Revolax Filler เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ของสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในประเทศอังกฤษ และยังได้รับความนิยมจากเหล่าดาราและ Celebrity ชื่อดังของฝั่งยุโรปอีกด้วย โดยการนำเทคโนโลยีการผลิตที่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้สารเติมเต็มที่มีประสิทธิภาพสูง สำหรับในบ้านเรา “รีโวแลกซ์” ก็กำลังเข้ามาเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่หลายคนจะต้องตกหลุมรักอย่างแน่นอน วันนี้ เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับแบรนด์นี้กันให้มากขึ้นว่าคืออะไร มีเทคโนโลยีการผลิตแบบไหน มีกี่รุ่น แต่ละรุ่นเหมาะกับการฉีดตรงไหน ฉีดแล้วอยู่ได้นานไหม ราคาเท่าไหร่ เพื่อเป็นข้อมูลที่ช่วยในการตัดสินใจค่ะ
Revolax Filler คืออะไร
Revolax Filler (รีโวแลกซ์) คือ ผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มในกลุ่มของ Hyaluronic Acid หรือ HA นำมาใช้เพื่อเติมเต็มวอลลุ่มให้ผิวอิ่มฟู แก้ปัญหาร่องลึก ลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย เติมความชุ่มชื่นให้ผิว ช่วยปรับรูปหน้าให้มีมิติ และยกกระชับผิวหน้า ด้วยเทคโนโลยีการผลิตแบบเฉพาะตัวที่ทำให้ได้สารเติมเต็ม HA มีความบริสุทธิ์สูง มีประสิทธิภาพ และยังปลอดสารไพโรเจน (Pyrogen) ที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เสี่ยงต่อการแพ้น้อยลง นอกจากนี้ ยังช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพที่ยาวนานถึง 18 เดือน* (ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล) ผ่านการรับรองมาตรฐานจากยุโรป (CE Certified) รวมถึงผ่านอย. ประเทศไทย (Thai FDA) เป็นที่เรียบร้อย การันตีด้วยยอดการใช้ผลิตภัณฑ์กว่า 30 ล้านชิ้นใน 29 ประเทศทั่วโลก
เป็นสารเติมเต็ม HA ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในฝั่งของยุโรป ด้วยเทรนด์การเติมเต็มใบหน้าที่มาแรงทุกยุคทุกสมัย ทำให้หลายคนต้องหันมาดูแลตัวเองเพื่อให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ รวมไปถึงกลุ่มของดาราและ Celebrity ชื่อดังในอังกฤษ ต่างก็เลือกใช้ผลิตภัณฑ์รีโวแลกซ์ในการเติมเต็มผิวหน้าให้ดูดีเสมอ ทั้งเวลาที่ต้องออกกล้อง หรือแม้กระทั่งไม่แต่งหน้า ไม่ใช้เมคอัพ ก็ยังดูดีได้ตลอดเวลา ยกตัวอย่างเช่น Emily Miller ผู้เข้าร่วมรายการซีรีย์ชื่อดัง Too Hot To Handle จาก Netflix และสาวสุดเซ็กซี่อย่าง Faye Winter ที่เลือกฉีดรีโวแลกซ์ที่บริเวณริมฝีปากให้อวบอิ่ม นอกจากนี้ ยังมี Brooke Lynn Hytes และ Nicky Doll จากรายการชื่อดัง RuPaul’s Drag Race US รวมถึง Molly Mae จากรายการ Love Island ที่เลือกฉีดเพื่อปรับลุคตัวเองให้เป๊ะปังอยู่เสมอค่ะ
เทคโนโลยีการผลิตเฉพาะตัวและคุณสมบัติที่โดดเด่น
Revolax เป็นผลิตภัณฑ์สารเติมเต็ม HA ที่อยู่ในรูปแบบของ Monophasic Cross-Linked ที่ได้จากนวัตกรรมเทคโนโลยีการผลิตเฉพาะตัวที่เรียกว่า “HEXAlink” ซึ่งเป็นกระบวนการสร้างให้เกิดพันธะที่ยาวนานต่อเนื่องเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ทำให้สารเติมเต็ม HA สามารถขึ้นรูปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดเป็นโครงข่ายที่มีความสม่ำเสมอ มีความหนาแน่น คงตัว และสามารถยืดหยุ่นได้ดี ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้มีคุณสมบัติในการยกและปรับรูปหน้าได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังมีกระบวนการผลิตที่ผ่านความร้อนและความเย็น ช่วยให้เนื้อเจลของสารเติมเต็มมีความคงทนต่อทุกสภาพอุณหภูมิ รวมถึงมีการใช้สารเชื่อมพันธะหรือ BDDE ในระดับปริมาณที่เหมาะสม ช่วยให้โครงข่ายของสารเติมเต็มยึดเกาะกันได้ดี ไม่หลุดจากกัน ผสานกับกระบวนการกำจัดสารตกค้าง BDDE ให้เหลือเป็น 0% ก่อนที่จะทำการบรรจุภัณฑ์ ทำให้ได้สารเติมเต็ม HA ที่มีความบริสุทธิ์สูง ไม่ทิ้งสารตกค้าง มีความปลอดภัย และเป็นสารเติมเต็มที่สามารถเข้ากันได้ดีกับร่างกาย
นอกจากนี้ ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย และได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องของรีโวแลกซ์ ทำให้ได้สารเติมเต็มที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งมาพร้อมคุณสมบัติที่โดดเด่น ดังนี้
- High Performance ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีการผลิต HEXAlink ทำให้ได้สารเติมเต็มที่มีประสิทธิภาพสูง มีความยืดหยุ่น คงตัว มีความหนืด ฉีดแล้วช่วยให้แพทย์สามารถปั้นทรงได้ง่าย นอกจากนี้ ยังเป็นสารเติมเต็มที่สามารถเข้ากันได้ดีกับเนื้อเยื่อในร่างกาย และคงผลลัพธ์ได้ยาวนาน 9-18 เดือน* (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)
- Comfortable ในทุกรุ่นของผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมของยาชา (Lidocaine) ปริมาณ 0.3% ซึ่งเป็นปริมาณที่พอเหมาะ ช่วยระงับความเจ็บปวดขณะฉีดได้ดี ส่งผลให้คนไข้รู้สึกสบายผิวและไม่รู้สึกเจ็บขณะฉีด และเนื้อของสารเติมเต็มยังมีคุณสมบัติที่ยืดหยุ่นดี ทำให้แพทย์สามารถฉีดได้ง่ายขึ้น ฉีดแล้วเกลี่ยง่ายกลืนไปกับผิว ได้ผลลัพธ์สวยเป็นธรรมชาติ
- Safety เลือกใช้สารเติมเต็มที่มาจากแหล่ง Hyaluronic Acid ที่ไม่ได้มาจากสัตว์ และเป็น Biodegradable ที่สามารถย่อยสลายได้เองทั้งหมด ไม่เหลือสิ่งตกค้างในร่างกาย รวมถึงมีเทคโนโลยีพิเศษที่ช่วยให้ปลอดไพโรเจน (Pyrogen) หรือสารที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย และกระบวนการกำจัดสารตกค้างจากสารเชื่อมพันธะของ Hyaluronic Acid เป็นระยะเวลา 15 วัน ก่อนที่จะทำการบรรจุภัณฑ์ ซึ่งช่วยลดโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดอาการแพ้หรือสารพิษสะสม นอกจากนี้ ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจากยุโรป หรือ CE Certified และอย. ประเทศไทย (Thai FDA)
Revolax Filler มีกี่รุ่น แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร
Revolax Filler มีการแบ่งออกเป็น 3 รุ่น โดยทั้ง 3 รุ่นนี้ จะมีส่วนผสมของยาชา หรือ Lidocaine อยู่ในปริมาณ 0.3% แต่ทั้งนี้ในแต่ละรุ่นนั้น มีความแตกต่างกันที่โมเลกุลของเนื้อสารเติมเต็ม ซึ่งเหมาะกับการเลือกนำมาใช้ฉีดเพื่อเติมเต็มผิวในบริเวณที่แตกต่างกันไป ดังนี้
FINE with Lidocaine
เป็นรุ่นที่มีลักษณะเนื้อเจลที่บางเบาที่สุดในบรรดา 3 รุ่นทั้งหมด จึงเหมาะกับการนำมาฉีดเติมเต็มในผิวชั้นตื้น แก้ไขปัญหาริ้วรอยต่าง ๆ เช่น หน้าผาก, รอบดวงตา รวมถึงที่บริเวณลำคอ และยังนิยมนำมาฉีดปากให้อวบอิ่ม เติมร่องลึกให้ตื้นขึ้น เติมความชุ่มชื่นให้ริมฝีปาก
DEEP with Lidocaine
