวที่แตกต่างกันไป ทั้งการช่วยเติมวอลลุ่ม ปรับรูปหน้า ลดเลือนริ้วรอย กระชับผิว ซึ่งนอกจากฉีดได้ที่บริเวณใบหน้าแล้ว ยังมีรุ่นพิเศษที่สามารถนำมาฉีดบริเวณจุดซ่อนเร้นได้อีกด้วย
ลดอาการเจ็บและอาการบวม
Meso Filler Injection เป็นนวัตกรรมการฉีดสารเติมเต็มที่ช่วยลดอาการเจ็บและลดความบวมหลังฉีด ด้วยอนุภาคที่มีขนาดเล็กกว่า 400 ไมครอน ซึ่งเป็นขนาดที่เล็กกว่าเส้นผ่านศูนย์กลางของเข็ม จึงช่วยให้ลดแรงดันขณะที่ฉีดเข้าสู่ผิวหนัง ทำให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทำการฉีดได้ง่าย สม่ำเสมอ แม่นยำ รวมถึงช่วยการควบคุมในการฉีดได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งยังส่งผลให้ลดความเจ็บขณะฉีดและลดอาการบวมหลังฉีดได้
Mesofiller มีกี่แบบ กี่รุ่น
อย่างที่อธิบายไว้ในตอนต้นนะคะว่า Mesofiller เป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกออกแบบมาหลากหลายโมเลกุล สามารถเลือกนำมาใช้เติมเต็มและแก้ปัญหาผิวที่แตกต่างกันไป โดยแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ สำหรับใช้ที่ใบหน้า และสำหรับใช้กับบริเวณจุดซ่อนเร้น ซึ่งผลิตภัณฑ์จะแบ่งออกเป็น 4 รุ่น ที่เหมาะสำหรับนำมาใช้บริเวณต่าง ๆ ดังนี้
สำหรับใบหน้า
เมโสฟิลเลอร์สามารถนำมาใช้เพื่อเติมเต็มจุดบกพร่องต่าง ๆ บนใบหน้า ช่วยลดเลือนริ้วรอย เติมร่องลึกให้ตื้นขึ้น ปรับผิวให้เรียบเนียน เต่งตึง เติมผิวให้อิ่มฟู ชุ่มชื่น ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ ซึ่งในแบบที่ใช้กับใบหน้านั้น จะนิยมเลือกใช้ 3 รุ่น ดังนี้ค่ะ
Intense
รุ่นแรกนี้ จะมีลักษณะเนื้อเจลที่แข็ง และมีความเข้มข้นที่ค่อนข้างสูงอยู่ที่ 25 มิลลิกรัม มีคุณสมบัติที่ยืดหยุ่นสูงและหนืด จึงเหมาะสำหรับนำมาเติมเต็มเพื่อการปรับรูปหน้าและการยกกระชับ เช่น บริเวณหางคิ้ว, ขมับ, หน้าแก้ม, กรอบหน้า และคาง โดยให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้ยาวนาน 12 เดือน* (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)
Global
สำหรับรุ่นนี้จะมีเนื้อเจลที่นุ่มกว่าแบบแรก ซึ่งมีความเข้มข้นของ HA อยู่ที่ 20 มิลลิกรัม มีคุณสมบัติตรงที่ฉีดแล้วเกลี่ยง่าย กลืนเรียบไปกับผิว ไม่ทำให้เป็นก้อน ซึ่งเหมาะสำหรับนำมาฉีดเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกที่รุนแรงระดับปานกลาง และยังช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้ผิวอิ่มฟูอีกด้วย เช่น บริเวณร่องแก้ม, รอบดวงตา, ระหว่างคิ้ว, ริมฝีปาก และบริเวณลำคอ ส่วนระยะเวลาของผลลัพธ์นั่น ก็คงอยู่ได้นาน 9-12 เดือน* (ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)
Periocular
มาถึงรุ่น Periocular จะมีลักษณะของเนื้อเจลที่นิ่มกว่ารุ่นอื่น ๆ มีความเข้มข้นของ HA ในปริมาณ 15 มิลลิกรัม จึงมีความหนืดน้อย เมื่อฉีดแล้วจะกลืนไปกับผิวได้ง่าย ซึ่งเหมาะสำหรับนำมาฉีดเติมเต็มริ้วรอยแบบตื้น ๆ เช่น ที่หน้าผากและรอบดวงตา โดยหลังฉีดจะให้ผลลัพธ์ได้นาน 9-12 เดือน* (ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)
