ชวนมาทำความรู้จักกับ Teoxane (เทออกเซน) ผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มอันทรงคุณภาพจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มาพร้อมกับจุดเด่นที่มีความคงตัวสูง และสามารถยืดหยุ่นไปตามแรงโน้มถ่วงหรือการเคลื่อนไหวบนใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่แยกตัวออกจากกัน ฉีดแล้วกลืนกินไปกับผิวได้ดี ให้ผลลัพธ์อย่างเป็นธรรมชาติ ตอบโจทย์อย่างยิ่งสำหรับคนที่ชอบแสดงสีหน้าอยู่เป็นประจำ ต้องการตัวช่วยในการฟื้นฟูให้ใบหน้ากลับมาดูอิ่มฟูอีกครั้ง ในบทความนี้ จะพามาเจาะลึกทุกข้อสงสัยว่ามันคืออะไร มีจุดเด่นที่แตกต่างจากยี่ห้ออื่นยังไงบ้าง เพื่อเป็นทางเลือกให้กับคนที่สนใจหรืออยากรู้จักกับแบรนด์ใหม่กันค่ะ
Teoxane คืออะไร
Teoxane คือ หนึ่งในแบรนด์นำเข้ามาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ส่วนประกอบไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) มาผ่านกระบวนการผลิตที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ (Unique Preserved Network Technology) จนได้สารเติมเต็มที่มีความบริสุทธิ์สูง สามารถอุ้มน้ำใต้ชั้นผิวและเติมเต็มผิวในบริเวณที่มีร่องลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติโดยไม่เหลือสารตกค้างไว้ในร่างกาย มีการผลิตภายใต้บริษัท Teoxane Laboratories แนะนำเข้ามาจัดจำหน่ายในประเทศไทยในบริษัท BJL
Teoxane มาพร้อมเทคโนโลยีการผลิตที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ
ความพิเศษของแบรนด์ Teoxane นี้ก็คือ มีเทคโนโลยีการผลิตเป็นเอกลักษณ์เฉพาะชื่อว่า Unique Preserved Network Technology ทำให้กรดไฮยาลูรอนิก แอซิด มีโครงข่ายแบบโซ่ที่เชื่อมต่อกัน ซึ่งมันจะคล้ายกับโครงข่ายของกฎไฮยาลูรอนิก แอซิด ในร่างกายของเรามากที่สุด มันจึงสามารถเข้ากันได้กับร่างกายและผิวของเรา
นอกจากนี้ ยังแยกออกเป็น 2 กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ให้คุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไปอีกด้วย ได้แก่
RHA
เรียกได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์รายแรกที่มีสารเติมเต็มกลุ่ม RHA (Resilient Hyaluronic Acid) โดยให้คุณสมบัติในการจัดการกับริ้วรอย Dynamic เป็นริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า ซึ่งใน RHA นี้จะประกอบไปด้วยกรดไฮยาลูรอนิก แอซิด (HA) ที่โดดเด่นกว่า HA แบบทั่วไปตรงที่สามารถขึ้นรูป ยืดตัวได้ดี เช่น เมื่อเราแสดงสีหน้าต่าง ๆ ตัวสารเติมเต็มนี้ก็จะยืดหยุ่นไปตามแรงเคลื่อนไหวบนใบหน้า และกลับเข้าสู่รูปเดิมได้ปกติ คงความเรียบเนียนและไม่แยกตัวออกจากกัน
PureSense
ในกลุ่ม PureSense ก็จะเด่นในเรื่องของการเติมเต็มวอลลุ่มในบริเวณที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นแก้ม ขมับ หรือจะนำมาปรับรูปหน้าในบริเวณคาง กราม ซึ่งสารเติมเต็มในกลุ่มนี้ ก็จะมีทั้งรุ่นที่ให้ความเข้มข้นของ HA สูง สามารถปรับปรุงคุณภาพผิว มอบความชุ่มชื้นให้ผิวแน่น และสามารถแก้ไขปัญหาผิวที่มีการเสื่อมสภาพของคอลลาเจน หรือนำไปเติมชั้นไขมันที่มีการหย่อนคล้อยจากอายุที่เพิ่มมากขึ้นได้