สำหรับรุ่น DEEP นั้น จะมีลักษณะเนื้อของสารเติมเต็มที่มีความยืดหยุ่นและหนืดในระดับปานกลาง นิยมนำมาเติมเต็มบริเวณร่องแก้ม ฉีดเติมหน้าแก้มให้อวบอิ่ม ปรับรูปคางให้เรียวสวย และสามารถนำมาเติมเต็มที่ริมฝีปากได้
SUB-Q with Lidocaine
ในรุ่น SUB-Q จะมีลักษณะของเนื้อสารเติมเต็มที่มีความยืดหยุ่นและมีความหนืดมากที่สุด เหมาะกับการนำมาฉีดเพื่อปรับรูปหน้า เพิ่มวอลลุ่ม และยกกระชับผิว เช่น นำมาฉีดเสริมคาง, ฉีดปรับรูปทรงจมูก, ฉีดหน้าแก้มให้อิ่มฟู และฉีดตามแนวกราม เพื่อปรับกรอบหน้าให้ชัดและยกกระชับขึ้น ทำให้ใบหน้าดูมีมิติมากยิ่งขึ้น
Revolax ช่วยอะไร
- เติมเต็มเพิ่มวอลลุ่มให้ผิวอิ่มฟู
- ลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย เติมเต็มร่องลึกให้ตื้นขึ้น
- เติมเต็มผิวบริเวณที่ซูบตอบให้กลับมาเรียบเนียน ผิวอิ่มเอิบ
- ปรับรูปหน้าให้มีมิติ สมส่วน รับกับบริเวณอื่น ๆ บนใบหน้าอย่างลงตัว
- ปรับแต่งรูปทรงของริมฝีปากให้อวบอิ่ม ชุ่มชื่น
- เติมความชุ่มชื่นให้กับผิว แก้ไขปัญหาผิวหน้าแห้งกร้าน ริมฝีปากแห้งลอก
- ยกกระชับผิวให้เต่งตึง แก้ปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อยจากกระดูกที่ยุบตัว
Revolax เหมาะกับใคร
- คนที่มีริ้วรอย มีร่องลึก ผิวขาดวอลลุ่ม
- คนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด ผิวขาดความยืดหยุ่น
- คนที่มีปัญหาแก้มตอบ ขมับยุบ ต้องการเติมเต็มผิวให้อิ่มฟู มีมิติ
- คนที่ต้องการปรับรูปหน้า เช่น เติมเต็มคางให้ยาวขึ้น หรือการฉีดเพื่อปรับรูปทรงจมูกให้ดูดีขึ้น
- คนที่ต้องการแก้ปัญหาหรือต้องการเปลี่ยนสไตล์รูปทรงริมฝีปาก เช่น คนที่มีปัญหาปากบาง, ริมฝีปากแห้ง, มีริ้วรอยเหี่ยวย่น ทาลิปสติกแล้วตกร่อง, อยากได้ริมฝีปากที่อวบอิ่มขึ้นแบบสายฝอ หรือปรับรูปทรงปากกระจับ เป็นต้น
Revolax ราคาเท่าไหร่
สำหรับการฉีด Revolax ราคาเริ่มต้นที่ 9,999 บาท* ทั้งนี้ราคาอาจแตกต่างกันไปในแต่ละเคส ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ใช้, สภาพผิวของคนไข้แต่ละราย, เทคนิคพิเศษอื่น ๆ ที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญพิจารณาเลือกใช้ รวมไปถึงการจัดโปรโมชั่นของคลินิกในแต่ละช่วงเวลา ทั้งนี้ แนะนำให้คนไข้เข้ารับการประเมินสภาพผิวเบื้องต้นกับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของทางคลินิกเราโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
Revolax ฉีดบริเวณไหนได้บ้าง
- หน้าผาก ลดเลือนริ้วรอยหน้าผาก เติมผิวให้อิ่มเอิบ
- ใต้ตา เติมเต็มร่องลึกใต้ตา ลดเลือนริ้วรอย รอยตีนกา รอยย่นระหว่างคิ้ว
- แก้ม เติมเต็มแก้มให้อิ่มฟู แก้ไขปัญหาแก้มตอบ ขาดวอลลุ่ม ไม่มีมิติ
- จมูก ปรับสันจมูกให้โด่งขึ้น เติมแก้ฮัมพ์จมูกให้เรียบ ปรับรูปทรงจมูกให้ได้สัดส่วน
- ร่องแก้ม เติมเต็มร่องแก้มให้ตื้นขึ้น ช่วยให้ใบหน้าโดยรวมเด็กลง
- ริมฝีปาก เติมเต็มริมฝีปากให้อวบอิ่ม แก้ปัญหาปากบาง ช่วยให้ริมฝีปากชุ่มชื่น และสามารถปรับรูปทรงได้หลากหลายสไตล์ เช่น ปากกระจับ สายเกาหลี สายฝอ เป็นต้น
- แนวกรอบหน้า ยกกระชับผิวกรอบหน้า ปรับแนวกรอบหน้าหรือ Jaw Line ให้ชัดขึ้น
- คาง เสริมคางให้ยาวขึ้น แก้ปัญหาคางสั้น คางตัด คางบุ๋ม ช่วยทำให้รูปหน้าเรียวยาวแบบไม่ต้องผ่าตัด ให้ผลลัพธ์ที่เน้นความเป็นธรรมชาติ
- ลำคอ เพื่อเติมเต็มเส้นริ้วรอยบริเวณลำคอ ช่วยให้ผิวที่คอกลับมาเรียนเนียนเต่งตึงขึ้น