สำหรับจุดซ่อนเร้น
นอกจากบริเวณใบหน้าแล้ว Mesofiller ยังสามารถนำมาใช้เติมเต็มบริเวณจุดซ่อนเร้นได้ทั้งภายนอกและภายในอีกด้วย สำหรับคุณผู้หญิงที่กำลังมีปัญหาจุดซ่อนเร้นไม่สวยงาม เหี่ยวย่น หย่อนคล้อย การฉีดเมโสฟิลเลอร์ก็นับว่าเป็นตัวช่วยสำคัญ ที่จะทำให้คุณผู้หญิงได้กลับมามีความมั่นใจได้อีกครั้งค่ะ
Sensitive Plus
รุ่น Sensitive Plus เป็นผลิตภัณฑ์สารเติมเต็ม HA ตัวแรกและตัวเดียวในขณะนี้ ที่ผ่านการรับรองจากอย. ไทย (Thai FDA) ที่ใช้สำหรับฉีดบริเวณจุดซ่อนเร้นโดยเฉพาะ ซึ่งเนื้อเจลจะมีลักษณะแน่น และมีความเข้มข้นของ HA ที่สูงกว่ารุ่นอื่น ๆ คือ 25 มิลลิกรัม เหมาะสำหรับนำมาฉีดฟื้นฟูให้อิ่มเอิบ เพิ่มวอลลุ่ม ปรับผิวให้ตึงกระชับ แก้ปัญหารอยเหี่ยวย่น สามารถนำมาฉีดได้ทั้งบริเวณภายในและภายนอก นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติที่สามารถฉีดได้หลายบริเวณแต่เป็นจุดเปิดเดียวกัน ซึ่งสารเติมเต็มที่ฉีดเข้าไปจะสามารถกระจายตัวออกไปได้อย่างครอบคลุม ฉีดแล้วผิวเรียบเนียนสม่ำเสมอ พร้อมกับช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ช่วยฟื้นฟูบริเวณจุดซ่อนเเร้นของคุณผู้หญิงให้กลับดูดีได้อีกครั้ง ฉีดแล้วผลลัพธ์อยู่ได้นาน 9-12 เดือน* (ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)
- ฟื้นฟูบริเวณจุดซ่อนเร้นได้ทั้งภายในและภายนอก ให้กลับมาอิ่มเอิบ เต่งตึง เติมเต็มความชุ่มชื่น ปรับสีผิวให้สว่างใส พร้อมฟื้นฟูการทำงานภายในช่องคลอด รวมถึงช่วยลดภาวะปัสสาวะเล็ดได้
เมโสฟิลเลอร์ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
สำหรับ Mesofiller เป็นสารเติมเต็มที่ได้รับการพัฒนาเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูง สามารถแก้ปัญหาผิวได้อย่างครอบคลุม ฉีดได้ในหลายบริเวณทั้งที่ใบหน้าและบริเวณจุดซ่อนเร้น โดยมีการศึกษาวิจัยในคนไข้เกี่ยวกับผลลัพธ์ที่ได้หลังจากฉีดเมโสฟิลเลอร์ ซึ่งการวิจัยในคนไข้ 100% พบว่าริ้วรอยลดเลือนได้จริง, 94% มีความพึงพอใจในผลลัพธ์ที่ได้ และ 90% มีความพอใจและจะกลับมาฉีดซ้ำอีกในอนาคต เดี๋ยวเรามาดูกันเพิ่มเติมว่าผลลัพธ์ในแต่ละบริเวณที่ฉีดไปแล้วนั้น จะมีอะไรกันบ้างค่ะ
ผลลัพธ์บริเวณใบหน้า
- เพิ่มวอลลุ่มให้ผิวอิ่มฟู แก้ปัญหาบริเวณที่มีปัญหาซูบตอบ
- เติมเต็มริ้วรอยและร่องลึกให้ตื้นขึ้น ผิวเรียบเนียนดูอ่อนเยาว์
- ปรับรูปหน้าให้สวยสมส่วน ใบหน้าดูมีมิติมากยิ่งขึ้น
- ยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย เก็บกรอบหน้าให้ชัดขึ้น
- ปรับผิวที่แห้งกร้านให้กลับมาชุ่มชื่น สุขภาพดี
ผลลัพธ์บริเวณจุดซ่อนเร้น
- ปรับแต่งรูปทรงบริเวณให้อวบอิ่ม
- ช่วยให้มีความกระชับเต่งตึง มีความยืดหยุ่น
- ช่วยให้บริเวณช่องคลอดมีความเรียบเนียน
- เพิ่มความชุ่มชื่นบริเวณภายในช่องคลอด แก้ปัญหาช่องคลอดแห้ง
- ช่วยฟื้นฟูกระบวนการทำงานภายในช่องคลอด
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ช่วยให้ผิวอิ่มฟู เต่งตึง สีผิวกระจ่างใส
- ลดปัญหาของภาวะปัสสาวะเล็ด
- ปรับให้ช่องคลอดมีความสมดุลขึ้น