ฉีด Teoxane ช่วยอะไรบ้าง
อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า การฉีด Teoxane ยี่ห้อนี้ จะมีความโดดเด่นในเรื่องของการให้ความยืดหยุ่นที่ดี และสามารถนำไปเติมเต็มในจุดที่มีการเคลื่อนไหวบนใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่แยกตัวออกจากกัน นอกจากนี้แล้ว มันยังช่วยในด้านอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย อาทิเช่น
- ปรับรูปหน้าให้มีมิติมากยิ่งขึ้น
- ลดริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้าให้ดูตื้นขึ้น
- มอบความชุ่มชื้น และสามารถกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว
- ให้ผิวหน้าดูเต่งตึงกระชับมากยิ่งขึ้น
- ปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดูเรียบเนียนสุขภาพดี
- ลดริ้วรอยแห่งวัยบริเวณเนินอกหรือลำคอ
- ปรับรูปทรงของริมฝีปากให้ได้ทรงที่สวยงาม ดูอวบอิ่ม
- แก้ไขปัญหาใต้ตาลึกได้ดี
เทออกเซนเหมาะกับใคร
- คนที่ชอบแสดงสีหน้าบ่อย ทำให้เกิดรอยย่นตามจุดต่าง ๆ
- คนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ผิวไม่กระชับ ทำให้กรอบหน้าดูไม่ชัดเจน
- คนที่ต้องการเติมเต็มผิวให้ดูฟูขึ้นจากปัญหาผิวซูบตอบ เช่น แก้มตอบ ขมับตอบ เป็นต้น
- คนที่ต้องการปรับรูปหน้าให้สมส่วน หรือทำให้ดูมีมิติมากยิ่งขึ้น
- คนที่มีริ้วรอยทั้งบริเวณใบหน้า ลำคอ และช่วงเนินอก
- คนที่มีริมฝีปากตก ริมฝีปากบาง หรือปากทั้งสองข้างไม่เท่ากัน
- คนที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็วโดยไม่ต้องพักฟื้น
Teoxane มีทั้งหมดกี่รุ่น
สำหรับแบรนด์ Teoxane ได้ผลิตแยกออกมาทั้งหมด 6 รุ่น โดยในแต่ละรุ่นนั้นก็จะมี Texture หรือการฉีดเฉพาะจุดที่แตกต่างกันออกไป บางรุ่นเหมาะสำหรับนำมาฉีดชั้นผิวตื้น หรือบางรุ่นก็จะเหมาะสำหรับนำมาฉีดชั้นผิวลึก หรือนำมาแก้ไขปัญหาในบริเวณที่มีร่องลึก แต่สำหรับยี่ห้อนี้ มีส่วนผสมของยาชาเพื่อบรรเทาอาการบาดเจ็บระหว่างฉีดทุกรุ่น เราไปดูกันเลยดีกว่าว่าแต่ละรุ่นจะเหมาะสำหรับนำไปฉีดจุดไหนได้บ้าง และแต่ละรุ่นนั้น ให้ผลลัพธ์นานกี่เดือน
RHA 1
ในรุ่นนี้จะมีเนื้อเจลที่ให้ความยืดหยุ่นสูง มีความเข้มข้นของ HA อยู่ที่ 15 ml. เหมาะสำหรับนำมาเติมเต็มในบริเวณที่มีริ้วรอยเส้นเล็ก ๆ บนใบหน้า เพื่อเพิ่มความอิ่มฟูให้กับชั้นผิว เช่น ริ้วรอยที่อยู่บริเวณเหนือริมฝีปาก ลำคอ เนินอก และสามารถช่วยลดเลือนความหมองคล้ำบริเวณใต้ตาได้ดีอีกด้วย
ระยะเวลาของผลลัพธ์ : 12 เดือน (*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับรายบุคคล)
RHA 2
ต่อมา ในรุ่นนี้จะเหมาะสำหรับนำมาเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกระดับปานกลาง มาพร้อมความเข้มข้นของ HA อยู่ที่ 23 ml. จึงทำให้ตัวเนื้อเจลมีความนิ่มแต่ยังแข็งกว่ารุ่น RHA1 สามารถนำมาเติมบริเวณร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ร่องคิ้ว รอยตีนกา หรือเสริมหน้าผากให้มีความโหนกนูนมากยิ่งขึ้น หรือจะนำมาจัดแต่งริมฝีปากให้ดูอวบอิ่มมากยิ่งขึ้นได้ค่ะ
ระยะเวลาของผลลัพธ์ : 12-18 เดือน (*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับรายบุคคล)