ข้อแนะนำในการพิจารณาเลือกฉีด Revolax ที่ไหนดี
ก่อนตัดสินใจฉีดไม่ว่าจะเป็น Revolax หรือยี่ห้ออื่น ๆ ควรพิจารณาเลือกคลินิกหรือสถานพยาบาลอย่างรอบคอบ เพื่อผลลัพธ์ที่ดี ปลอดภัย และคุ้มค่ากับเงินที่ต้องเสียไป โดยแนะนำให้พิจารณาจากปัจจัย ดังนี้
- ฉีดกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ ต้องเป็นแพทย์ที่มีทักษะและประสบการณ์ด้านผิวหนังและการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ ซึ่งจะสามารถวิเคราะห์ปัญหาผิวได้ลึกถึงต้นตอ และทำการวางแผนการฉีดที่เหมาะสมกับคนไข้แต่ละรายได้ เพื่อการแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุดและปลอดภัย
- ฉีดกับคลินิกหรือสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือ ได้มาตรฐานครบครัน โดยจะต้องมีใบอนุญาตประกอบสถานพยาบาลอย่างถูกต้อง ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข
- ฉีดด้วยผลิตภัณฑ์ของแท้เท่านั้น ซึ่งคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานจะต้องใช้ของแท้เท่านั้น โดยการใช้จะต้องมีการแกะกล่องผลิตภัณฑ์ต่อหน้าคนไข้ มีการอธิบายรายละเอียดกับคนไข้อย่างละเอียด และจะต้องให้กล่องผลิตภัณฑ์กลับบ้านเพื่อให้คนไข้สามารถตรวจสอบได้ทุกชิ้น
ขั้นตอนการฉีด
- แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทำการวิเคราะห์ปัญหาผิวและทำการวางแผนการฉีดที่เหมาะสม รวมถึงแนะนำรายละเอียดการรักษากับคนไข้
- เช็ดทำความสะอาดใบหน้าด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อบริเวณที่จะทำการฉีด
- ทำการแปะยาชาและรอให้ยาชาออกฤทธิ์
- แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทำการฉีดสารเติมเต็มลงไปยังบริเวณที่ได้ทำการกำหนดจุดไว้แล้ว ด้วยปริมาณที่เหมาะสม และฉีดไปยังตำแหน่งที่ถูกต้อง
- หลังจากฉีดเสร็จแล้ว แพทย์จะมีการแนะนำวิธีการดูแลตัวเองที่ถูกต้องกับคนไข้ จากนั้น คนไข้สามารถกลับบ้านได้และใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
การเตรียมตัวก่อนฉีด
- หากมีโรคประจำตัว หรือกำลังรับประทานยาชนิดใดอยู่ หรือมีประวัติแพ้ยาชา ควรแจ้งให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทราบก่อน
- งดรับประทานยาและวิตามินที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น ยาแอสไพริน, ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs, ยาละลายลิ่มเลือด, วิตามินซี วิตามินอี, น้ำมันตับปลา เป็นต้น
- 24 ชั่วโมงก่อนฉีด ควรงดดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่
- หากมีภาวะผิวหนังอักเสบ มีแผลเปิด หรือผิวหนังติดเชื้อในบริเวณที่จะทำการฉีด ควรรักษาอาการดังกล่าวให้หายดีก่อนทำการฉีด
- งดการทาครีม ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว และยาทาที่มีส่วนผสมของสารผลัดเซลล์ผิว รวมถึงงดการทำเลเซอร์บริเวณที่จะทำการฉีด
การดูแลตัวเองหลังฉีด
- หลังฉีด ควรดื่มน้ำเยอะ ๆ วันละ 2-3 ลิตร เพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพของสารเติมเต็มให้ดียิ่งขึ้น
- คนไข้สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ หลังฉีดแล้ว 24 ชั่วโมง
- หลังฉีดอาจมีรอยเข็มและรอยแดงเกิดขึ้น ซึ่งเป็นอาการปกติที่พบได้และจะดีขึ้นใน 2-3 วัน
