การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นหัตถการที่กำลังได้รับความนิยมสูงมากในปัจจุบัน แต่เพื่อประโยชน์สูงสุดหลังทำหัตถการ เราจึงนำข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามาฝาก ฉีดแล้วควรระวังอะไรบ้างเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดูดีและอยู่กับเราได้นานที่สุด สำหรับใครที่เพิ่งไปฉีดหรือกำลังวางแผนอยากฉีดเสริมสวย ต้องห้ามพลาดบทความนี้โดยเด็ดขาดเลยค่ะ
หลังฉีดสารเติมเต็มบริเวณใต้ตา แม้ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น แต่มันก็ยังมีข้อปฏิบัติเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราควรทำเพื่อเป็นการดูแลตัวเองให้ผลลัพธ์ออกมาดูดีที่สุด ซึ่งหลังฉีดเสร็จ แพทย์จะแปะปลาสเตอร์ยาบริเวณรอยเข็มให้ เราสามารถแกะออกได้หลังผ่านไป 1 ชั่วโมง และหลังจากนี้ ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ห้ามปฏิบัติ ได้แก่
- ห้ามแตะ แกะ เกา กด นวด หรือสัมผัสบริเวณใต้ตาแรง ๆ เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อหรืออักเสบได้
- สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ แต่ควรหลีกเลี่ยงบริเวณรอยเข็มในช่วง 24 ชั่วโมงแรก
- สามารถล้างหน้าด้วยสบู่อ่อน ๆ ได้ แต่ไม่ควรให้รอยเข็มโดนน้ำเกิน 15 นาที
- ห้ามทาครีมบริเวณรอยเข็ม 1 คืน
- ห้ามทำทรีตเมนต์ รวมถึงการซาวน่าเป็นเวลา 14 วัน
- หลีกเลี่ยงสถานที่ที่อากาศร้อน เพราะจะมีผลให้ใต้ตายุบบวมช้าลง แต่สามารถอยู่ในที่อากาศเย็น ๆ เพื่อช่วยให้ใต้ตาหายบวมเร็วขึ้นได้
- หากมีอาการปวดระบมตอนกลางคืน (เกิดเป็นบางเคส) สามารถรับประทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้ตามปกติ
- ห้ามขยับหรือปรับรูปทรงฟิลเลอร์ด้วยตัวเอง
- ควรนอนให้หัวสูงกว่าหน้าอก และไม่ควรนอนตะแคงในช่วง 2-3 คืนแรก เพื่อป้องกันการกดทับหน้า
- งดเลเซอร์ร้อนลงที่ผิวชั้นลึกอย่างน้อย 1 เดือนหลังทำ
ควรระวังอะไรอีกบ้างหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
นอกจากข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่เราได้นำมาฝากแล้ว เรื่องอาหารการกินก็ควรระวังไม่แพ้กันนะคะ โดยหลังฉีดในช่วง 3-14 วันแรก อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่
เครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ทุกชนิด
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้มีผลต่อการสลายของฟิลเลอร์ก็จริง แต่มีผลต่อกระบวนการสมานแผลค่ะ เนื่องจากเมื่อดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เลือดจะสูบฉีดไปบริเวณใบหน้าเยอะกว่าปกติ มีผลให้รอยเข็มหายช้า หรือมีเลือดออกบริเวณรอยเข็มได้ค่ะ
นอกจากนี้ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังเป็นต้นเหตุของอาการขาดสติ ทำให้ความระมัดระวังตัวของเราน้อยลง จนอาจมีผลให้ทำอะไรกระทบกระเทือนบริเวณที่ฉีดสารเติมเต็มโดยไม่รู้ตัวค่ะ
การสูบบุหรี่
สาเหตุที่ควรงดการสูบบุหรี่ด้วย นั่นเพราะในบุหรี่มีสารหลายชนิดที่ทำให้หลอดเลือดขยายตัว อันเป็นการขัดขวางกระบวนการสมานแผลไม่ต่างจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เลยค่ะ ทั้งยังทำให้ใต้ตาของเรายุบบวมช้า และทำให้ผลลัพธ์หลังฉีดอยู่ได้สั้นลงอีกด้วย
อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ
อาหารประเภทนี้เป็นอาหารที่ไม่ได้ผ่านการปรุงสุก หรือปรุงสุกไม่มากพอ ทำให้เสี่ยงต่อการมีพยาธิปนเปื้อนเข้าไปในร่างกาย ก่อให้เกิดอาการอักเสบบริเวณรอยเข็มตามมา
อาหารหมักดอง
อาหารหมักดองจะคล้าย ๆ กับอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ ตรงที่เสี่ยงต่อการมีพยาธิปนเปื้อนเหมือนกัน เพียงแต่อาหารหมักดองจะมีผลต่ออาการยุบบวมช้าลงด้วย ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงไปก่อนค่ะ
อาหารรสจัด
รวมทั้งอาหารเค็มจัด หวานจัด หรือเผ็ดจัดเลยนะคะ อย่างอาหารเค็มจัดจะมีโซเดียมสูง อันมีผลให้บริเวณที่ฉีดยุบบวมช้าลง ส่วนอาหารที่มีรสหวานจัดก็จะมีฤทธิ์กระตุ้นการอักเสบบนผิวหน้า ทำให้รอยเข็มหายช้ากว่าที่ควร และสุดท้ายคืออาหารเผ็ดจัด อาหารประเภทนี้จะทำให้เลือดสูบฉีดมาบริเวณใบหน้าเยอะมากขณะกิน ทั้งขณะที่กินยังเสี่ยงต่ออาการน้ำตาน้ำมูกไหล จนทำให้โดนบริเวณรอยเข็มและเกิดการติดเชื้อได้ค่ะ
นอกจากนี้ อาหารรสเค็มจัดและเผ็ดจัดมักจะดูดน้ำกลับเข้าสู่ร่างกายค่อนข้างมาก ซึ่งส่งผลให้ร่างกายเกิดภาวะบวมน้ำได้ จึงควรหลีกเลี่ยงไปก่อนหลังฉีด เพื่อให้ผลลัพธ์เข้าที่ได้เร็วขึ้น
อาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ
ทั้งชาบู หมูกระทะ จิ้มจุ่ม ไปจนถึงการทำอาหารหน้าเตาร้อน ๆ เพราะความร้อนจากเตามีผลให้ผิวยืดหดได้มากกว่าปกติ จึงมีผลกระทบต่อการเซ็ตตัวของเนื้อสารเติมเต็มใต้ผิว จนทำให้สารเติมเต็มเซ็ตตัวได้ไม่เต็มที่ จึงควรหลีกเลี่ยงใบหน้าจากความร้อนในช่วง 3-14 วันหลังฉีดค่ะ
อาหารทั้งหมดนี้เราควรงดอย่างน้อย 3 วันหลังฉีดนะคะ แต่ถ้าจะให้ชัวร์ที่สุดคือ ควรงดประมาณ 14 วัน เพื่อรอให้ผลลัพธ์เข้าที่ดีก่อน และนอกจากอาหารที่ควรงดแล้ว เราก็มีสิ่งที่ควรทานเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมามีประสิทธิภาพมากที่สุดด้วยค่ะ สิ่งนั้นก็คือ น้ำเปล่านั่นเอง หลังฉีดสารเติมเต็มบริเวณใต้ตาเราควรดื่มน้ำให้มาก ๆ เนื่องจาก HA-Filler เป็นสารอุ้มน้ำ ดังนั้นการดื่มน้ำจึงเป็นตัวช่วยให้ HA-Filler ขึ้นรูปได้สวยงามและผลลัพธ์อยู่ได้นานมากยิ่งขึ้นค่ะ
แล้วก่อนฉีดมีข้อห้ามที่ควรระวังหรือไม่
ข้อควรระวังก่อนฉีดมีไม่เยอะค่ะ สามารถทำตามได้ดังนี้
- งดทานวิตามินและอาหารเสริมในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนฉีด เช่น วิตามินอี, น้ำมันตับปลา, ใบแปะก๊วย เป็นต้น เพราะจะมีผลให้เกิดรอยฟกช้ำง่ายหลังฉีด
- งดทานยาที่เกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือดเป็นเวลา 1 สัปดาห์ เช่น ยาแอสไพรินและยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs เพราะจะมีผลให้เลือดหยุดไหลยาก
- งดการทายาผลัดเซลล์ผิวบริเวณที่จะฉีด 1 สัปดาห์
- หากต้องการเลเซอร์ใบหน้าก่อนฉีด ควรทำก่อนอย่างน้อย 3 วัน
- ก่อนเข้ารับการฉีด ควรแจ้งแพทย์เรื่องโรคประจำตัว ยาที่แพ้ และประวัติยาที่ทานเป็นประจำอย่างละเอียด
สรุป
ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แม้จะดูเยอะ แต่เมื่ออ่านจริง ๆ แล้วจะพบว่าแต่ละข้อสามารถทำตามได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก เพียงแค่ควรระวังในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น แต่ถ้าหากทำได้ ผลลัพธ์หลังทำก็จะออกมาดูดีสมบูรณ์ ทั้งยังช่วยให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานขึ้นอีกด้วย ดังนั้นใครที่เพิ่งไปฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามา อย่าลืมเซฟข้อปฏิบัติเหล่านี้ไว้ทำตามกันนะคะ