RHA 3
รุ่น RHA 3 จะมีความเข้มข้นของ HA อยู่ที่ 23 ml. ตัวเนื้อเจลค่อนข้างแน่น สามารถยืดหยุ่นตัวได้เป็นอย่างดี มันจึงถูกนำมาฉีดในบริเวณชั้นผิวลึก และฉีดเพื่อเติมเต็มในตำแหน่งที่มีริ้วรอยร่องลึก หรือในบริเวณที่ขยับใบหน้าอยู่บ่อย ๆ เช่น ร่องน้ำหมาก ร่องแก้ม หรือเพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากไม่แห้งกร้าน
ระยะเวลาของผลลัพธ์ : 12-18 เดือน (*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับรายบุคคล)
ULTRA DEEP
ในส่วนของรุ่น ULTRA DEEP เป็นเนื้อเจลแข็งและนำมาจัดอยู่ในกลุ่ม Volumizers ที่เน้นไปทางการเติมเต็มวอลลุ่มให้กับผิวชั้นลึก หรือชั้นใต้กล้ามเนื้อ เพื่อให้ผิวในบริเวณนั้น มีความอิ่มฟูมากยิ่งขึ้น นิยมนำมาใช้ในการยกกระชับ ปรับรูปหน้า หรือเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกได้อย่างเป็นธรรมชาติ มีความเข้มข้นของ HA 25 ml. ซึ่งเป็นความเข้มข้นที่สูงกว่าทุกรุ่นเลยค่ะ
ระยะเวลาของผลลัพธ์ : 12-18 เดือน (*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับรายบุคคล)
REDENSITY 1
สำหรับรุ่นนี้ ความเข้มข้นของ HA จะน้อยกว่ารุ่นอื่น ๆ อยู่ที่ 15 ml. ซึ่งมันจะเหมาะสำหรับนำมาฟื้นฟูบำรุงผิวหน้า ให้ความชุ่มชื้น มอบความฉ่ำวาวให้กับผิว อีกทั้งยังช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ และป้องกันความชราภาพของผิวหน้าได้ดี ทำให้ผิวกลับมาสดใสได้อีกครั้ง
ระยะเวลาของผลลัพธ์ : อย่างน้อย 3 เดือน (*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับรายบุคคล)
REDENSITY 2
รุ่นสุดท้าย ก็จะมีความเข้มข้นของ HA เหมือนกับรุ่น REDENSITY 1 คืออยู่ที่ 15 ml. ซึ่งรุ่นนี้ก็จะเด่นในเรื่องของการแก้ไขปัญหาบริเวณรอบดวงตา ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาใต้ตาชั้นลึก ลดเลือนความหมองคล้ำ เติมร่องน้ำตา และช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิวบริเวณรอบดวงตา
ระยะเวลาของผลลัพธ์ : อย่างน้อย 12 เดือน (*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับรายบุคคล)
ฉีดเทออกเซนบริเวณไหนได้บ้าง
เทออกเซนสามารถนำมาฉีดได้หลายจุดบนใบหน้าเช่นเดียวกับยี่ห้ออื่น ๆ แต่จะนิยมฉีดในส่วนที่มีการขยับเขยื้อนบ่อยมากที่สุดค่ะ แต่เราจะมาแยกให้ดูว่า หากฉีดเข้าไปในแต่ละตำแหน่งนั้น สามารถนำเข้าไปเติมเต็มเพื่อแก้ไขปัญหาอะไรได้บ้าง
- บริเวณใต้ตาและรอบดวงตา – ลดความหมองคล้ำ แก้ไขริ้วรอยบริเวณรอบดวงตา หางตา รอยตีนกา และให้รอบดวงตามีความชุ่มชื้น
- บริเวณระหว่างคิ้ว – ลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย เนื่องจากเป็นจุดที่มีการแสดงสีหน้าอยู่บ่อย ๆ
- บริเวณหน้าผาก – เสริมความโหนกนูนให้กับหน้าผาก และช่วยลดริ้วรอยเล็ก ๆ
- บริเวณขมับ – เติมเต็มขมับยุบให้ดูฟูขึ้น ช่วยปรับให้ใบหน้าดูอ่อนยาวลงได้
- บริเวณแก้ม – ให้แก้มดูมีวอลลุ่มมากยิ่งขึ้น
- บริเวณร่องน้ำหมากและร่องแก้ม – แก้ไขปัญหาร่องลึกให้ตื้นขึ้น
- บริเวณริมฝีปาก – ปรับริมฝีปากให้ดูอวบอิ่มเข้ากับใบหน้า และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากสุขภาพดี
- บริเวณคาง – ปรับรูปคางให้ยาวขึ้น ทำให้ได้ใบหน้าที่ดูเรียวสวย
- บริเวณกรอบหน้า – ยกกระชับปรับรูปหน้าแนว Jaw Line
- บริเวณลำคอ – ลดริ้วรอยแห่งวัยให้ตื้นขึ้น
- บริเวณหน้าอก – แก้ไขริ้วรอยเส้นเล็ก ๆ ให้ดูเรียบเนียน
เปรียบเทียบ Teoxane และ Juvederm แตกต่างกันอย่างไร
เนื่องจาก เทออกเซนเป็นแบรนด์น้องใหม่ที่เพิ่งได้นำเข้ามา ทำให้หลายคนอยากทราบว่า มันมีจุดเด่นที่แตกต่างจากยี่ห้ออื่น ๆ อย่างไร ในบทความนี้ ก็เลยจะพามาเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง Teoxane vs Juvederm สารเติมเต็มจากสหรัฐอเมริกาที่หลายคนคุ้นตาเป็นอย่างดีนั่นเอง
Teoxane แท้ เช็กยังไง
จุดที่ 1 : มีสติกเกอร์ข้างกล่อง และจะต้องปิดสนิทไม่มีการฉีกหรือแกะออกมาก่อน
จุดที่ 2 : มีเลขทะเบียนอย. และเอกสารกำกับภาษาไทยทุกกล่อง
จุดที่ 3 : หน้ากล่องสามารถขูดสแกน QR Code ได้ เป็นการยืนยันการใช้ฟิลเลอร์แท้
จุดที่ 4 : ต้องมีเลข Lot. ตรงกันทั้ง 3 จุด ได้แก่ ด้านล่างกล่อง , หลังบรรจุภัณฑ์ Syringe และตรง Syringe
แต่! หากยังไม่ชัวร์ สามารถโทรไปสอบถามเลข Lot. ได้ที่บริษัทผู้นำเข้าหนึ่งเดียวในประเทศไทย (บริษัท BJL) ที่เบอร์ 02- 146-5445 และที่สำคัญเราสามารถนำกล่องผลิตภัณฑ์กลับบ้านได้ทุกกล่องค่ะ
การเตรียมตัวก่อนฉีดเทออกเซน
- หลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์หน้า หรือทำหัตถการที่เกี่ยวกับความร้อนในบริเวณที่ต้องการฉีด
- ก่อนทำ 24 ชั่วโมง ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว แนะนำให้ใช้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นต่อผิวแทน
- งดรับประทานยากลุ่มที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
- สำหรับใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับผิวหนัง หรือมีภาวะผิวหนังอักเสบ แนะนำว่าให้รักษาให้หายดีก่อนเข้ารับบริการ
- ใครที่มีประวัติการแพ้ยาชา มีโรคประจำตัว หรือต้องรับประทานยาตัวไหนเป็นประจำ ควรแจ้งข้อมูลให้แพทย์ทราบอย่างละเอียด
การดูแลตัวเองหลังฉีด
- แนะนำให้ดื่มน้ำวันละ 2-3 ลิตร เพื่อเสริมให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า การแกะ การนวด หรือเกาบริเวณที่ฉีด เพราะอาจทำให้สารเติมเต็มผิดรูปได้
- ในช่วงแรก ๆ ให้หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้กับความร้อนทุกรูปแบบ เช่น การอยู่กลางแจ้ง การอยู่หน้าเตาร้อน หรือการอบซาวน่า
- ในช่วง 1-3 วันแรก ให้งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
- หากมีอาการบวมหลังฉีด สามารถประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการบวมได้
- แนะนำให้บำรุงผิวด้วยผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยนและให้ความชุ่มชื้นกับผิว
ฉีดเทออกเซนกับอาจารย์หมอเมฆดียังไง