Mesofiller เหมาะกับใคร
- ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย มีร่องลึก รอยยับย่น ที่ทำให้ใบหน้าดูแก่ก่อนวัย
- ผู้ที่มีปัญหาผิวซูบตอบ ต้องการเติมเต็มวอลลุ่มให้บริเวณที่มีปัญหากลับมาอิ่มเอิบ
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้มีมิติและสมส่วนมากยิ่งขึ้น
- ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยรอบดวงตา ใต้ตาหมองคล้ำ
- ผู้ที่ต้องการเติมริมฝีปากให้อวบอิ่ม ชุ่มชื่น แก้ปัญหาปากบาง ปากไม่ได้ทรงสวย ริมฝีปากแห้ง
- ผู้ที่มีปัญหากรอบหน้าไม่ชัด กรอบหน้าหย่อนคล้อย
- ผู้ที่มีปัญหาจุดซ่อนเร้นไม่สวยงาม ต้องการความอิ่มเอิบ เต่งตึง
เปรียบเทียบ Mesofiller vs ยี่ห้ออื่น ๆ
ด้วยความที่ตอนนี้ มีสารเติมเต็มหลากหลายยี่ห้อออกมาให้เราได้เลือกใช้ หลายคนคงยังสงสัยหรือลังเลว่า ระหว่าง Mesofiller และยี่ห้ออื่น ๆ มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร ต้องอธิบายแบบนี้ค่ะว่า สารเติมเต็มในกลุ่มของกรดไฮยาลูรอนิก แอซิด หรือ HA ล้วนมีคุณสมบัติที่เหมือนกันคือ ช่วยเติมเต็มวอลลุ่มให้ผิว ช่วยให้ผิวอิ่มฟู ชุ่มชื่น ช่วยให้ริ้วรอยร่องลึกตื้นขึ้น ผิวอ่อนวัย มีหลากหลายโมเลกุลให้เลือกใช้ได้ตามปัญหาผิวที่แตกต่างกัน แต่ทั้งนี้ อาจมีความแตกต่างกันในเรื่องประเทศที่ผลิต, เทคโนโลยีการผลิต, จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ และระยะเวลาของผลลัพธ์ นอกจากนี้ เมโสฟิลเลอร์จะมีความโดดเด่นหรือข้อดีตรงที่เป็นเทคโนโลยีเฉพาะที่ทำให้ได้ HA แบบ Cross-linked 100% ได้เนื้อเจลที่มีความฟู คงตัวดี เนื้อสม่ำเสมอ ฉีดแล้วเนียนเรียบไปกับผิว และยังมีรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อใช้ฉีดบริเวณจุดซ่อนเร้นโดยเฉพาะค่ะ
Mesofiller ราคาเท่าไหร่
การฉีด Mesofiller ราคาเริ่มต้นที่ 12,000 บาท* ทั้งนี้ราคาอาจมีความแตกต่างและมีการเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับปริมาณของสารเติมเต็ม และตำแหน่งที่ฉีดตามที่แพทย์จะพิจารณาเลือกใช้ให้เหมาะกับการแก้ปัญหาผิวที่แตกต่างกันไปในคนไข้แต่ละราย รวมถึงบางรายอาจต้องใช้เทคนิคพิเศษในการฉีด และโปรโมชั่นที่ทางคลินิกจัดขึ้นตามช่วงเวลาต่าง ๆ โดยแนะนำให้คนไข้เข้ารับการตรวจวิเคราะห์ปัญหาผิวเบื้องต้นกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทำการวางแผนการรักษาและประเมินราคาอย่างละเอียดค่ะ
ข้อควรพิจารณาเลือกฉีด Mesofiller ที่ไหนดี
ก่อนการฉีด สิ่งที่สำคัญที่คนไข้ควรพิจารณาเลือกอย่างถี่ถ้วนว่าจะเลือกฉีด Mesofiller ที่ไหนดี นอกจากปัจจัยเรื่องยี่ห้อแล้ว จะต้องพิจารณาว่าควรฉีดกับใคร ฉีดที่ไหน และปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจ ทั้งนี้ เพื่อผลลัพธ์ที่ออกมาสวยเป็นธรรมชาติ มีความปลอดภัย ฉีดแล้วคุ้มค่าค่ะ โดยแนะนำให้พิจารณาเลือกฉีดเมโสฟิลเลอร์จากปัจจัยดังนี้
- ฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะต้องเป็นแพทย์ที่มีทักษะ ความรู้ และประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์โดยตรง เพราะจะรู้หลักกายวิภาคศาสตร์ใบหน้าเป็นอย่างดี สามารถวิเคราะห์ปัญหาผิวได้ลึกซึ้งถึงต้นตอสาเหตุ รวมถึงรู้ลึก-รู้จริงเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มและเทคนิคการฉีดอย่างถูกต้อง ถูกตำแหน่ง จึงจะสามารถแก้ปัญหาที่มีได้อย่างตรงจุด มีความปลอดภัย ไม่เสี่ยงกับผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายตามมา
- ฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ซึ่งจะต้องเป็นคลินิกหรือสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือ ได้รับรองอย่างถูกต้องจากกระทรวงสาธารณสุข มีเลขใบอนุญาตประกอบกิจการ 11 หลัก ติดแสดงอยู่ด้านหน้าสถานที่อย่างชัดเจน
- ฉีดสารเติมเต็มที่เป็นของแท้เท่านั้น โดยเป็นผลิตภัณฑ์ของแท้ ไม่ใช่ของหิ้ว เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและมีความปลอดภัยต่อร่างกาย ซึ่งคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อย่างครบถ้วน หลังฉีดแล้วให้กล่องผลิตภัณฑ์แก่คนไข้นำกลับบ้าน เพื่อนำมาตรวจสอบได้
- ดูรีวิวคนไข้จริง ทั้งรีวิวที่เป็นภาพถ่าย วิดีโอ ซึ่งจะต้องเป็นรีวิวที่เห็นความเปลี่ยนแปลงหลังฉีดได้อย่างชัดเจน เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจก่อนเลือกใช้บริการ
ข้อควรรู้และข้อควรปฏิบัติเกี่ยวกับการเข้ารับบริการนี้
ก่อนเข้ารับบริการฉีด แนะนำให้คนไข้ศึกษารายละเอียดทั้งการเตรียมตัว, ขั้นตอนการรักษา รวมถึงวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีด เพื่อเป็นการรับทราบข้อมูลและเป็นการเตรียมร่างกายให้พร้อม ซึ่งจะส่งผลต่อผลลัพธ์ที่ดี มีความปลอดภัย ไม่เสี่ยงกับผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายค่ะ
การเตรียมตัวก่อนฉีด
- หากมีโรคประจำตัว มีประวัติแพ้ยา แพ้ยาชา หรือกำลังรับประทานยาชนิดใดเป็นประจำอยู่ ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อน
- 1 สัปดาห์ก่อนฉีด งดรับประทานยาหรือวิตามินในกลุ่มที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
- 3-5 วันก่อนฉีด งดดื่มแอลกอฮอล์และงดการสูบบุหรี่
- งดการทาครีมหรือทายาที่มีส่วนผสมที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว และงดการทำทรีทเม้นต์หรือแว็กซ์ผิวก่อนทำการฉีด
- หากฉีดที่บริเวณจุดซ่อนเร้นของคุณผู้หญิง ควรทำความสะอาดและทำการกำจัดขนก่อนเข้ารับบริการ
- หากฉีดที่บริเวณใบหน้า ไม่ควรแต่งหน้าในวันที่เข้ารับบริการ
- ดื่มน้ำเยอะ ๆ รวมถึงการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อเป็นการเตรียมร่างกายให้พร้อม
ขั้นตอนการฉีด
- แพทย์ทำการวิเคราะห์ปัญหาผิว และกำหนดจุดที่จะฉีดอย่างเหมาะสม จากนั้น แนะนำรายละเอียดการรักษาต่าง ๆ ให้กับคนไข้
- เช็ดทำความสะอาดใบหน้าด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อบริเวณที่จะทำการฉีด
- ทำการแปะยาชา จากนั้นรอให้ยาชาออกฤทธิ์
- เมื่อยาชาออกฤทธิ์แล้ว แพทย์ทำการฉีดสารเติมเต็มลงไปยังบริเวณที่ได้ทำการกำหนดจุดไว้แล้ว ด้วยปริมาณที่เหมาะสม และฉีดไปยังตำแหน่งที่ถูกต้อง