- หากมีอาการบวมหลังฉีด คนไข้สามารถใช้วิธีประคบเย็นเพื่อลดอาการบวม
- งดการนวด สัมผัสผิว การเกาหรือแกะ รวมถึงการกดที่ผิวบริเวณฉีดแรง ๆ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพราะอาจทำให้สารเติมเต็มเกิดการไหลไปยังบริเวณอื่นและผิดรูปได้
- หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้กับความร้อน เช่น การซาวน่า, การอยู่ใกล้เตาปิ้งย่าง, การตากแดดจัด รวมถึงงดออกกำลังกายอย่างหนักเป็นเวลา 2 วันหลังฉีด
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ใน 1-2 วันหลังฉีด
คำถามที่พบบ่อย
หลังฉีดอยู่ได้นานไหม
เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์สารเติมเต็ม HA ที่มีประสิทธิภาพสูง หลังฉีดแล้วผิวจะอิ่มฟู ช่วยให้ร่องลึกที่มีตื้นขึ้นได้ตั้งแต่ครั้งแรก ซึ่งเมื่อระยะเวลาผ่านไป จะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนเต็มที่ใน 1-2 สัปดาห์ และให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน 9-18 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและปัญหาผิว, การดูแลตัวเองของแต่ละบุคคล รวมถึงรุ่นของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ ดังนี้
- รุ่น FINE ให้ผลลัพธ์ยาวนาน 9-12 เดือน* (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)
- รุ่น DEEP ให้ผลลัพธ์ยาวนาน 12-18 เดือน* (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)
- รุ่น SUB-Q ให้ผลลัพธ์ยาวนาน 12-18 เดือน* (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)
หลังฉีดมีผลข้างเคียงไหม
หลังฉีดอาจพบอาการบวมแดงจากเข็มได้เล็กน้อย ซึ่งเป็นอาการปกติ สำหรับรอยเข็มนั้นจะค่อย ๆ หายได้เองใน 2-3 วัน ส่วนอาการบวมจะค่อย ๆ หายไปภายใน 1-2 สัปดาห์ค่ะ
ฉีดแล้วจะเป็นอันตรายไหม
สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid มีความปลอดภัยต่อร่างกาย เนื่องจากเป็นสารสังเคราะห์ที่ถูกผลิตเลียนแบบกรด Hyaluronic Acid ที่มีอยู่ตามธรรมชาติในร่างกายคนเรา และยังสามารถนำมาเติมเต็มในบริเวณต่าง ๆ ที่เราต้องการ ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยแห่งวัย ร่องลึก ผิวขาดวอลลุ่ม ช่วยให้ผิวกลับมาอิ่มฟู กระชับเต่งตึง เรียนเนียน เติมผิวให้ชุ่มชื่น ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้เอง จึงทำให้กลายเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ฉีดแล้วให้ผลลัพธ์ที่สวยเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรองมาตรฐานจากยุโรป (CE Certified) และอย. ประเทศไทยค่ะ
สรุป
Revolax Filler อีกหนึ่งแบรนด์น้องใหม่ที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้สารเติมเต็ม HA ที่บริสุทธิ์และมีประสิทธิภาพสูง ฉีดแล้วกลืนไปกับผิวได้อย่างเป็นธรรมชาติ และยังมีกระบวนการผลิตที่ช่วยให้ได้สารเติมเต็มที่ปลอดภัยต่อร่างกาย มีหลากหลายรุ่นไว้เลือกใช้ฉีดเติมเต็มในบริเวณที่ต่างกัน ตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการ สำหรับที่คลินิกของเราก็ไม่พลาดที่จะนำแบรนด์ดังอันดับ 1 ในอังกฤษอย่างรีโวแลกซ์มาใช้เช่นเดียวกัน ส่วนใครที่สนใจอยากฉีด Filler โดยอาจารย์แพทย์ผู้สอนเทคนิคการฉีดสารเติมเต็มของประเทศไทย แนะนำให้เข้ารับการประเมินเบื้องต้นก่อนได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