ความพิเศษที่ทำให้อาจารย์หมอเมฆกลายเป็นแพทย์ที่ได้รับความไว้วางใจมาเป็นอันดับต้น ๆ นั่นก็คือ การเลือกใช้เทคนิคพิเศษเฉพาะ Triple Layers Lift ในการรักษา โดยในแต่ละเคสนั้น ก็จะมีวิธีการฉีดที่แตกต่างกันออกไป รวมไปถึงระดับความลึกของชั้นผิวก็ไม่เหมือนกันด้วย เนื่องจากผู้ที่เข้ารับบริการในแต่ละท่านนั้น ต่างมีปัญหาและสภาพผิวที่ต่างกัน ดังนั้นที่คลินิกของเราจึงให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาแบบเฉพาะบุคคลมากที่สุด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติเท่ากับใบหน้า และยังคงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของบุคคลนั้นเอาไว้ด้วย นอกจากการใช้เทคนิคพิเศษนี้แล้ว ที่นี่เรายังเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นของแท้ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจากอย. ทุกกล่อง การันตีได้จากรางวัลอันดับ 1 คลินิกที่มียอดฉีดสูงสุดในเอเชีย และรางวัลอันดับ 1 คลินิกที่มียอดฉีดสูงสุดรวมทุกแบรนด์ในประเทศไทย 6 สมัยซ้อน
Teoxane ราคาเท่าไหร่
การฉีด Teoxane ราคาเริ่มต้นของคลินิกเราจะอยู่ที่ 11,000 บาท* แต่ต้องบอกก่อนว่าในแต่ละเคสอาจมีค่าบริการที่ไม่เหมือนกัน เนื่องจากแพทย์จะเป็นคนประเมินแบบรายบุคคลและใช้เทคนิคการรักษา ปริมาณ cc ที่ต่างกัน ดังนั้น ค่าบริการจะขึ้นอยู่กับว่าคนไข้มีปัญหาผิวในระดับไหน นอกจากนี้ ในบางเทศกาลทางคลินิกก็จะมีการจัดโปรโมชั่นพิเศษอีกด้วย หากใครสนใจ สามารถเข้ามาติดต่อสอบถามได้ที่ช่องทางการติดต่อของคลินิกได้เลยค่ะ
คำถามที่พบบ่อย
หากฉีดจะเจ็บไหม
มีคนจำนวนไม่น้อยที่อยากฉีดแต่กลัวเจ็บ บอกได้เลยว่า เทออกเซนเป็นแบรนด์ที่มีส่วนผสมของยาชาอยู่ 0.3% ทุกรุ่น เพื่อให้ทุกการฉีดเป็นไปอย่างผ่อนคลาย และบรรเทาอาการเจ็บได้ดีเลยทีเดียว นอกจากนี้ ก่อนฉีดสารเติมเต็มเข้าไป ก็จะมีการแปะยาชาทิ้งไว้เป็นเวลา 30-45 นาที
หลังฉีดกี่วันเห็นผล และอยู่ได้นานกี่เดือน
หลังฉีดไปแล้ว จะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้เลยทันทีตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ* แต่จะไม่ได้เห็นผลแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ เนื่องจากว่า ในช่วงแรกอาจมีในเรื่องของอาการบวมหรือรอยแดงจากเข็ม ซึ่งมันจะต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อให้อาการเหล่านี้หายเป็นปกติ โดยจะเห็นผลได้อย่างชัดเจนหลังฉีดไปแล้ว 2-3 สัปดาห์ค่ะ
หลังฉีดบวมกี่วัน
ในช่วง 2-3 วันแรก จะมีอาการบวมมากที่สุด แต่มันจะค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ หลังฉีดไปแล้ว 7-14 วัน โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อเซลล์ผิว ในระหว่างที่มีอาการบวม คนไข้สามารถรับประทานยาลดบวมตามที่แพทย์สั่ง หรือใช้การประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการได้เลยค่ะ แต่แนะนำให้ใช้เป็นผ้าสะอาดเพื่อลดการปนเปื้อนของเชื้อโรค
หลังฉีดสามารถแต่งหน้าได้ไหม
มีหลายเคสที่กังวลว่าฉีดไปแล้วจะแต่งหน้าไม่ได้ ซึ่งจริง ๆ แล้ว สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติเลย แต่แพทย์จะแนะนำให้แต่งอย่างเบามือ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรงในบริเวณที่มีรอยเข็ม เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งแปลกปลอมจากเครื่องสำอางเข้าไปอุดตันตรงรอยเข็ม แต่ถ้าหากใครไม่ได้มีความจำเป็นที่ต้องแต่งหน้า แพทย์ก็จะแนะนำให้พักฟื้นผิวหน้าไปสัก 1-2 วัน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ
เปลี่ยนยี่ห้อฉีดได้หรือเปล่า
เมื่อคนไข้ฉีดยี่ห้อนึงแล้ว รู้สึกอยากเปลี่ยนไปฉีดอีกยี่ห้อ ก็สามารถเปลี่ยนได้ค่ะ เพียงแต่รอให้สารเติมเต็มของเดิมเกิดการสลายออกให้หมดก่อน จึงจะเริ่มฉีดยี่ห้อใหม่เข้าไปได้ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเลือกฉีดยี่ห้อไหน แนะนำให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด เพื่อที่จะได้เลือกใช้รุ่นที่เหมาะสมกับตำแหน่งและสภาพผิวของเราค่ะ
หลังฉีดเสร็จมีผลข้างเคียงหรือไม่
หลังฉีดเสร็จ ผลข้างเคียงที่สามารถเกิดขึ้นได้ก็คือ อาการบวมแดง ซึ่งเป็นผลมาจากเข็มที่ฉีดเข้าไป เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ในทุก ๆ เคส ไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายหรือส่งผลกระทบใด ๆ ต่อร่างกายและสุขภาพผิว โดยมันจะค่อย ๆ หายไปเองภายใน 3-7 วัน ขึ้นอยู่กับรายบุคคลค่ะ
หลังฉีดเสร็จแล้ว กินอะไรได้บ้าง
อาหารที่จะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็วและชัดเจนมากยิ่งขึ้นก็คือ อาหารที่มีโปรตีน หรืออาหารประเภทกลุ่มผักใบเขียวต่าง ๆ รวมไปถึงผลไม้ ซึ่งสารอาหารเหล่านี้ นอกจากจะช่วยให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นแล้ว ยังมีส่วนช่วยให้รอยเข็มหายเร็วขึ้น และทำให้อาการบวมบรรเทาลงได้ดีขึ้นด้วยค่ะ
หลังฉีดห้ามกินอะไร
จริง ๆ แล้ว มันไม่เชิงห้ามรับประทานเลยซะทีเดียว แต่เป็นการแนะนำให้หลีกเลี่ยงอาหารประเภทรสจัด ของหมักดอง อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ หรืออาหารทะเล เพราะส่วนผสมที่อยู่ในอาหารเหล่านี้ มีส่วนทำให้รอยเข็มหลังฉีดหายช้าลง หรืออาจทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ไม่มีประสิทธิภาพ โดยแพทย์จะแนะนำให้หลีกเลี่ยงในช่วง 3-5 วันหลังฉีด
ถ้ารู้สึกไม่พอใจกับผลลัพธ์สามารถแก้ไขได้ไหม
สามารถแก้ไขได้ค่ะ โดยให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ทำการฉีดสลายสารเติมเต็มออกไป ซึ่งวิธีนี้จะตอบโจทย์สำหรับคนที่ฉีดไปแล้ว เกิดยังไม่พอใจในผลลัพธ์ หรือต้องการแก้ไข เป็นวิธีการที่ง่ายและปลอดภัยที่สุด แต่การฉีดสลายนี้ จำเป็นที่จะต้องเข้ามานัดติดตามอาการว่าหลังจากฉีดสลายไปแล้ว ตัวสารเติมเต็มลดลงไปมากน้อยแค่ไหน ถ้าหากว่ามันยังสลายออกไม่หมด ก็จะต้องเข้ามาฉีดเพิ่มค่ะ
สรุป
Teoxane (เทออกเซน) เป็นสารเติมเต็มที่นำเข้าจากสวิตเซอร์แลนด์ อีกหนึ่งแบรนด์ดังที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากหลายสถาบันทั่วโลก รวมไปถึงประเทศไทย ด้วยจุดเด่นที่คลองใจใครหลาย ๆ คนกับการเติมเต็มผิวได้อย่างล้ำลึก ยกกระชับใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ลงอย่างเป็นธรรมชาติ แต่! ผลลัพธ์ที่ดีไม่ได้ขึ้นอยู่แค่การฉีดด้วยยี่ห้อ Filler ที่ดีเพียงแค่นั้นนะคะ แต่ต้องครอบคลุมไปถึงการเลือกคลินิกที่ดี แพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านการรักษาด้วย จึงจะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจและปลอดภัยมากที่สุดค่ะ