- หลังจากฉีดเสร็จแล้ว คนไข้สามารถกลับบ้านได้ และใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ โดยหลังจากนี้ คนไข้จะต้องมีการดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์
การดูแลตัวเองหลังฉีด
- หลังฉีดอาจมีรอยแดงและรอยเข็ม ซึ่งเป็นอาการปกติและจะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 2-3 วัน
- ดื่มน้ำเยอะ ๆ วันละ 2 ลิตร เพื่อช่วยเสริมประสิทธิภาพของการอุ้มน้ำของสารเติมเต็ม
- หลีกเลี่ยงการเกา แกะ หรือการสัมผัสผิวแรง ๆ บริเวณที่ฉีด
- หลังฉีด 24 ชั่วโมง คนไข้สามารถกลับมาแต่งหน้าได้ตามปกติ
- หลีกเลี่ยงการโดนความร้อนหรืออยู่ในที่ที่ร้อน เช่น การเข้าซาวน่า และการนั่งหน้าเตาปิ้งย่างร้อน ๆ
- หลังฉีด 48 ชั่วโมง งดการออกกำลังกายหนัก ๆ
- หลังฉีด 1-2 วัน ควรงดดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่
คลินิกของเราคือตัวจริงเรื่องฟิลเลอร์
- มาตรฐานการรักษาระดับอาจารย์แพทย์ ดูแลคนไข้ทุกเคสด้วยมาตรฐานระดับอาจารย์แพทย์ โดยอาจารย์หมอเมฆ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่มีดีกรีระดับอาจารย์แพทย์ผู้สอนเทคนิคการฉีดให้กับบรรดาแพทย์ความงามในประเทศไทย
- รางวัลอันดับ 1 ระดับเอเชีย ด้วยรางวัลอันดับ 1 ยอดฉีดสูงสุดในเอเชีย-แปซิฟิก รวมถึงรางวัลอันดับ 1 Single Clinic คลินิกที่มียอดฉีดสูงสุดในประเทศไทยรวมทุกแบรนด์ 6 สมัยซ้อน (2018-2023)
- ฉายา “หมอของดารา” ได้รับความไว้วางใจจากเหล่าดารา นางแบบ นายแบบ และเซเลบริตี้ชื่อดังในไทยให้ดูแลความสวยความหล่อมาอย่างต่อเนื่อง จนได้รับฉายาหมอของดารา
- เทคนิคที่คิดค้นเฉพาะ ฉีดด้วยเทคนิคพิเศษ Triple Layers Lift ที่คิดค้นและนำมาประยุกต์ใช้โดยอาจารย์หมอเมฆ ด้วยการฉีดในหลายระดับชั้นผิว วางรากฐานตั้งแต่ชั้นกระดูก เลือกฉีดได้ตามปัญหาผิวของคนไข้ที่มีแตกต่างกันในแต่ละเคส เพื่อการแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด
- ดูแลจุดซ่อนเร้นโดยสูตินรีแพทย์หญิง (คุณหมอแอร์ พญ.พิชญานิน สื่อมโนธรรม) ซึ่งมีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์เพศหญิง และเทคนิคการฉีดสารเติมเต็มที่ถูกต้อง พร้อมการรักษาโดยสูตินรีแพทย์ที่เป็นผู้หญิง จึงช่วยให้คนไข้อุ่นใจ ลดความเขินอาย
- เน้นผลลัพธ์และความปลอดภัย ผสานหลักการวิเคราะห์ปัญหาผิวด้วยหลักกายวิภาคศาสตร์ และการออกแบบดีไซน์ใบหน้าแบบเฉพาะบุคคล เพื่อผลลัพธ์ที่ดูดีแต่ยังคงความเป็นธรรมชาติในแบบของคนไข้ นอกจากนี้ ยังเลือกใช้แต่ผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มของแท้เท่านั้น สามารถตรวจสอบได้ทุกชิ้น
- รีวิวแน่นเต็มสต็อก ด้วยความเป็นมืออาชีพ ทำให้คนไข้พึงพอใจในผลลัพธ์จนเกิดกระแสบอกปากต่อปาก ทำให้เรามีทั้งคนไข้เก่าและคนไข้ใหม่อย่างต่อเนื่อง มีรีวิวจากเคสคนไข้จริงให้เลือกชมเยอะ ทั้งรูปแบบภาพนิ่ง, วิดีโอ และไลฟ์สด การันตีว่าทำแล้วเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรก
คำถามที่พบบ่อย
หลังฉีดแล้วกี่วันถึงจะเห็นผล
หลังจากฉีดเมโสฟิลเลอร์แล้ว จะสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ในทันที 20%* ผิวจะอิ่มฟูและได้รับการเติมเต็ม ริ้วรอยลดเลือน ผิวกระชับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิว รวมถึงปริมาณของสารเติมเต็มที่ฉีดเข้าไป โดยหลังจากนี้ ผลลัพธ์จะค่อย ๆ เห็นผลอย่างชัดเจนใน 2-4 สัปดาห์หลังฉีด
หลังฉีดอยู่ได้นานไหม
สำหรับเมโสฟิลเลอร์เป็นผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มในกลุ่มของ HA ที่มีเทคโนโลยีการผลิตที่ถูกพัฒนาเพื่อให้ได้สารเติมเต็มที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งจะให้ผลลัพธ์ได้อย่างยาวนาน 9-12 เดือน* ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาผิว การเลือกใช้รุ่นของสารเติมเต็ม รวมถึงการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคลที่แตกต่างกันออกไป โดยหากอยากให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้อย่างยาวนานเต็มที่ แนะนำให้คนไข้ดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดค่ะ
สามารถทำรวมกับหัตถการอื่น ๆ ได้ไหม
หลังฉีดแล้วสามารถทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ เพื่อเสริมประสิทธิภาพของผลลัพธ์ได้ค่ะ แต่ทั้งนี้ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะต้องเป็นผู้พิจารณาตามความเหมาะสมกับคนไข้แต่ละราย เช่น หากอยากทำร่วมกับโบท็อก หรือการทำหัตถการเลเซอร์อื่น ๆ อย่างการทำ Thermage, HIFU หรือ Ulthera เป็นต้น หรือในรายที่อยากจะทำหัตถการอื่น ๆ ในการดูแลจุดซ่อนเร้น เช่น การทำ Lady O-shot หรือการกระชับช่องคลอด Mini Repair ก็สามารถทำได้ค่ะ
ฉีดแล้วจะเป็นอันตรายไหม
เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มในกลุ่มของไฮยาลูรอนิก แอซิด ซึ่งสกัดมาจากธรรมชาติ โดยมีการเลียนแบบสารไฮยาลูรอนิก แอซิดที่มีอยู่ตามธรรมชาติในร่างกายคนเรา และยังผ่านเทคโนโลยีการผลิตที่ทำให้ได้สารเติมเต็มที่มีความบริสุทธิ์ เข้ากันได้ดีกับร่างกายเรา และยังมีประสิทธิภาพสูง จึงไม่เป็นอันตรายค่ะ นอกจากนี้ ยังได้รับการรับรองมาตรฐานจากอย. ไทย และยังมีรุ่นที่ผ่านอย. ไทย เพื่อนำมาใช้ฉีดบริเวณจุดซ่อนเร้นโดยเฉพาะค่ะ
สรุป
Mesofiller แบรนด์น้องใหม่ที่มีความโดดเด่นน่าจับตามองมากเลยค่ะ เพราะด้วยประสิทธิภาพของสารเติมเต็มที่ถือว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ซึ่งนอกจากจะนำมาเติมเต็มที่ใบหน้าได้แล้ว ยังมีรุ่นเฉพาะที่สามารถนำมาฉีดบริเวณจุดซ่อนเร้นของคุณสาว ๆ โดยเฉพาะ ผ่านการรับรองจากอย. ไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับใครที่กำลังมองหายี่ห้อ Filler ที่ฉีดแล้วปัง ๆ เทรนด์ใหม่แห่งปี เมโสฟิลเลอร์นับว่าเป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่แนะนำเลยค่ะ โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม พร้อมประเมินปัญหาผิวเบื้องต้นกับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของทางคลินิกเราได้ทุกสาขา หรือสะดวกแอดไลน์ทักแชทพูดคุยกับเราได้ที่ LINE : @doctormekclinic (มี @ นำหน้า)